ที่เมืองเบเลง ในป่าฝนแอมะซอนของบราซิล เวทีการประชุม COP30 กำลังเดินหน้าอย่างเข้มข้น ไม่เพียงแค่เรื่องสภาพภูมิอากาศเท่านั้นที่สร้างความตื่นตัว เพราะมีหลายซีนแย่งธีมหลัก โดยหนึ่งในเรื่องที่ผู้เข้าร่วมประชุมจับตาคือการต่อสู้ทางการทูตระหว่าง “ออสเตรเลีย” และ “ตุรกี” ที่ต่างประกาศตัวเป็นคู่แข่งแย่งสิทธิ์เจ้าภาพ COP31 ในปีหน้า
...กาแฟใครเจ๋งกว่ากัน!!
ผู้เข้าร่วมประชุม COP30 อาจแสดงนัยยะจากการเลือกดื่มกาแฟ โดยบูธออสซี่ เสิร์ฟ Flat White ส่วนทาง ตุรกี เสิร์ฟกาแฟรสเข้มข้น ความใกล้ชิดนี้กลับสะท้อนถึงความตึงเครียดของสองประเทศที่ยังไม่ตกลงกัน และสร้างบรรยากาศดราม่าร้อนๆ ในงานประชุมใหญ่ระดับโลก
เสียงเชียร์และความพร้อมของออสเตรเลีย
ออสเตรเลีย เคยเสนอแนวคิดร่วมเป็นเจ้าภาพกับกลุ่มประเทศแปซิฟิก เพื่อเน้นประเด็นระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้นซึ่งกระทบเกาะแปซิฟิกอย่างรุนแรง จอช วิลสัน รัฐมนตรีช่วยด้านสภาพภูมิอากาศออสเตรเลีย ระบุว่าการเสนอของออสเตรเลียได้รับ “การสนับสนุนจากนานาชาติอย่างกว้างขวาง” และการร่วมเป็นเจ้าภาพกับแปซิฟิกถือเป็นโอกาสที่มีเหตุผลและน่าสนใจ
ด้าน ชีวา กาวเดน จาก Greenpeace Australia Pacific เสริมว่า การจัด COP ใกล้บ้านช่วยให้ภูมิภาคแปซิฟิกสามารถสร้างความทะเยอทะยานด้านสภาพภูมิอากาศได้เต็มที่ และยังเป็นสัญญาณว่าภูมิภาคนี้พร้อมยืนหยัดต่อสู้กับวิกฤตโลกร้อน
นอกจากนี้ การเป็นเจ้าภาพในออสเตรเลีย ยังมีประเด็นทางการเมืองภายในและภูมิรัฐศาสตร์ ด้วยการรวมเสียงจากประเทศแปซิฟิก ซึ่งเป็นภูมิภาคที่จีนกำลังขยายอิทธิพล การมี COP ใกล้บ้านจึงทำให้ภาพลักษณ์ของออสเตรเลียเข้มแข็ง ทั้งทางการเมืองและสภาพภูมิอากาศ
ตุรกีไม่ถอย
ในขณะเดียวกัน ตุรกีก็ยืนหยัดไม่ยอมถอย แหล่งข่าวจากคณะผู้แทนตุรกีระบุว่า“โอกาสของตุรกีและออสเตรเลียอยู่ที่ 50-50” ขณะที่ ไอซิน เทอร์พันจิ นักการทูตด้านสภาพภูมิอากาศตุรกีกล่าวอย่างมั่นใจว่า “เรายังคงมุ่งมั่นที่จะเป็นเจ้าภาพ COP31”
ตุรกีได้แสดงความพร้อมด้วยบูธที่ดึงดูดผู้เข้าชมจากการมีนักประดิษฐ์ตัวอักษร สร้างภาพลักษณ์ที่เข้มแข็งและมีเอกลักษณ์ ขณะเดียวกัน การที่ตุรกียืนกรานและไม่ลดข้อเรียกร้อง ทำให้การเจรจาที่เบเลงเข้มข้น
แรงกดดันและความพยายามไกล่เกลี่ย
บราซิลเองไม่อยากเห็นความขัดแย้งลุกลาม โดยแต่งตั้งทูตพิเศษเพื่อผลักดันให้ออสเตรเลียและตุรกีหาข้อตกลงก่อนสิ้นสุดการประชุมวันที่ 21 พฤศจิกายน แต่จนถึงขณะนี้ ทั้งสองฝ่ายยังไม่ยอมถอย นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย แอนโทนี อัลบาเนซ กล่าวว่า ประธานาธิบดีตุรกี เรเจป ไตยิป เออร์โดอัน “ยืนยันจุดยืนต่อการที่ออสเตรเลียยืนหยัดในจุดยืนของตัวเอง”
ความท้าทายของออสเตรเลีย
แม้จะมีเสียงสนับสนุนจากนานาชาติและภูมิภาคแปซิฟิก ออสเตรเลียยังต้องเผชิญคำถามเกี่ยวกับนโยบายพลังงานฟอสซิลของตัวเอง ประเทศนี้เป็นผู้ส่งออกถ่านหินและก๊าซธรรมชาติรายใหญ่ที่สุดของโลก และเป็นหนึ่งในประเทศที่มีอัตราการปล่อยคาร์บอนต่อหัวสูงที่สุดในโลก
รัฐบาลอัลบาเนซตั้งเป้าลดการปล่อยคาร์บอนให้เหลือ 60-72% ของระดับปี 2005 ภายในปี 2035 แต่ขณะเดียวกันก็ขยายโครงการก๊าซธรรมชาติ North West Shelf ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศ ทำให้การเป็นเจ้าภาพ COP31 อาจกลายเป็นกระจกสะท้อนทั้งความมุ่งมั่นและความย้อนแย้งของออสเตรเลีย
กติกาการเลือกเจ้าภาพ
อดีตนักการทูตด้านสภาพภูมิอากาศ เจนนิเฟอร์ มอร์แกน และ ออลเดน เมเยอร์ ชี้ว่าตามกฎของ COP การเลือกเจ้าภาพต้องได้ฉันทามติจากทุกประเทศ และหาก “ออสเตรเลีย” หรือ “ตุรกี” ไม่ถอนตัว หรือไม่สามารถตกลงร่วมจัดงานได้ ทั้งสองประเทศจะพลาดโอกาสนี้ไป
หากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งจะเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ สิทธิ์การเป็นเจ้าภาพ COP31 จะตกเป็นเมืองบอนน์ ประเทศเยอรมนี ซึ่งเป็นที่ตั้งเลขาธิการ UNFCCC แต่ทั้งคู่ก็ยืนยันว่า “เยอรมนีไม่อยากรับหน้าที่นี้”
เราในฐานะคนนอก คงได้แต่จับตาดูอยู่ห่างๆ ว่า “ใครดีกว่ากัน” ระหว่าง Flat White นุ่มๆ แบบ “ออสเตรเลีย” หรือ กาแฟเข้มๆ แบบ “ตุรกี” ที่ต่างพยายามโชว์สไตล์และความมั่นคงด้านสภาพภูมิอากาศ ส่วนใครจะได้สิทธิ์จริงนั้น…Iณ เวลานี้ยังเป็นปริศนา
วันนี้ผ่านมาครึ่งทาง COP30 ยังไม่มีอะไรแน่ชัดสักอย่าง สุดท้าย...เมื่อ “ตาอิน” กับ “ตานา” แย่งปลากัน เราอาจเห็น “ตาอยู่” โฉบปลาตัวนี้ไปกิน คงต้องรอดูต่อไปว่า “ตาอยู่” ผู้นี้จะเป็นคนที่อยากคว้า หรือได้มาเพราะแจ็กพอต?
