ปัจจุบัน หนึ่งในความท้าทายหลักของไฮโดรเจนคือ ต้นทุนที่สูงกว่าพลังงานจากเชื้อเพลิงฟอสซิล ดังนั้น การนำไฮโดรเจนมาใช้ในระยะเริ่มต้นควรมุ่งเน้นไปที่ ภาคอุตสาหกรรมที่มีความจำเป็นต้องใช้ไฮโดรเจนในกระบวนการผลิต หรือ ไม่มีทางเลือกอื่นที่สามารถทดแทนได้ ซึ่งภาคส่วนเหล่านี้มักถูกเรียกว่า ‘Hard-to-abate sectors’
Hard-to-abate Sectors คืออะไร?
ภาคอุตสาหกรรมที่ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO₂) ได้ยาก เนื่องจากปัจจัยต่างๆ เช่น
- ความต้องการใช้พลังงานความร้อนที่อุณหภูมิสูง
- การปล่อยก๊าซ CO₂ ที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับกระบวนการผลิต ซึ่งไม่สามารถใช้พลังงานไฟฟ้าทดแทนได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การให้ความร้อนอุณหภูมิสูงในกระบวนการ
ดังนั้น ภาคอุตสาหกรรมเหล่านี้จึงเป็น กลุ่มเป้าหมายหลัก สำหรับการนำไฮโดรเจนคาร์บอนต่ำมาใช้เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

วัตถุดิบตั้งต้นในการผลิตไฮโดรเจน
ไฮโดรเจนส่วนใหญ่ในปัจจุบันผลิตจาก ก๊าซธรรมชาติ ซึ่งมีการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในปริมาณมาก หากเปลี่ยนมาใช้ ไฮโดรเจนสีเขียว ที่ได้จากพลังงานหมุนเวียน (เช่น พลังงานจากแสงอาทิตย์ หรือ ลม) จะช่วยลดการปล่อย CO₂ ในกระบวนการผลิต
· การผลิตแอมโมเนีย
แอมโมเนีย (NH₃) เป็นส่วนประกอบสำคัญใน ปุ๋ย สารเคมี และเชื้อเพลิงสะอาดสำหรับเรือขนส่ง ไฮโดรเจนมีบทบาทสำคัญในการผลิตแอมโมเนียในกระบวนการที่เรียกว่า Haber-Bosch คือการรวม ไฮโดรเจน และ ไนโตรเจนเข้าด้วยกันภายใต้ความดันและอุณหภูมิสูง ซึ่งหากใช้ไฮโดรเจนจากแหล่งพลังงานสะอาดจะช่วยลดการปล่อย CO₂ จากการผลิตแอมโมเนีย
· การผลิตเมทานอล
เมทานอล (CH₃OH) เป็นสารเคมีสำคัญในเชื้อเพลิง พลาสติก และเคมีภัณฑ์ โดยผลิตจากไฮโดรเจนและคาร์บอนไดออกไซด์ ที่ได้จากเทคโนโลยีการดักจับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ การใช้ประโยชน์และการกักเก็บคาร์บอน (Carbon Capture Utilization and Storage: CCUS)