ประกาศฉบับที่ 12 พายุ ‘คัลแมกี’ เข้าเคลื่อนเข้ากัมพูชา-ลาว คาดถึง อ.สิรินธร-โขงเจียม แล้ววันนี้

7 พ.ย. 2568 - 01:52

  • กรมอุตุฯ ประกาศเตือนพายุ “คัลแมกี” ฉบับที่ 12 ระบุเช้านี้พายุพัดเข้าสตึงเตรง กัมพูชา และอ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อนแล้ว

  • คาดจะเข้า อ.สิรินธร จ.อุบลราชธานี ช่วง 09.00-10.00 น. ถึง อ.โขงเจียม ช่วงบ่ายวันนี้ กรุงเทพฯ และปริมณฑล ฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40

  • เช็กพื้นที่สีแดง อุบลราชธานี บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ และนครราชสีมา เตรียมรับมือฝนตกหนักถึงหนักมาก เฝ้าระวังน้ำท่วม

ประกาศฉบับที่ 12 พายุ ‘คัลแมกี’ เข้าเคลื่อนเข้ากัมพูชา-ลาว คาดถึง อ.สิรินธร-โขงเจียม แล้ววันนี้

อัปเดตสถานการณ์พายุ  “คัลแมกี” (KALMAEGI) ล่าสุดเวลา 09.20 น.

กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศว่าเมื่อเวลา 07.00 น. วันนี้ พายุ “คัลแมกี” อ่อนกำลังเป็นดีเปรสชัน อยู่ที่เมืองจำปาสักตอนล่าง ประเทศลาว คาดจะเข้า อ. สิรินธร จ. อุบลราชธานี ช่วง 09.00-10.00 น. พายุเคลื่อนทางตะวันตกด้วยความเร็ว 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

สุกันยาณี ยะวิญชาญ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่องพายุ “คัลแมกี” และฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทย ฉบับที่ 12 (332/2568) ระบุว่า เมื่อเวลา 04.00 น. ของวันนี้ (7 พ.ย. 68) พายุ “คัลแมกี”บริเวณเมืองสตึงเตรง ประเทศกัมพูชา ได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อนแล้ว โดยมีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 120 กิโลเมตร ทางตะวันออกเฉียงใต้ของอำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี หรือที่ละติจุด 14.2 องศาเหนือ ลองจิจุด 106.4 องศาตะวันออก ความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 83 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกค่อนทางเหนือเล็กน้อย ด้วยความเร็วประมาณ 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

โดยคาดว่าจะอ่อนกำลังลงเป็น “พายุดีเปรสชัน” เคลื่อนผ่านประเทศลาว โดยจะเคลื่อนเข้าปกคลุมบริเวณ อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี ในช่วงบ่ายของวันนี้ (7 พ.ย .68) ก่อนจะอ่อนกำลังลงเป็น “หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง” ตามลำดับ

kalmaegi-storm-warning-12-thailand-nov7-2025-SPACEBAR-Photo01.jpg

อิทธิพลของพายุ “คัลแมกี”

ส่งผลให้ในช่วงวันที่ 7-9 พ.ย. 68 ประเทศไทยตอนบนมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ โดยจะเริ่มจากบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง และภาคเหนือ ตามลำดับ ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำลันตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกัน และระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตร

สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามัน มีกำลังลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระวัง และหลีกเสียงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง เรือเล็กบริเวณทะเลอันดามัน ควรงดออกจากฝั่ง

578638418_823746223709653_7555569185014088227_n.jpg

พยากรณ์อากาศ 24 ชม. ข้างหน้า

กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศประจำวันนี้ โดยเน้นย้ำถึงอิทธิพลของพายุและลมมรสุม ซึ่งทำให้หลายพื้นที่ของประเทศไทยมีฝนตกหนักถึงหนักมาก และมีลมแรง

คำเตือนฝนหนักถึงหนักมาก

พื้นที่เสี่ยงสูงสุด จังหวัดอุบลราชธานี บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ และนครราชสีมา เตรียมรับมือฝนตกหนักถึงหนักมาก เฝ้าระวังน้ำท่วม

ภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมาก เนื่องจากมีลมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมในบริเวณดังกล่าว

สถานการณ์คลื่นลมทะเล

คลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร อ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง เรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 7 พ.ย. 68

สรุปพยากรณ์อากาศรายภาค (วันนี้ ถึง 06.00 น. วันพรุ่งนี้)

ภาคเหนือ

อากาศเย็นในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดเพชรบูรณ์ อุตรดิตถ์ พิษณุโลก และพิจิตร อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-14 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-15 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมี ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งกับมีลมแรง บริเวณจังหวัดอุบลราชธานี, อำนาจเจริญ, ศรีสะเกษ, ยโสธร, มุกดาหาร, สุรินทร์, ร้อยเอ็ด, มหาสารคาม, กาฬสินธุ์, ขอนแก่น, บุรีรัมย์, นครราชสีมา และชัยภูมิ อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-32 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 13-18 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม.

ภาคกลาง

มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดลพบุรี, สระบุรี, นครสวรรค์, ชัยนาท, สิงห์บุรี, อ่างทอง และพระนครศรีอยุธยา อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ภาคตะวันออก

มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดสระแก้ว, ปราจีนบุรี, ฉะเชิงเทรา, นครนายก, จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดเพชรบุรี, ประจวบคีรีขันธ์, ชุมพร และสุราษฎร์ธานี อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส ตั้งแต่จังหวัดชุมพรขึ้นมา : ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไป : ลมตะวันตก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมี ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง บริเวณจังหวัดระนอง, พังงา, ภูเก็ต, กระบี่, ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-31 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร

กรุงเทพฯ และปริมณฑล

มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์ กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือโทร 0-2399-4012-13 และ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์