ในโลกที่อาหารไม่ใช่เพียงเรื่องของรสชาติอีกต่อไป แต่คือการถ่ายทอดอัตลักษณ์ วิถีชีวิต และ Soft Power ของประเทศ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ (CPF) ก้าวเข้ามามีบทบาทสำคัญ ด้วยการเป็นหนึ่งในพันธมิตรหลักของเวทีแข่งขันเชฟเยาวชนระดับอุดมศึกษา “Gourmet & Cuisine Young Chef 2025” ร่วมกับ กูร์เมท์ ที่จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “Local to Global – จากรสชาติท้องถิ่นสู่เวทีโลก”
CPF ไม่เพียงสนับสนุนวัตถุดิบระดับพรีเมียมอย่าง ‘หมูดำซีพี–คูโรบูตะ’ ทั้งสันคอและสันนอกให้แก่ผู้เข้าแข่งขัน แต่ยังส่งต่อแนวคิดสำคัญว่า วัตถุดิบที่ดีคือจุดเริ่มต้นของอาหารที่ยั่งยืนและทรงคุณค่า

ศุภรา ศรีบูรณ์ ผู้อำนวยการ ธุรกิจการค้าในประเทศ CPF เผย เวทีนี้เป็นมากกว่าการแข่งขัน แต่คือการลงทุนในอนาคตของอาชีพเชฟไทย โดย ‘หมูดำซีพี-คูโรบูตะ’ คือผลิตผลจากการเลี้ยงดูอย่างพิถีพิถันในฟาร์มระบบปิดที่ได้มาตรฐานสากล เลี้ยงด้วยธัญพืช 100% ปราศจากสารเร่งเนื้อแดง ทำให้เนื้อสัมผัสนุ่ม ชุ่มฉ่ำกว่าหมูปกติทั่วไป มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว และโภชนาการสูง เป็นที่ยอมรับในวงการอาหารระดับมืออาชีพ

ภายในงานยังมีการสาธิตการปรุงอาหารจากเชฟชื่อดัง ‘เชฟเบสท์–ณัฐธนนท์’ เจ้าของร้าน Lucky’s Hungry ที่เผยเทคนิคการครีเอทจานจาก ‘หมูดำซีพี-คูโรบูตะ’ ให้ทั้งสร้างสรรค์และน่าทึ่ง พร้อมเปิดตัว 10 ทีมสุดท้าย จากกว่า 70 ทีมทั่วประเทศ ที่จะเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศในเดือนกันยายนนี้

CPF กับแนวคิด ESG และ Soft Power ที่สัมผัสได้ในทุกจาน
CPF ยังตอกย้ำพันธกิจด้าน ESG (สิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล) ผ่านกระบวนการผลิตที่ใส่ใจในทุกรายละเอียด ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ คัดสรรวัตถุดิบอาหารสัตว์จากแหล่งที่ไม่บุกรุกป่าและไม่เผา ควบคู่กับการเลี้ยงอย่างพิถีพิถันตามหลักสวัสดิภาพสัตว์ ตลอดจนการใช้พลังงานหมุนเวียนในกระบวนการผลิต เพื่อบำบัดน้ำเสียและลดการปล่อยคาร์บอน รวมถึงการเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อลดขยะและผลกระทบต่อโลก ทั้งหมดนี้สะท้อนเจตนารมณ์ของ CPF ในการสร้าง ‘ความยั่งยืนที่อร่อยได้’ อย่างแท้จริง
และที่มากกว่านั้น คือการส่งเสริมการเรียนรู้ของเชฟรุ่นใหม่ ตั้งแต่การเข้าใจวัตถุดิบต้นทาง ไปจนถึง การต่อยอดนวัตกรรมอาหารเพื่อสุขภาพ อย่าง ‘หมูชีวา’ ซึ่งอุดมไปด้วยโอเมก้า 3 เพื่อสนับสนุนแนวคิด ‘อาหารเป็นยา’

เสียงจากเชฟรุ่นใหม่ “ทำหมูให้ ‘ว้าว’ ได้อย่างไร?”
หนึ่งในทีมที่ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ คือ ทีม Mosaic Motion จากสถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ ได้ใช้หมูดำซีพี-คูโรบูตะเป็นวัตถุดิบหลักในการแข่งขัน โดยเผยว่า “หมูเป็นอาหารที่ทุกคนคุ้นเคย แต่โจทย์ของเราคือ ทำอย่างไรให้ ‘หมู’ มีความว้าว ด้วยการปรุงให้น้อยที่สุด แต่ดึงรสชาติออกมาให้มากที่สุด”

ทั้งสองเชฟนักศึกษาเผยความตั้งใจว่า อยากใช้โอกาสจากเวทีนี้ต่อยอดสู่อาชีพเชฟ และสร้างเมนูใหม่ให้กับ 7-Eleven ในอนาคต พร้อมย้ำว่า CPF คือแรงสนับสนุนสำคัญทั้งในแง่ของวัตถุดิบและแรงบันดาลใจ

20 กันยายนนี้ ร่วมลุ้นว่าจานไหนจะ Wow!
สำหรับการแข่งขัน Gourmet & Cuisine Young Chef 2025 รอบชิงชนะเลิศจะจัดขึ้นในวันที่ 20 กันยายน 2568 ณ Culinary Excellence Center @ IMPACT เมืองทองธานี ซึ่งทั้ง 10 ทีมจะโชว์ศักยภาพเต็มพิกัด ถ่ายทอดรสชาติความเป็นไทยในมุมมองร่วมสมัย เพื่อชิงเงินรางวัลรวมกว่า 300,000 บาท พร้อมถ้วยรางวัลเกียรติยศ และโอกาสก้าวสู่เส้นทางเชฟมืออาชีพระดับโลก
