‘แม่น้ำ’คือสายใยแห่งชีวิต ไม่เพียงหล่อเลี้ยงผู้คน แต่ยังเป็นเส้นเลือดใหญ่ทางเศรษฐกิจ การคมนาคม และการท่องเที่ยวของประเทศ โดยเฉพาะแม่น้ำเจ้าพระยา ที่ถูกขนานนามว่า ‘แม่น้ำแห่งชีวิต’ ของไทย เพราะนอกจากจะเป็นแหล่งน้ำดิบสำคัญด้านอุตสาหกรรมและการเกษตรแล้ว ยังเป็นจุดหมายปลายทางด้านท่องเที่ยวที่สร้างรายได้มหาศาล แต่ปัจจุบันเจ้าพระยากำลังเผชิญปัญหาสิ่งแวดล้อมอย่างหนัก โดยมีขยะกว่า 52 ล้านชิ้นไหลลงสู่ทะเลในแต่ละปี
เพื่อตอบโจทย์การอนุรักษ์สายน้ำ เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) จึงเดินหน้าสนับสนุนโครงการ “สืบสานมรดกแห่งสายน้ำ - แม่น้ำเจ้าพระยา” ร่วมกับพันธมิตรอย่างไอคอนสยาม กรุงเทพมหานคร กองทัพเรือ และกรมเจ้าท่า เนื่องในวันแม่น้ำโลก (World Rivers Day) ปี 2568 นี้ โดยระดม ซีพีอาสากว่า 200 คน ลงพื้นที่เก็บขยะริมแม่น้ำ พร้อมติดตั้ง ทุ่นดักขยะยาว 110 เมตร ป้องกันไม่ให้ขยะไหลลงทะเล ตอกย้ำพันธกิจองค์กรที่มุ่งสู่ Zero Waste 2030 หนึ่งใน 3 Big Goals ด้านความยั่งยืน
ณรงค์ เจียรวนนท์ รองประธานอาวุโส เครือเจริญโภคภัณฑ์ กล่าวว่า แม่น้ำเจ้าพระยาคือสายเลือดใหญ่ของประเทศ แต่กำลังถูกคุกคามด้วยปัญหาขยะและสิ่งแวดล้อม ซีพีจึงร่วมมือกับพันธมิตรทุกภาคส่วนเพื่อจัดการขยะเชิงระบบ ภายใต้แนวคิด Circular Economy ไม่ใช่แค่การเก็บขยะ แต่คือการสร้างจิตสำนึกและการเปลี่ยนแปลงอย่างยั่งยืน
วิเชียร จึงวิโรจน์ ประธานคณะทำงานซีพี 100 ปี กล่าวเสริมว่า ซีพี ดำเนินธุรกิจมายาวนานกว่า 104 ปี โดยร้อยปีแรกคือการวางรากฐานที่มั่นคงให้กับองค์กรและสังคม และจากนี้ไปพันธกิจของเราคือการก้าวสู่อีกศตวรรษแห่งความยั่งยืน ด้วยการดำเนินธุรกิจที่เติบโตควบคู่กับสิ่งแวดล้อมและสังคม กิจกรรมในวันนี้ไม่ใช่เพียงการเก็บขยะ หรือทำความสะอาดริมน้ำ แต่คือการลงมือป้องกันขยะตั้งแต่ต้นทาง พร้อมส่งต่อเข้าสู่ระบบคัดแยกและรีไซเคิลอย่างถูกวิธี
โดยเราได้ติดตั้งทุ่นดักขยะระยะทางกว่า 110 เมตรที่ไอคอนสยาม และเตรียมขยายต่อไปยังท่าเรือสำคัญรวมระยะทางกว่า 3 กิโลเมตร สิ่งเหล่านี้สืบเนื่องจากวัฒนธรรมจิตอาสา ซีพีร้อยเรียงความดี ซึ่งเป็น DNA ขององค์กรที่สืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น และสะท้อนเจตนารมณ์ของเครือซีพีที่จะไม่หยุดเพียงการสร้างความสำเร็จทางธุรกิจ แต่พร้อมสานต่อคุณค่าที่ทำร่วมกับสังคมมาตลอดกว่า 100 ปี เพื่อก้าวสู่ศตวรรษที่ 2 อย่างมั่นคงและยั่งยืน
โครงการนี้ยังสอดคล้องกับ CP 100 ปี ที่ก้าวสู่ศตวรรษที่ 2 แห่งความยั่งยืน โดยไม่หยุดเพียงการสร้างความสำเร็จทางธุรกิจ แต่พร้อมส่งต่อคุณค่าร่วมกับสังคมและสิ่งแวดล้อม ผ่านวัฒนธรรม ‘ซีพีร้อยเรียงความดี’ ที่ดำเนินต่อเนื่องมายาวนาน
ทั้งนี้ พิธีเปิดโครงการได้รับเกียรติจาก ผู้ว่าฯ กทม. ‘ชัชชาติ สิทธิพันธุ์’ เป็นประธาน พร้อมด้วยตัวแทนกองทัพเรือ กรมเจ้าท่า สมาคมธุรกิจในแม่น้ำ และภาคการท่องเที่ยว ร่วมลงเรือเก็บขยะริมแม่น้ำ สะท้อนถึงพลังความร่วมมือของรัฐ เอกชน และประชาชน
กิจกรรมครั้งนี้ไม่เพียงสร้างผลลัพธ์ด้านสิ่งแวดล้อม แต่ยังมีนัยสำคัญต่อเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว เพราะการรักษาความสะอาดของเจ้าพระยา คือการสร้างเสน่ห์และความยั่งยืนของ ‘สายน้ำแห่งชีวิต’ที่จะยังคงคุณค่า ทั้งด้านการค้า การคมนาคม และการท่องเที่ยว ให้คนรุ่นต่อไปได้ภาคภูมิใจ
