ราคาทองคำปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง โดยราคาปิด Gold Spot อยู่ที่ 4,134 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังจากแตะระดับสูงสุดที่ 4,139 ดอลลาร์ และระดับต่ำสุด 4,040 ดอลลาร์ ขณะที่ราคาทองคำในประเทศปรับขึ้นไปแตะ 62,600 บาท ก่อนปิดที่ 62,250–62,600 บาท
ฮั่วเซ่งเฮง เปิดเผยบทวิเคราะห์ ว่า ราคาทองคำได้รับแรงหนุนหลักจากการที่ บอนด์ยีลด์สหรัฐฯ อายุ 10 ปีปรับตัวลดลง เป็นวันที่ 3 ติดต่อกันสู่ระดับ 4.03% จาก 4.14% สอดคล้องกับการคาดการณ์ของตลาด CME FedWatch ที่ระบุว่า โอกาสเฟดลดดอกเบี้ย 0.25% ในเดือนธันวาคมเพิ่มขึ้นเป็น 80.9% จากเดิม 71.1% นอกจากนี้ ดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY) ยังคงทรงตัวในกรอบ 100.01–100.29 หน่วย
ด้านปัจจัยทางการเมืองและความเสี่ยงระหว่างประเทศ ก็กดดันตลาดทองคำเช่นกัน หลังจาก สหรัฐฯ–EU ยังเจรจาเรื่องกฎระเบียบด้านเทคโนโลยีไม่ลงรอย ขณะที่โลกจับตาการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซีย–ยูเครน ซึ่งประธานาธิบดีทรัมป์และผู้นำยูเครนเซเลนสกีแสดงความพยายามผลักดันข้อตกลงก่อนวันขอบคุณพระเจ้า
สำหรับกองทุนทองคำ SPDR ซื้อทองคำสุทธิ 0.29 ตัน ทำให้ปริมาณถือครองรวมอยู่ที่ 1,040.86 ตัน สะท้อนความเชื่อมั่นต่อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
วิเคราะห์แนวโน้มราคาทองคำ
ทองคำโลกเริ่มปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านที่ 4,144–4,160 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาย่อตัวลง มีแนวรับสำคัญอยู่ที่ 4,100 ดอลลาร์ และหากหลุดแนวรับถัดไปที่ 4,070 ดอลลาร์ มีโอกาสปรับฐานต่อเนื่อง
กลยุทธ์ลงทุนระยะสั้น
• ทยอยขายทองคำเมื่อราคาขึ้นแตะแนวต้าน 4,144–4,160 ดอลลาร์
• ซื้อสะสมหากราคาลงทดสอบแนวรับ 4,100 ดอลลาร์
• หากหลุด 4,070 ดอลลาร์ แนะนำขายตัดขาดทุน
ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ต้องติดตามคืนนี้
• เวลา 20.30 น.: ดัชนีราคาผู้ผลิตพื้นฐาน/ทั่วไป เดือน ก.ย. และยอดค้าปลีกพื้นฐาน/ทั่วไป
• เวลา 22.00 น.: ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (Consumer Confidence) เดือน พ.ย., ยอดขายบ้านรอปิดเดือน ต.ค., ดัชนีภาคการผลิต Richmond Fed เดือน พ.ย.
นักวิเคราะห์ประเมินว่า ทองคำยังคง Sideway Up และเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยที่นักลงทุนให้ความสนใจในช่วงความผันผวนของตลาดโลก ทั้งเรื่องดอกเบี้ยสหรัฐฯ การเจรจาสหรัฐฯ–EU และความคืบหน้าสันติภาพยูเครน



