SCB ชี้ ดอกเบี้ยเข้าสู่ขาลง หลังเฟดหั่นดอกเบี้ยตามคาด พร้อมส่งสัญญาณลดต่อเนื่อง มองตลาดเอเชีย-พันธบัตร รับอานิสงส์

18 ก.ย. 2568 - 07:01

  • เฟดลดดอกเบี้ย 0.25% ตามคาด–ส่งสัญญาณลดต่อเนื่องอีก 2 ครั้งในปีนี้

  • ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ผันผวน–S&P500, Nasdaq ปิดลบ ดอลลาร์รีบาวด์-ทองคำร่วง

  • SCB CIO ชี้โอกาสลงทุนตราสารหนี้-ตลาดหุ้นเอเชียได้อานิสงส์เงินทุนไหลเข้า

SCB ชี้ ดอกเบี้ยเข้าสู่ขาลง หลังเฟดหั่นดอกเบี้ยตามคาด พร้อมส่งสัญญาณลดต่อเนื่อง มองตลาดเอเชีย-พันธบัตร รับอานิสงส์

เฟดหั่นดอกเบี้ย 0.25% ตามคาด–ส่งสัญญาณลดต่อเนื่อง SCB CIO ชี้ “Dot Plot เสียงแตก” กดดันตลาดหุ้น–ดอลลาร์รีบาวด์

ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) มีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ในการประชุมเดือนกันยายน ตามที่ตลาดคาดการณ์ และส่งสัญญาณว่ามีแนวโน้มลดต่อเนื่องอีก 2 ครั้งในการประชุมที่เหลือของปีนี้ รวมเป็นการลดดอกเบี้ย 3 ครั้งในปี 2568

ชาตรี โรจนอาภา, CFA, FRM Head of Investment Consultant, SCB CIO ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า ไฮไลท์สำคัญจากการประชุมเฟดรอบนี้ คือการประกาศ Dot Plot ที่สะท้อนมุมมองคณะกรรมการเฟดแตกต่างกันมาก ตั้งแต่ไม่ลด ไปจนถึงลดดอกเบี้ย 4 ครั้ง ซึ่งผิดไปจากที่ตลาดคาด และส่งผลให้ตลาดการเงินผันผวน

“แม้เฟดจะลดดอกเบี้ยต่อเนื่อง แต่เศรษฐกิจสหรัฐฯ กลับถูกประเมินดีขึ้น โดยปรับคาดการณ์ GDP ปีนี้จาก 1.4% เป็น 1.6% และปีหน้าจาก 1.6% เป็น 1.8% สะท้อนว่าเศรษฐกิจยังไม่ชะลอรุนแรงอย่างที่เคยกังวล” ชาตรีกล่าว

ตลาดหุ้น–ดอลลาร์ผันผวนหลังเฟดหั่นดอกเบี้ย

ชาตรีอธิบายว่า หลังการประกาศ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ผันผวนแรง โดยช่วงแรกดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปรับขึ้นรับข่าวการลดดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีนี้ แต่แรงซื้อกลับหมดไปเมื่อเฟดส่งสัญญาณว่า ปีหน้าอาจลดดอกเบี้ยเพียง 1 ครั้ง เท่านั้น ทำให้ดัชนีพลิกปิดลบ ขณะที่ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น และราคาทองคำปรับลดลง

“ตลาดผิดหวังเพราะจากที่เคยคาดว่าอัตราดอกเบี้ยปีหน้าจะลดลงถึง -1.25% แต่ล่าสุด Dot Plot ชี้ว่าจะเหลือลดเพียง -0.75% เท่านั้น นอกจากนี้การพูดถึงความกังวลตลาดแรงงานยังเพิ่มแรงกดดันเรื่องความเสี่ยง Stagflation แม้ยังไม่รุนแรง” ชาตรีกล่าว

นอกจากนี้ชาตรีมองว่าแรงขายหุ้นยังเป็นเพียง การปรับฐานระยะสั้น หลังดัชนีสหรัฐฯ โดยเฉพาะหุ้นขนาดกลาง-เล็ก ปรับขึ้นแรงต่อเนื่องก่อนหน้านี้ โดยยังเชื่อว่าแนวโน้มเศรษฐกิจและกำไรบริษัทจดทะเบียนยังอยู่ในทิศทางบวก

กลยุทธ์ลงทุน: ตราสารหนี้–เอเชียได้อานิสงส์

ในเชิงกลยุทธ์การลงทุน นายชาตรีมองว่า การเริ่มต้นวัฏจักรลดดอกเบี้ย (Easing Cycle) ของเฟด แม้จะไม่ลดแรงตามที่นักลงทุนหวัง แต่ยังสร้างโอกาสในหลายสินทรัพย์

• ตราสารหนี้สหรัฐฯ : อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ที่ปัจจุบันอยู่ราว 4% ยังมีโอกาสปรับลงต่อ หากเฟดเดินหน้าลดดอกเบี้ยสู่ระดับ 3–3.5% ในปีหน้า ทำให้พันธบัตรสหรัฐฯ น่าสนใจในเชิงปลอดภัยมากขึ้น

• ดอลลาร์สหรัฐฯ : แม้โดยหลักการ การลดดอกเบี้ยควรกดดันดอลลาร์ให้อ่อนค่า แต่การที่เฟดส่งสัญญาณลดน้อยกว่าคาด ทำให้เงินดอลลาร์มีแรงรีบาวด์ระยะสั้น อย่างไรก็ดี เทรนด์ระยะยาวยังมีแนวโน้มอ่อนค่าลง

• ตลาดหุ้นเอเชีย : การอ่อนค่าของดอลลาร์และวัฏจักรดอกเบี้ยขาลง เปิดทางให้เงินทุนต่างชาติไหลเข้ามาตลาดเกิดใหม่ โดยเฉพาะในเอเชียที่มีนวัตกรรม เช่น จีน เกาหลีใต้ ไต้หวัน และญี่ปุ่น ซึ่งเริ่มเห็นการฟื้นตัวชัดเจน

“เงินทุนไหลเข้า Emerging Market เป็นสัญญาณเชิงบวก หลังจาก 3-4 ปีที่ผ่านมา ตลาดพัฒนาแล้วขึ้นแรงกว่าตลาดเกิดใหม่ ตอนนี้เป็นจังหวะที่เอเชียได้เปรียบ” ชาตรีกล่าว

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์