ศาสตร์พระราชาตามแนวคิดหลักปรัชญา “เศรษฐกิจพอเพียง” ที่คนไทยคุ้นเคย กำลังกลายกุญแจสำคัญสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของโลก...ทำไมเราถึงสนใจประเด็นนี้
โลกในยุคปัจจุบันกำลังเผชิญกับความท้าทายด้านสภาพภูมิอากาศที่รุนแรงขึ้นอย่างไม่เคยมีมาก่อน อุณหภูมิเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องส่งผลให้เกิดภัยธรรมชาติ ตั้งแต่ไฟป่า น้ำท่วม ภัยแล้ง ไปจนถึงพายุที่รุนแรง ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงทางอาหาร ระบบนิเวศ และคุณภาพชีวิตของประชากรทั่วโลก ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและสังคมที่เกิดขึ้น ยิ่งตอกย้ำความจำเป็นของแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนที่สมดุลและเหมาะสมกับบริบทของแต่ละประเทศ
ในช่วงวันหยุดที่ผ่านมามีเวทีใหญ่ระดับภูมิภาคอาเซียนและเวทีระดับโลก กล่าวถึงหลักปรัชญา “เศรษฐกิจพอเพียง” ในบริบทเรื่อง “ความยั่งยืน” พร้อมกันแบบไม่ได้นัดหมาย นั่นคือเวที Sustainability Expo 2025 มหกรรมความยั่งยืนที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน และเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติสมัยสามัญ ครั้งที่ 80 (UNGA80) ณ นครนิวยอร์ก

มูลนิธิชัยพัฒนาฯ ชู “เศรษฐกิจพอเพียง” สอดรับเทรนด์โลก
หม่อมหลวงจิรพันธุ์ ทวีวงศ์ กรรมการและรองเลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา กล่าวปาฐกถาพิเศษเปิดงาน Sustainability Expo 2025 ความว่า หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง (Sufficiency Economy Philosophy: SEP) ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 พระราชทาน ถือเป็นหลักคิดสากลที่ตอบโจทย์การพัฒนาที่ยั่งยืนตามเป้าหมาย SDGs ของสหประชาชาติ โดยเฉพาะในยุคที่โลกเผชิญความเปลี่ยนแปลงและภัยพิบัติอย่างต่อเนื่อง พร้อมชี้แนวทาง SEP สู่ SDGs ผ่าน 3 หลักการสำคัญบนพื้นฐานความรู้และคุณธรรมในการดำเนินชีวิตและการบริหารจัดการทรัพยากร ได้แก่
- หลักภูมิคุ้มกัน (Resilience) ที่ช่วยรับมือความเสี่ยงและวิกฤต เช่น เกษตรทฤษฎีใหม่ และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์
- หลักความพอประมาณ (Moderation) ที่เน้นใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพและพึ่งพาตนเองก่อนพึ่งพาปัจจัยภายนอก
- หลักความมีเหตุผล (Reasonableness) ที่ต้องพิจารณาทางเลือกอย่างรอบด้าน โดยคำนึงถึงมิติทางสังคม วัฒนธรรม และสิ่งแวดล้อมในท้องถิ่น

นานาชาติยกย่องแนวคิด SEP ปูทาง SDGs
นอกจากนี้ ภายในงาน Sustainability Expo 2025 ยังมีการจัดเสวนาพิเศษในหัวข้อ Sufficiency Economy Philosophy: A Global Conversation โดยมีผู้แทนจากภาคธุรกิจและภาคสังคมระดับนานาชาติ ร่วมเผยมุมมองเศรษฐกิจพอเพียง (SEP) ของประเทศไทย ในฐานะแนวทางที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นกรอบแนวคิดที่สำคัญและสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ของสหประชาชาติ
“เศรษฐกิจพอเพียงไม่ใช่เพียงแนวคิดของประเทศไทย แต่มันเป็นแนวทางที่โลกต้องการในยุคที่ความไม่แน่นอนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว SEP ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันทั้งในระดับบุคคล องค์กร และสังคม เพื่อรับมือกับความท้าทายที่ซับซ้อนและไม่คาดฝัน”
— ดร.ฮันส์-พอล เบิร์กเนอร์ ประธานระดับโลกของ Boston Consulting Group (BCG) กล่าว
เขายังเสริมอีกว่า SEP ช่วยลดการบริโภคเกินความจำเป็น ลดของเสีย และส่งเสริมการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นประเด็นสำคัญที่ธุรกิจทั่วโลกกำลังให้ความสำคัญเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
“พอเพียงแค่ไหน?”
George Kipkiris ตัวแทนเยาวชนจาก Enactus Global และ Resolution Project ที่มีเครือข่ายเยาวชนกว่า 30 ประเทศทั่วโลก ได้สะท้อนมุมมองของคนรุ่นใหม่ที่สนใจ SEP ว่าแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงกระตุ้นให้เราไม่เพียงแค่คิดเรื่องการเติบโต แต่ต้องตั้งคำถามกับตัวเองว่า “เราพอเพียงแค่ไหน?” การตั้งคำถามนี้ช่วยให้ชุมชนของเรามีความพร้อมและความยืดหยุ่นทางสังคม เพื่อให้เราสามารถรับมือกับวิกฤตต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
George ยกตัวอย่างโครงการที่เยาวชนในเครือข่ายของเขาได้ทำ เช่น การลดขยะพลาสติกในชุมชนและส่งเสริมเกษตรกรรมอินทรีย์ ซึ่งล้วนสอดคล้องกับแนวคิด SEP ที่เน้นการพึ่งพาตนเองและใช้ทรัพยากรอย่างมีความรับผิดชอบ
SEP - SDGs สะพานเชื่อมเป้าหมายโลก
SDGs หรือ Sustainable Development Goals เป็นกรอบเป้าหมายระดับโลกที่หลายประเทศยึดถือเพื่อขจัดความยากจน ลดความเหลื่อมล้ำ และปกป้องสิ่งแวดล้อม แต่การบรรลุ SDGs ยังเป็นเรื่องท้าทายเพราะขาดแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจน
“SDGs เป็นเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ แต่ขาดเครื่องมือที่จับต้องได้ SEP คือ ‘ทางเลือก’ ที่ช่วยเติมเต็มช่องว่างนี้ เพราะเป็นกรอบแนวคิดที่ปฏิบัติได้จริง และเน้นที่การพัฒนาที่มีความยั่งยืนอย่างแท้จริง”
— George M. Tsiatis ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง Resolution Project กล่าว
เขาเสริมว่า SEP ช่วยนำไปสู่ “การพัฒนาที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมและเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนอย่างยั่งยืน”

ไทยยืนยันใช้ SEP รับมือวิกฤตโลกร้อนใน 5 ปีสุดท้ายของ SDGs บนเวที UNGA80
สำหรับเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติสมัยสามัญ ครั้งที่ 80 (UNGA80) ณ นครนิวยอร์ก ประเทศไทยในฐานะสมาชิกของประชาคมโลก ได้แสดงจุดยืนชัดเจนผ่านถ้อยแถลงของ นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ โดยระบุว่า “โลกยังต้องการสหประชาชาติ และสหประชาชาติต้องการเรา” พร้อมย้ำถึงความจำเป็นที่ UN ต้องพัฒนาและปรับตัวให้ทันกับยุคสมัย และความสำคัญของ “ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง” ที่เป็นหัวใจของแนวทางพัฒนาที่ยั่งยืนของไทย
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทย เน้นย้ำว่า การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นภัยคุกคามใหญ่ที่สุดของโลกยุคนี้ โดยชี้ให้เห็นว่าอุณหภูมิเฉลี่ยโลกที่เพิ่มขึ้นกว่า 1.2 องศาเซลเซียสแล้ว ส่งผลให้ประเทศเปราะบางทั่วโลกเผชิญวิกฤตรุนแรง ทั้งน้ำท่วม ภัยแล้ง และความมั่นคงทางอาหาร ขณะเดียวกันช่องว่างระหว่างประเทศร่ำรวยและกำลังพัฒนายังคงลึกขึ้น เมื่อกลุ่มที่มีทรัพยากรมากไม่สามารถช่วยเหลือประเทศที่เปราะบางได้อย่างเพียงพอ
“ประเทศไทยเลือกปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเป็นแนวทางหลักในการรับมือกับวิกฤตสภาพภูมิอากาศและความท้าทายด้านความยั่งยืน เพื่อเป็นเข็มทิศนำทางในช่วง 5 ปีสุดท้ายของการบรรลุเป้าหมาย SDGs และเป็นแบบอย่างที่เราหวังว่าจะช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้ประเทศอื่นๆ ทั่วโลก”
— นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวใน UNGA80
การประกาศนี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของไทยที่จะเดินหน้าขับเคลื่อนการพัฒนาที่ยั่งยืนด้วยศาสตร์พระราชา ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และร่วมมือกับพันธมิตรระดับโลกเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงในเชิงบวก

จากเวทีอาเซียน SX2025 สู่เวทีสมัชชาสหประชาชาติ UNGA80 ชี้ให้เห็นว่า SEP หรือหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติว่าเป็นกรอบแนวคิดที่ “สมบูรณ์แบบ” สำหรับการพัฒนาที่ยั่งยืนในยุคปัจจุบัน โดยเฉพาะในยุคที่โลกเผชิญกับความไม่แน่นอนสูง ทั้งวิกฤตสภาพภูมิอากาศ ความเหลื่อมล้ำทางสังคม และการใช้ทรัพยากรอย่างไม่สมดุล
ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญระดับโลก ตัวแทนเยาวชน และผู้นำระดับประเทศต่างยืนยันว่าการนำ SEP ไปปรับใช้ในบริบทต่างๆ ไม่เพียงแต่ช่วยบรรลุ SDGs เท่านั้น แต่ยังสร้างภูมิคุ้มกันให้กับระบบเศรษฐกิจและสังคม เพื่อความยั่งยืนของมนุษยชาติและโลกใบนี้