เปิดผลงาน 2 ปี ‘กรมลดโลกร้อน’ ขับเคลื่อนไทยสู่การเปลี่ยนผ่านยุคเศรษฐกิจสีเขียว

19 ส.ค. 2568 - 06:24

  • ปี 2565 ประเทศไทยลดก๊าซเรือนกระจกได้แล้ว 65.23 ล้านตัน CO₂e พร้อมยกระดับเป้าหมาย NDC 3.0 ตั้งเป้าปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิไม่เกิน 152 ล้านตัน CO₂e ภายในปี 2573

  • ร่างกฎหมายภูมิอากาศฉบับแรกของไทยเตรียมเสนอ ครม.เพื่อรองรับการพัฒนาเศรษฐกิจ-สังคมคาร์บอนต่ำ คาดผ่านความเห็นชอบของรัฐสภาภายในปี 2569

  • กรมลดโลกร้อนสร้างความร่วมมือจากรากฐาน ตั้งแต่ชุมชน เยาวชน จนถึงภาคธุรกิจ เพื่อขับเคลื่อนสู่เป้าหมาย Net Zero ภายในปี 2608

เปิดผลงาน 2 ปี ‘กรมลดโลกร้อน’ ขับเคลื่อนไทยสู่การเปลี่ยนผ่านยุคเศรษฐกิจสีเขียว

กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม หรือกรมลดโลกร้อน กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จัดกิจกรรมครบรอบ 2 ปีการก่อตั้ง ภายใต้แนวคิด “Collective Climate Action: รวมพลังใจ ลดภัยโลกร้อน” เพื่อนำเสนอผลการดำเนินงานและเดินหน้ายกระดับการจัดการสภาพภูมิอากาศอย่างเป็นรูปธรรม

นายนราพัฒน์ แก้วทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
นายนราพัฒน์ แก้วทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

ในโอกาสนี้ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มอบหมายให้ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงฯ เป็นประธานในพิธี พร้อมกล่าวมอบนโยบายและแสดงความยินดี โดยมีผู้แทนจากภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ ภาคเอกชน และภาคประชาชนร่วมงานอย่างคับคั่ง ณ อาคารกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม กรุงเทพมหานคร

นายนราพัฒน์ แก้วทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
นายนราพัฒน์ แก้วทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

“จากนโยบายสู่การปฏิบัติ” เส้นทางประเทศไทยสู่สังคมคาร์บอนต่ำ

นายนราพัฒน์ แก้วทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม มีบทบาทสำคัญทั้งในระดับชาติและนานาชาติ ในการบริหารจัดการปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่ทวีความรุนแรงขึ้น ควบคู่กับการรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน จึงจำเป็นต้องเร่งทำงานร่วมกับทุกภาคส่วน โดยผสานโอกาสทางเศรษฐกิจและประโยชน์ทางสังคมไปพร้อมกัน พร้อมขอให้ทุกฝ่ายร่วมบูรณาการการทำงานในทิศทางเดียวกัน ยกระดับนโยบายและแผนสู่การปฏิบัติจริง สร้างการมีส่วนร่วมทุกภาคส่วน ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยไปสู่สังคมคาร์บอนต่ำอย่างเป็นรูปธรรม

ดร.พิรุณ สัยยะสิทธิ์พานิช อธิบดีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม
ดร.พิรุณ สัยยะสิทธิ์พานิช อธิบดีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม

ก้าวสำคัญใน 2 ปี “ลดก๊าซเรือนกระจก-พัฒนาระบบ”

ดร.พิรุณ สัยยะสิทธิ์พานิช อธิบดีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า ในรอบ 2 ปีที่ผ่านมา กรมลดโลกร้อนได้ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างเป็นรูปธรรม เดินหน้าสู่เป้าหมายคาร์บอนต่ำ ภายใต้แผนปฏิบัติการด้านการลดก๊าซเรือนกระจกของประเทศ (พ.ศ.2564–2573) โดยในปี 2565 ประเทศไทยสามารถลดก๊าซเรือนกระจกได้ 65.23 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า ซึ่งบรรลุเป้าหมายรายปีที่กำหนดไว้  และยกระดับเป้าหมาย “NDC 3.0” ตั้งเป้าการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิไม่เกิน 152 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า ภายในปี พ.ศ.2573 พร้อมพัฒนาแพลตฟอร์มกลางจัดเก็บข้อมูลก๊าซเรือนกระจกของประเทศและระบบติดตามผล “NDC Tracking System” เพื่อใช้เป็นฐานข้อมูลเชิงนโยบาย

​ในขณะเดียวกัน ได้ขับเคลื่อนแผนการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแห่งชาติ (NAP) ผ่านความร่วมมือกับ 7 กระทรวงหลัก ถ่ายทอดสู่ระดับพื้นที่ผ่านแผนปฏิบัติการด้านการปรับตัวรายสาขา ที่มีมาตรการและเป้าหมายสอดรับกับเป้าหมายการปรับตัวระดับโลก (Global Goal on Adaptation: GGA) รวมถึงพัฒนา “ดัชนีความเสี่ยงสภาพภูมิอากาศประเทศไทย” (Climate Risk Index Thailand) สำหรับประเมินระดับความเปราะบางและความเสี่ยงรายจังหวัด อีกทั้งพัฒนา “ระบบวิเคราะห์ความเสี่ยงในระดับพื้นที่ขนาด 5x5 กิโลเมตร” ประกอบการวางแผนเชิงพื้นที่ที่แม่นยำ พร้อมขยายการดำเนินงานตามแผนการปรับตัวรายสาขาไปยังพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูง

sustainability-dccethailand-2nd-anniversary-SPACEBAR-Photo04.jpg

ร่างกฎหมายภูมิอากาศ จุดเปลี่ยนของประเทศไทยสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน

อีกหนึ่งเป้าหมายสำคัญคือ ร่างพระราชบัญญัติการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งจะเป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนอย่างเป็นระบบและเป็นโอกาสสำคัญในการเปลี่ยนผ่านการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมให้มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่ำ รองรับสถานการณ์โลกในการแข่งขันด้านการค้า การลงทุน และภูมิรัฐศาสตร์ ที่ให้ความสำคัญกับการจัดการปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศด้วยความจริงจังและเข้มข้น ผ่านการใช้ “กลไกราคาคาร์บอนในรูปแบบการจัดสรรสิทธิการปล่อยคาร์บอน” (ETS) “ภาษีคาร์บอน” (Carbon Tax) และ “คาร์บอนเครดิต” ทั้งนี้ ร่าง พ.ร.บ.การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เตรียมการเสนอเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี และคาดว่าจะสามารถผ่านความเห็นชอบของรัฐสภาได้ภายในปี พ.ศ. 2569

sustainability-dccethailand-2nd-anniversary-SPACEBAR-Photo06.jpg

รวมพลังจากฐานรากสู่เป้าหมาย Net Zero

กรมลดโลกร้อน ยังคงสร้างการเปลี่ยนแปลงจากฐานราก สนับสนุนเครือข่าย ทสม. ชุมชน และโรงเรียนต้นแบบสังคมคาร์บอนต่ำ พร้อมเสริมบทบาทเยาวชน และความร่วมมือกับภาคเอกชนทั่วประเทศ เพื่อขับเคลื่อนสู่เป้าหมาย Net Zero ควบคู่กับการเสริมศักยภาพ อปท. พัฒนาองค์ความรู้ด้านภูมิอากาศ และผู้ประกอบการให้ยกระดับผลิตภัณฑ์ที่ยั่งยืน อีกทั้ง ร่วมือกับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม พัฒนาข้อมูลภาพฉายภูมิอากาศ (Climate Projection) ที่มีความละเอียดสูงด้วยแบบจำลองสากลระดับโลก CMIP6 เพื่อใช้ประเมินความเสี่ยงและวางนโยบายได้อย่างแม่นยำ

​“กรมลดโลกร้อน มุ่งมั่นสร้างความร่วมมือทุกภาคส่วน ขับเคลื่อนประเทศไทยให้บรรลุเป้าหมาย Net Zero และมีความพร้อมในการรับมือกับวิกฤตสภาพภูมิอากาศในทุกมิติได้อย่างยั่งยืน”

อธิบดีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม กล่าวทิ้งท้าย

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์