GCNT Expo 2025 เร่งเครื่องความยั่งยืนประเทศไทยฝ่าวิกฤตโลก

30 ก.ค. 2568 - 07:19

  • สมาคมเครือข่ายโกลบอลคอมแพ็กแห่งประเทศไทย เปิดฉากงาน “GCNT Expo 2025” เร่งเดินหน้าเป้าหมาย SDGs รวมพลังฝ่าวิกฤตโลก

  • สหประชาชาติ-ยูนิเซฟ หนุนไทยก้าวสู่ความยั่งยืนท่ามกลางวิกฤตรอบด้านทั้ง “ภูมิรัฐศาสตร์-AI-สิ่งแวดล้อม”

  • ศุภชัย เจียรวนนท์ เผยหลักคิด “3D” ความท้าทายใหญ่ของยุคสมัย คือโอกาสทองของประเทศไทย พร้อมย้ำ “สันติภาพ” คือรากฐานของทุกการพัฒนา

GCNT Expo 2025 เร่งเครื่องความยั่งยืนประเทศไทยฝ่าวิกฤตโลก

สมาคมเครือข่ายโกลบอลคอมแพ็กแห่งประเทศไทย (GCNT)  จัดงาน “GCNT EXPO 2025: Forward SDGs Faster Together รวมพลังเร่งสร้างโลกที่ยั่งยืน” เวทีความร่วมมือด้านความยั่งยืนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เพื่อการขับเคลื่อนประเทศสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) ภายในปี 2030 ท่ามกลางความท้าทายระดับโลกที่ถาโถมทั้งด้านสิ่งแวดล้อม เทคโนโลยี และความขัดแย้งระหว่างประเทศ ซึ่งจัดขึ้นภายใต้กรอบแนวคิด “7 Transformations” ได้แก่ Table, Tourism, Tech, Trade, Transition, Talent และ Trust งานนี้เป็นพื้นที่บ่มเพาะความร่วมมือระดับชาติ ที่รวบรวมภาคธุรกิจ ภาครัฐ ภาคประชาสังคม สถาบันการศึกษา เยาวชน และสื่อมวลชน เพื่อเร่งสร้างผลลัพธ์เชิงรูปธรรมจากเป้าหมายทั้ง 17 SDGs ให้เกิดขึ้นจริงและวัดผลได้ พร้อมชูบทบาทของธุรกิจไทยในฐานะพลังหลักของการเปลี่ยนแปลงอย่างยั่งยืน

สหประชาชาติ-ยูนิเซฟ หนุนไทยก้าวสู่ความยั่งยืนท่ามกลางวิกฤตรอบด้าน

พิธีเปิดงาน GCNT EXPO 2025 Kyungsun Kim United Nations Resident Coordinator in Thailand ad interim, Representative of UNICEF Thailand กล่าวถ้อยแถลงว่าด้วยเรื่องของภัยคุกคาม 3 ด้าน ประกอบด้วย ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และวิกฤตสภาพภูมิอากาศ ซึ่งกำลังชี้ชะตาอนาคตของมนุษยชาติ โดยได้เน้นย้ำถึงสถานการณ์อันเร่งด่วนที่มนุษยชาติกำลังเผชิญหน้ากับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ความยากจนที่ยังคงอยู่ ความไม่เท่าเทียมที่เพิ่มขึ้น และความเหลื่อมล้ำทางเทคโนโลยี

Kyungsun Kim United Nations Resident Coordinator in Thailand ad interim, Representative of UNICEF Thailand
Kyungsun Kim United Nations Resident Coordinator in Thailand ad interim, Representative of UNICEF Thailand

“ตอนนี้เรากำลังเผชิญหน้ากับ ‘จุดพลิกผัน’ แต่ไม่ใช่จุดผลิกผันที่เต็มไปด้วยความสิ้นหวัง เพราะเรามีความหวังและเกิดขึ้นได้ด้วย ‘พลังแห่งการร่วมมือ’ ของเราทุกคน”

Kyungsun Kim United Nations Resident Coordinator in Thailand ad interim, Representative of UNICEF Thailand กล่าวในงาน GCNT EXPO 2025

ทั้งนี้ บทบาทของภาคธุรกิจไม่ได้จำกัดอยู่เพียงการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ แต่ยังเป็นผู้บุกเบิกนวัตกรรมและเทคโนโลยีสะอาด ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการระดมทุน ลดช่องว่างทางการเงิน และเร่งให้โลกบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ได้อย่างแท้จริง ดังนั้น การสร้างความร่วมมือระหว่างภาคธุรกิจ ภาครัฐ และภาคประชาสังคม จึงเป็นรากฐานสำคัญของการเปลี่ยนคำมั่นสัญญาสู่ผลลัพธ์ที่จับต้องได้ และการพัฒนาใดๆ ต้องมี “ผู้คน” เป็นศูนย์กลาง โดยเฉพาะเยาวชนและกลุ่มเปราะบาง เพราะพวกเขาคือพลังที่ขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงอย่างยั่งยืน Kyungsun Kim กล่าวย้ำ

“3D” ความท้าทายใหญ่ของยุคสมัย คือโอกาสทองของประเทศไทย

คุณศุภชัย เจียรวนนท์ นายกสมาคมเครือข่ายโกลบอลคอมแพ็กแห่งประเทศไทย และประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด
คุณศุภชัย เจียรวนนท์ นายกสมาคมเครือข่ายโกลบอลคอมแพ็กแห่งประเทศไทย และประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด

คุณศุภชัย เจียรวนนท์ นายกสมาคมเครือข่ายโกลบอลคอมแพ็กแห่งประเทศไทย เสวนาในหัวข้อ “Forward SDGs Faster Together-Visions to Actions” ร่วมกับ นครินทร์ วนกิจไพบูลย์ พร้อมพูดคุยถึงแนวคิดความท้าทายโลก “3D” ได้แก่

  • Digitalization: การเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลและ AI ที่แม้จะเป็นโอกาสสำคัญ แต่หากไร้การกำกับก็อาจสร้างความเหลื่อมล้ำและความเสี่ยงใหม่ทางเทคโนโลยี
  • Deglobalization: การทวนกระแสโลกาภิวัตน์ เมื่อโลกเริ่มแบ่งขั้ว ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มสูงขึ้นกำลังบั่นทอนความร่วมมือข้ามพรมแดนที่จำเป็นต่อการแก้ปัญหาโลก ความร่วมมือระหว่างประเทศจึงต้องลึกซึ้งและจริงใจยิ่งกว่าเดิม
  • Decarbonization: การลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนเพื่อเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อม คือภารกิจเร่งด่วนของมนุษยชาติ หากไม่เร่งแก้ไข จะส่งผลโดยตรงต่อความมั่นคงด้านอาหารและคุณภาพชีวิตของประชาชน

สันติภาพและเสถียรภาพ คือรากฐานของทุกการพัฒนา

GCNT Expo 2025
GCNT Expo 2025

คุณศุภชัย เน้นย้ำความสำคัญของการสร้าง “Trust” และระบบธรรมาภิบาลระหว่างประเทศ (Global Governance) เพื่อเสริมรากฐานของสันติภาพ (SDGs เป้าหมายที่ 16) การใช้ทรัพยากรร่วมกันอย่างยั่งยืน พร้อมเตือนถึงความเสี่ยงของ Greenwashing และเรียกร้องให้มีการผลักดัน ESG Reporting ที่โปร่งใสและตรวจสอบได้ โดยชูตลาดทุนเป็นกลไกสำคัญในการยกระดับมาตรฐานความยั่งยืนของธุรกิจไทย

“ทุกบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ควรทำรายงานความยั่งยืนและ SDGs ปี 2024 บริษัทในตลาดหลักทรัพย์ไทย เปิดเผยรายงานความยั่งยืนประมาณ 70% เพิ่มขึ้นจากปี 2022-2023 ซึ่งรายงานอยู่ที่ประมาณ 40%”

คุณศุภชัย ระบุ

ในมุมมองของภาคเอกชน การกำหนดเป้าหมายและการลงมือปฏิบัติจริง ถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการขับเคลื่อนสู่ความยั่งยืน หากภาคเอกชนทุกภาคส่วนร่วมมือกันขับเคลื่อนเป้าหมาย SDGs (Sustainable Development Goals) อย่างจริงจัง ความสำเร็จก็จะเกิดขึ้นได้อย่างเป็นรูปธรรม ทั้งนี้ ภาคเอกชนควรเป็น Catalyst หรือผู้เร่งการเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจที่ยั่งยืน และไม่ควรมองการลงทุนด้าน SDGs ว่าเป็นภาระ เพราะในระยะยาว “เป็นความคุ้มทุน” ที่กลับมาในรูปของเสถียรภาพและความยั่งยืนทั้งในระดับธุรกิจและสังคมโดยรวม

GCNT Expo 2025
GCNT Expo 2025

“ในกลไกตลาด สินค้าหรือนวัตรกรรมที่ถูกสร้างขึ้นมา หากอยู่บนพื้นฐานเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals) หรือสร้างขึ้นมาตอบโจทย์ความยั่งยืนทั้ง 17 ข้อ อย่าไปมองว่าไม่คุ้มทุน ถ้าเราต่างคนต่างทำมันอาจไม่คุ้มทุน แต่ถ้าเราทำทั้งอุตสาหกรรมต้องคุ้มทุนแน่นอน”

นายกสมาคมเครือข่ายโกลบอลคอมแพ็กแห่งประเทศไทย และประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด กล่าว

ในมิติการศึกษา นายศุภชัยได้เสนอแนวคิดในการจัดตั้ง “ศูนย์การเรียนรู้ด้าน SDGs” ในโรงเรียนทั่วประเทศ เพื่อปลูกฝังเยาวชนให้สามารถคิดเป็น ทำเป็น และแก้ปัญหาได้จริง โดยเปิดพื้นที่ให้ภาคเอกชนเข้ามาสนับสนุนเป็นแหล่งเรียนรู้และทดลองนวัตกรรมเพื่อสังคม พร้อมกันนี้ยังเสนอแนวทางแก้ปัญหาคอร์รัปชั่นเชิงโครงสร้าง โดยการผลักดัน Digital ID และการเข้าสู่ สังคมไร้เงินสด (Cashless Society) ที่จะช่วยลดช่องโหว่ของระบบเศรษฐกิจใต้ดินซึ่งมีมูลค่าสูงถึง 50% ของ GDP ประเทศไทย

Innovation for Sustainability

ภายในงาน GCNT EXPO 2025 บนเวทีเสวนา “Innovation for Sustainability” เจาะลึกนวัตกรรมเพื่อโลกที่ยั่งยืน ผู้นำด้านความยั่งยืนจากองค์กรระดับโลก ร่วมถอดรหัสแนวทางการสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อเป้าหมาย SDGs อย่างเป็นรูปธรรม นำโดย ดร.ธีระพล ถนอมศักดิ์ยุทธ ประธานคณะผู้บริหารด้านความยั่งยืนองค์กรและการพัฒนากลยุทธ์ เครือเจริญโภคภัณฑ์ และ คุณอภิพร อดุลย์พิจิตร ผู้อำนวยการด้านงานวิจัยและพัฒนาอาหาร กลุ่มประเทศเอเชีย (Greater Asia) บริษัท ยูนิลีเวอร์ ประเทศไทย

ดร.ธีระพล ถนอมศักดิ์ยุทธ ประธานคณะผู้บริหารด้านความยั่งยืนองค์กรและการพัฒนากลยุทธ์ เครือเจริญโภคภัณฑ์
ดร.ธีระพล ถนอมศักดิ์ยุทธ ประธานคณะผู้บริหารด้านความยั่งยืนองค์กรและการพัฒนากลยุทธ์ เครือเจริญโภคภัณฑ์

“การขับเคลื่อนองค์กรด้วย AI ไม่ใช่แค่การมีเทคโนโลยี แต่คือการเร่งปรับโครงสร้าง ทีม และวัฒนธรรมให้พร้อมรับการเปลี่ยนแปลง และทำงานร่วมกับ AI อย่างมีคุณค่า เพราะ AI ไม่ใช่คู่แข่ง แต่เป็นพลังเสริมของมนุษย์ในการคิดและสร้างสิ่งใหม่ๆ ซึ่งพลังนี้จะเปลี่ยนเป้าหมาย Net Zero, Zero Waste และลดความเหลื่อมล้ำ ซึ่งเป็น 3 Big Goals ของเครือซีพี ให้กลายเป็นจริงได้”

ดร.ธีระพล ถนอมศักดิ์ยุทธ ประธานคณะผู้บริหารด้านความยั่งยืนองค์กรและการพัฒนากลยุทธ์ เครือเจริญโภคภัณฑ์ กล่าวบนเวทีเสวนา “Innovation for Sustainability” ในงาน GCNT EXPO 2025

ดร.ธีระพล ยังเสนอแนวทางเร่งด่วน 6 ประการที่องค์กรควรเร่งดำเนินการเพื่อปรับตัวในยุคเปลี่ยนผ่าน ได้แก่ 1) การปรับวิธีคิดและรูปแบบธุรกิจ (Business Reinvention) 2) ลดการพึ่งพาผู้เดียวและเสริมความยืดหยุ่นของห่วงโซ่อุปทาน 3) สร้างพันธมิตรเชิงเศรษฐกิจและเทคโนโลยีที่หลากหลาย 4) ยกระดับทักษะดิจิทัล (Digital Literacy) ให้ทันโลก 5) จัดการทรัพยากรอย่างรับผิดชอบเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน และ 6) ยึดมั่นในหลักสากลในการมีส่วนร่วมระดับโลก (Principle-based Engagement) พร้อมย้ำว่า AI ต้องไม่ใช่แค่เครื่องมือทดลอง แต่คือ “พลังเร่งการเปลี่ยนแปลง” ที่ต้องถูกนำมาใช้จริง ด้วยแนวทางสำคัญอย่างการขยับเร็ว-ขยายไว (Move Fast, Scale Rapidly), ปรับองค์กร (Rewire Organization), สร้างทักษะ AI (Build Core Competency) และทำงานร่วมกับ AI อย่างมีคุณค่า (Human-in-the-loop)

ดร.ธีระพล ถนอมศักดิ์ยุทธ ประธานคณะผู้บริหารด้านความยั่งยืนองค์กรและการพัฒนากลยุทธ์ เครือเจริญโภคภัณฑ์ และคุณอภิพร อดุลย์พิจิตร ผู้อำนวยการด้านงานวิจัยและพัฒนาอาหาร กลุ่มประเทศเอเชีย (Greater Asia) บริษัท ยูนิลีเวอร์ ประเทศไทย
ดร.ธีระพล ถนอมศักดิ์ยุทธ ประธานคณะผู้บริหารด้านความยั่งยืนองค์กรและการพัฒนากลยุทธ์ เครือเจริญโภคภัณฑ์ และคุณอภิพร อดุลย์พิจิตร ผู้อำนวยการด้านงานวิจัยและพัฒนาอาหาร กลุ่มประเทศเอเชีย (Greater Asia) บริษัท ยูนิลีเวอร์ ประเทศไทย

ด้านคุณอภิพร อดุลย์พิจิตร จากยูนิลีเวอร์ ชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของ “จุดมุ่งหมายหลัก (Purpose)” ที่ฝังแน่นในองค์กรทั่วโลกกว่า 190 ประเทศ รวมถึงประเทศไทย โดยปัจจุบันลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน Scope 1 และ 2 ได้แล้ว 72% พร้อมตั้งเป้าลด 100% ภายในปี 2030 และมุ่งลด Scope 3 ซึ่งครอบคลุมกิจกรรมตลอดห่วงโซ่อุปทานอีก 42% ภายในปีเดียวกัน พร้อมเน้นย้ำว่า “คน” คือหัวใจสำคัญของการขับเคลื่อนสู่ความยั่งยืน และยกตัวอย่างโครงการสำคัญ เช่น โครงการเกษตรฟื้นฟู ที่ดูแลทั้งคุณภาพชีวิตเกษตรกรและระบบนิเวศ หรือแนวทางการจัดการน้ำอย่างครบวงจร ซึ่งเป็นยุทธศาสตร์สำคัญในการสร้างห่วงโซ่อาหารที่ยั่งยืน

GCNT Expo 2025
GCNT Expo 2025

โลกยั่งยืนต้องเริ่มที่ “ความไว้ใจ” และ “การลงมือทำร่วมกัน”

GCNT Expo 2025 ถือเป็นพื้นที่ต้นแบบของความร่วมมือระดับประเทศ ที่จะจุดประกายพลังใหม่สู่การเปลี่ยนผ่านประเทศไทยสู่ความยั่งยืนอย่างเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะการผลักดันนโยบายส่งเสริมการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน การสนับสนุนนวัตกรรมและโมเดลธุรกิจที่ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจและสังคม รวมถึงการพัฒนาแรงงานและเยาวชนด้วยทักษะแห่งอนาคต 

GCNT Expo 2025
GCNT Expo 2025
GCNT Expo 2025
GCNT Expo 2025
GCNT Expo 2025
GCNT Expo 2025

งานนี้ไม่เพียงเป็นงานประชุมเพื่อพูดคุย การสร้าง Awareness แต่คือเวทีแห่ง “การลงมือทำ” ผ่านกิจกรรมกว่า 70 เวทีเสวนา 60 เวิร์กชอป และ 40 นิทรรศการ ที่ครอบคลุมเนื้อหาความยั่งยืนในทุกมิติ ตั้งแต่ Green Finance, Food Tech, Circular Economy ไปจนถึงการใช้ AI อย่างรับผิดชอบ และการสร้างแรงงานแห่งอนาคต ครอบคลุมทุกมิติความยั่งยืน

เมื่อโลกเผชิญกับ Breaking Point การเดินหน้าสู่ความยั่งยืนจึงต้องเกิดจากทุกความร่วมมือ ผู้ที่สนใจสามารถเข้าร่วมงาน GCNT Expo 2025 ได้ตลอด 3 วันเต็ม ตั้งแต่ 29-31 กรกฎาคม 2568 ณ ทรู ดิจิทัล พาร์ค กรุงเทพฯ (ไม่มีค่าใช้จ่าย) สามารถติดตามรายละเอียดและลงทะเบียนเข้างานล่วงหน้าได้ที่ https://expo.globalcompact-th.com แล้วมาร่วมเป็นพลังแห่งความเปลี่ยนแปลง ใน GCNT EXPO 2025: Forward SDGs Faster Together รวมพลังเร่งสร้างโลกที่ยั่งยืน ไปด้วยกัน

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์