ฮั่วเซ่งเฮง เปิดเผยข้อมูลราคาทองคำ ว่า ราคาทองคำต่างประเทศ (Gold Spot) ปิดตลาดล่าสุดลดลง 15.12 ดอลลาร์ แตะระดับราว 3,640 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าต่อเนื่อง และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ (บอนด์ยีลด์) ปรับขึ้นต่อเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน
ส่วน ราคาทองคำในประเทศวันนี้ (19 ก.ย. 2568)
• ทองคำแท่ง 96.5%
– รับซื้อ 54,950 บาท/บาททองคำ
– ขายออก 55,050 บาท/บาททองคำ
• ทองรูปพรรณ 96.5%
– รับซื้อ 53,848.32 บาท/บาททองคำ
– ขายออก 55,850 บาท/บาททองคำ
ปัจจัยกดดันราคาทองคำ
ฮั่วเซ่งเฮงระบุว่า ราคาทองคำถูกกดดันจาก
• ดัชนีดอลลาร์ (DXY) แข็งค่าแตะระดับ 97.36 หน่วย จาก 96.61 หน่วย
• บอนด์ยีลด์สหรัฐฯ ปรับขึ้นสู่ระดับ 4.11% จาก 4.02%
• ตัวเลขแรงงานสหรัฐฯ ผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานต่ำกว่าคาด สะท้อนตลาดแรงงานยังแข็งแกร่ง
• ความคาดหวังนโยบายการเงินเฟด แม้ Dot Plot บ่งชี้เฟดอาจลดดอกเบี้ยเพียง 1 ครั้งปีหน้า แต่ตลาดบางส่วนยังคาดว่าอาจลดมากถึง 3 ครั้งในปี 2569
แนวโน้มและกลยุทธ์การลงทุน
ราคาทองคำโลก (Gold Spot)
• แนวรับ: 3,630 และ 3,614 ดอลลาร์/ออนซ์
• แนวต้าน: 3,650 และ 3,660 ดอลลาร์/ออนซ์
กลยุทธ์: ซื้อสะสมเมื่อย่อตัวใกล้แนวรับ และขายทำกำไรหากขึ้นทดสอบแนวต้าน แต่หากราคาหลุด 3,614 ดอลลาร์ ควรขายตัดขาดทุน
ราคาทองคำในประเทศ (ทองแท่ง 96.5%)
• แนวรับ: 54,900 และ 54,750 บาท/บาททองคำ
• แนวต้าน: 55,100 และ 55,200 บาท/บาททองคำ
กลยุทธ์: ซื้อสะสมเมื่อราคาอ่อนตัวที่แนวรับ และขายทำกำไรเมื่อทดสอบแนวต้าน แต่หากราคาหลุดแนวรับหลัก ควรชะลอการลงทุน
สรุป : ฮั่วเซ่งเฮงมองว่า ราคาทองคำยังอยู่ในภาวะ แกว่งตัว (Sideway) โดยมีแรงกดดันจากดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ที่แข็งขึ้น ขณะที่เงินบาทอ่อนค่าช่วยพยุงราคาทองคำในประเทศ นักลงทุนจึงควรใช้กลยุทธ์ ย่อซื้อ-ขึ้นขาย และเฝ้าติดตามทิศทางนโยบายเฟด รวมถึงตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญที่จะออกมาในสัปดาห์นี้