ราคาทองคำโลกยังร้อนแรงต่อเนื่อง โดยปี 2568 ทำสถิติ All Time High แล้วกว่า 20 ครั้ง สะท้อนโมเมนตัมขาขึ้นแข็งแกร่ง ขณะที่นักลงทุนทั่วโลกจับตาการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) วันที่ 17 กันยายนนี้ ซึ่งคาดว่าเฟดจะปรับลดดอกเบี้ยครั้งแรกของปี และอาจส่งสัญญาณลดแรงกว่าที่ตลาดประเมิน
วรุต รุ่งขำ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG) เปิดเผยในรายการ FIRST UP ผ่านเพจ SPACEBAR ว่า ทองคำโลก (Gold Spot) ปรับขึ้นต่อเนื่องตลอด 3 ปีที่ผ่านมา โดยปี 2566 ทำสถิติสูงสุดใหม่ถึง 13 ครั้ง ปี 2567 อีก 40 ครั้ง รวมทั้งปีนี้เพียง 9 เดือนแรกก็ทำจุดสูงสุดใหม่แล้วกว่า 20 ครั้ง
“แรงหนุนหลักมาจาก 3 ปัจจัย คือ ความตึงเครียดภูมิรัฐศาสตร์ การเข้าซื้อทองคำของธนาคารกลาง และทิศทางดอกเบี้ยขาลง ซึ่งทั้งหมดเป็นตัวผลักดันให้ทองคำยังอยู่ในโมเมนตัมขาขึ้น” วรุตกล่าว
FED มีนัดใหญ่ 17 ก.ย. ตลาดเชื่อหั่นดอกเบี้ย 0.25%
ตลาดประเมินว่าเฟดจะลดดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุม 17 กันยายน โดยข้อมูลจาก FedWatch Tool สะท้อนความเป็นไปได้สูงถึง 96% ขณะที่โอกาสลด 0.50% อยู่เพียง 4%
วรุตชี้ว่า หากเฟดส่งสัญญาณจะลดดอกเบี้ยรวมทั้งปีมากกว่าที่ตลาดประเมินจาก 0.50% เป็น 0.75% จะเป็นแรงกระตุ้นสำคัญให้ราคาทองคำขยับขึ้นต่อ อาจเห็นการทำสถิติใหม่ในกรอบ 3,700–3,750 ดอลลาร์ต่อออนซ์
อย่างไรก็ดี ตลาดยังต้องติดตาม “Federal Funds Rate” หรือแนวโน้มดอกเบี้ยปี 2569 ซึ่งก่อนหน้านี้ประเมินว่าจะลดเพียง 0.25% แต่หากมีการปรับลดมากกว่านั้น จะยิ่งหนุนการลงทุนในทองคำ
ปัจจัยการเมือง–แรงงานกดดัน FED ผ่อนคลาย
นอกจากนี้วรุตระบุว่า สัญญาณเศรษฐกิจสหรัฐฯ เริ่มชะลอตัว โดยเฉพาะตลาดแรงงานที่อ่อนแรงลง และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ร่วงแตะระดับต่ำสุดตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ขณะที่เงินเฟ้อไม่ได้เร่งตัวแรง แม้จะมีแรงกดดันจากสงครามการค้าและมาตรการภาษีนำเข้า
ทั้งการเปลี่ยนแปลงในคณะผู้ว่าการเฟด รวมถึงกรณี Lisa Cook ที่กลับมาปฏิบัติหน้าที่ได้หลังศาลสั่ง และการแต่งตั้ง Steven Mirren แทนผู้ว่าการที่ลาออก ถูกจับตามองว่าอาจเพิ่มน้ำหนักการโหวตสนับสนุนการลดดอกเบี้ย
“เมื่อรวมปัจจัยเศรษฐกิจและการเมืองในเฟดแล้ว แนวโน้มดอกเบี้ยนโยบายยังคงเป็นขาลง และมีโอกาสเห็นเฟดลดดอกเบี้ยอย่างน้อย 2–3 ครั้งในปีนี้” วรุตกล่าว
ทองคำไทยยังขึ้นจำกัดจากบาทแข็ง
แม้ Gold Spot จะพุ่งแรง แต่ทองคำไทยกลับขยับขึ้นน้อยกว่า โดยล่าสุดแตะนิวไฮเพียง 54,900 บาทต่อบาททองคำ เนื่องจากค่าเงินบาทแข็งค่ากดดัน
วรุต ประเมินว่า หากทองคำโลกขึ้นไปที่ 3,700 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทองคำไทยอาจมีลุ้นทดสอบแนวต้าน 55,700–55,750 บาท แต่การปรับขึ้นจะจำกัดเมื่อเทียบกับทองคำโลก
กลยุทธ์ลงทุน
วรุตแนะนำให้นักลงทุนระวังความผันผวนก่อนและหลังการประชุมเฟด โดยมีกรอบสำคัญดังนี้
• แนวต้านทองโลก : 3,657 และ 3,674 ดอลลาร์ต่อออนซ์
• แนวรับทองโลก : 3,600 และ 3,578 ดอลลาร์ต่อออนซ์
• ทองคำไทย : แนวรับ 54,200 และ 53,850 บาท/บาททองคำ แนวต้าน 55,100–55,350 บาท
“หากราคาไม่ผ่านแนวต้าน แนะนำทยอยขายทำกำไร แต่ถ้าอ่อนตัวลงมาใกล้แนวรับ อาจใช้เป็นจังหวะสะสมเพิ่ม โดยเฉพาะนักลงทุนระยะยาว” วรุตกล่าว
ส่วนความเคลื่อนไหวในตลาดทองคำล่าสุดวันนี้เวลา 14.45 น. ราคาทองคำในตลาด COMEX อยู่ที่ 3,678 ดอลลาร์/ออนซ์ ปรับตัวลดลงเล็กน้อย -8.20 หรือ -0.21% ส่วนทองไทยมีการเปลี่ยนแปลงทั้งหมด 9 ครั้ง ล่าสุดปรับขึ้น 250 บาท
ทองแท่ง
• รับซื้อ บาทละ 54,800 บาท
• ขายออก บาทละ 54,900 บาท
ทองรูปพรรณ
• รับซื้อ บาทละ 53,696.72 บาท
• ขายออก บาทละ 55,700 บาท