ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวสูงขึ้นในวันจันทร์ เนื่องจากความหวังใหม่ในการลดอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ทำให้เกิดความสงบขึ้นบ้าง หลังจากที่ความผันผวนของราคาหุ้นในสัปดาห์ที่แล้วพุ่งสูงขึ้นจากความกังวลเกี่ยวกับฟองสบู่เทคโนโลยี
การเติบโตของหุ้นเทคโนโลยี AI สร้างความกังวล
การแย่งซื้อหุ้นเทคโนโลยี AI ได้ช่วยผลักดันตลาดหุ้นขึ้นสู่ระดับสูงตลอดปีนี้ โดยหลายบริษัทบรรลุสถิติใหม่ โดยเฉพาะยักษ์ใหญ่ชิป NVIDIA ที่เป็นบริษัทแรกที่มีมูลค่าทะลุ 3.8 ล้านล้านดอลลาร์เมื่อเดือนที่แล้ว
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนเริ่มกังวลมากขึ้นว่าเงินทุนจำนวนมหาศาลที่สูบเข้าสู่ภาคนี้อาจเกินจริง และอาจต้องใช้เวลานานกว่าจะเห็นผลกำไรที่แท้จริง ส่งผลให้มีการเตือนถึงความเป็นไปได้ของการปรับตัวลงของตลาด
ความหวังการลดดอกเบี้ยเฟด กลับมาคืนชีพ
ปัญหาดังกล่าวถูกทำให้รุนแรงขึ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมา จากความคาดหวังที่ลดลงว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะลดดอกเบี้ยเป็นครั้งที่สามติดต่อกันในเดือนหน้า เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อที่ยังคงสูงกดบังความอ่อนแอในตลาดแรงงาน
อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงภัยได้รับการสนับสนุนอย่างจำเป็นเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เมื่อ John Williams ผู้อำนวยการธนาคารกลางนิวยอร์ก กล่าวว่าเขายังคงเห็น "พื้นที่สำหรับการปรับเพิ่มเติม" ในการประชุมกำหนดนโยบายวันที่ 9-10 ธันวาคม
คำพูดดังกล่าวทำให้โอกาสการลดดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 70% จาก 35% ก่อนหน้านี้
ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญกำหนดทิศทางตลาด
ขณะนี้ความสนใจหันไปที่การเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ในสัปดาห์นี้ ซึ่งจะเป็นหนึ่งในข้อมูลสำคัญสุดท้ายก่อนที่เจ้าหน้าที่จะประชุมกัน โดยรายงานสำคัญอื่นๆ ถูกเลื่อนออกไปหรือพลาดเนื่องจากการปิดการทำงานของรัฐบาล
ภาพรวมตลาดเอเชีย
หลังจากการฟื้นตัวของ Wall Street ในวันศุกร์ที่ปิดท้ายสัปดาห์ที่ผันผวน ตลาดเอเชียส่วนใหญ่เปิดในแนวโน้มบวก ตลาดหุ้นฮ่องกงและเซาล์พุ่งขึ้นกว่า 1% ขณะที่ซิดนีย์ สิงคโปร์ เวลลิงตัน และไทเปก็ปรับตัวสูงขึ้นเช่นกัน แม้เซี่ยงไฮ้และมะนิลาจะปรับตัวลง
แต่แม้บรรยากาศจะดีขึ้นกว่าสัปดาห์ที่แล้ว ความไม่แน่นอนยังคงกดดันสินทรัพย์เสี่ยง โดยบิทคอยน์ยังคงอยู่ในระดับประมาณ 87,000 ดอลลาร์ ซึ่งแม้จะสูงขึ้นจากจุดต่ำสุดในรอบ 7 เดือนที่ 80,553 ดอลลาร์ แต่ยังคงต่ำกว่าสถิติสูงสุด 126,200 ดอลลาร์ที่บรรลุเมื่อเดือนที่แล้วอย่างมาก
