ลอยกระทงคืนเดียว...ทิ้งอะไรไว้บ้าง?

5 พ.ย. 2568 - 09:33

  • คืนวันเพ็ญเดือนสิบสอง เมืองไทยสว่างไสวด้วยแสงเทียนจากกระทงลอยเต็มแม่น้ำ เราเรียนรู้อะไรจาก “ขยะ” ในชั่วข้ามคืนนี้บ้าง?

  • เปิดสถิติจำนวนขยะกระทงในกรุงเทพฯ ย้อนหลัง 5 ปี (พ.ศ. 2563–2567)

  • กรณีศึกษา “กระทงขนมปัง” เจตนาดีที่กลายเป็นภาระ

ลอยกระทงคืนเดียว...ทิ้งอะไรไว้บ้าง?

เชื่อหรือไม่? ลอยกระทงคืนเดียวบอกนิสัยของเมืองได้

ในทุกๆ ปีมีกระทงมากมายถูกลอยลงสายน้ำเพื่อส่งถึงพระแม่คงคา ทั้งที่ทำด้วยความตั้งใจที่ดี วิธีที่ถูก คละเคล้ากับคนที่ยังลอยแบบส่งๆ ลอยสนุกๆ โดยไม่ได้คิดถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อสิ่งแวดล้อม กลายเป็น #ดราม่าลอยกระทง ส่งเสริม “เทศกาลวันน้ำเสีย” ด้วยปัจจัยหลักมาจากกระทงนับล้านที่ถูกปล่อยลงสู่แม่น้ำลำคลอง

คืนวันเพ็ญเดือนสิบสองของทุกปี เมืองไทยจะสว่างไสวไปด้วยแสงเทียนจากกระทงที่ลอยเต็มแม่น้ำ แต่ภาพที่งดงามในคืนนั้นมักทิ้งคำถามไว้ในเช้าวันถัดมาว่า เมืองของเราเรียนรู้อะไรจาก “ขยะ” ในชั่วข้ามคืนนี้บ้าง?

ขยะกระทงในกรุงเทพฯ
ขยะกระทงในกรุงเทพฯ

เปิดสถิติจำนวนขยะกระทงในกรุงเทพฯ ย้อนหลัง 5 ปี (พ.ศ. 2563–2567)

หากมองผลลัพธ์เป็นตัวเลข เราสามารถเจาะลึกถึงพฤติกรรมของคนเมืองที่ค่อนข้างสะท้อนให้เห็นว่าคนกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่รับรู้ถึงผลกระทบของขยะ ใส่ใจในสิ่งแวดล้อม และความยั่งยืนมากขึ้น

ปี 2563 : จำนวนขยะกระทงที่เก็บได้ 492,537 ใบ

กระทงวัสดุธรรมชาติ 96.4% กระทงโฟม 3.6%

ปี 2564 : เก็บได้ 403,235 ใบ

กระทงวัสดุธรรมชาติ 96.46% กระทงโฟม 3.54%

ปี 2565 : เก็บได้ 572,602 ใบ

กระทงวัสดุธรรมชาติ 95.7% กระทงโฟม 4.3%

ปี 2566 : เก็บได้ 639,828 ใบ

กระทงวัสดุธรรมชาติ 96.74% กระทงโฟม 3.26%

ปี 2567 : เก็บได้ 522,860 ใบ

กระทงวัสดุธรรมชาติ 98.39% กระทงโฟม 1.61%

ทั้งนี้ จำนวนกระทงในแต่ละปีมีขึ้นลงตามปัจจัยที่หลากหลาย ทั้งสภาพอากาศ การจัดงาน สถานการณ์โควิด-19 และพฤติกรรมของคนเมืองที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งแม้จำนวนจะผันผวน แต่สิ่งที่โดดเด่นคือ “คุณภาพของขยะ”

โดยสัดส่วนกระทงที่ทำจาก “วัสดุธรรมชาติ” เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยปีล่าสุดอยู่ที่ร้อยละ 98.39 เรียกว่าเกือบทั้งหมดเป็นกระทงรักษ์โลก (มากกว่าในอดีต) ขณะที่ “กระทงโฟม” ลดลงจนเหลือเพียงร้อยละ 1.61 ซึ่งน้อยที่สุดในรอบหลายปี (แต่ไม่ควรมีได้แล้ว) ตัวเลขเหล่านี้บ่งชี้ว่าคนเมืองเริ่มให้ความสำคัญกับผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น และตอบสนองต่อการรณรงค์ได้จริง

sustainability-loy-krathong-one-night-leave-behind-SPACEBAR-Photo02.jpg

วัสดุกระทงและเวลาย่อยสลาย

การเลือกวัสดุกระทงสำคัญไม่ใช่เพียงเรื่องความสวยงาม แต่คือผลกระทบเชิงระบบต่อแม่น้ำและสิ่งมีชีวิตในน้ำ

  • กระทงน้ำแข็ง ใช้เวลาย่อยสลายภายใน 1 ชั่วโมง
  • กระทงขนมปัง ใช้เวลาย่อยสลายภายใน 3 วัน
  • กระทงโคนไอศกรีม ใช้เวลาย่อยสลายภายใน 3 วัน
  • กระทงต้นกล้วย ใช้เวลาย่อยสลายภายใน 14 วัน
  • กระทงกะลา ใช้เวลาย่อยสลายภายใน 15 วัน
  • กระทงกระดาษ ใช้เวลาย่อยสลายภายใน 2-5 เดือน (ขึ้นอยู่กับชนิดของสารเคลือบ)
  • กระทงโฟม กระทงพลาสติก ใช้เวลาย่อยสลาย 500–1,000 ปี

ข้อมูลเหล่านี้สะท้อนว่าการย่อยสลายเร็ว ไม่จำเป็นต้องหมายถึงดีต่อระบบนิเวศเสมอไป เช่น กระทงขนมปัง ที่แม้จะสลายเร็ว แต่เมื่อสะสมในแหล่งน้ำปิดอาจทำให้ “น้ำเน่าเสีย” จากการเจริญของแบคทีเรีย

sustainability-loy-krathong-one-night-leave-behind-SPACEBAR-Photo03.jpg

กรณีศึกษา: กระทงขนมปัง เจตนาดีที่กลายเป็นภาระ

คืนลอยกระทงปี 2566 ที่สวนสันติภาพ เขตดินแดง มีผู้ร่วมงานกว่า 14,000 คน หลังจบงาน เจ้าหน้าที่เก็บกระทงได้ 6,800 ใบ ส่วนใหญ่ทำจาก “ขนมปัง” แต่ไม่กี่วันถัดมา น้ำในบ่อเริ่มเน่าและปลาหลายร้อยตัวลอยตาย

จากการตรวจสอบพบว่า ขนมปังที่จมอยู่ในน้ำไม่ได้ถูกปลากินหมด แต่สลายตัวเป็นตะกอนอินทรีย์ ทำให้แบคทีเรียเพิ่มจำนวนและใช้ออกซิเจนในน้ำมากขึ้น จนสิ่งมีชีวิตในบ่อขาดอากาศ ซึ่งต้องใช้ระยะเวลาในการฟื้นฟูระบบนิเวศนานกว่า 4 เดือน กรณีนี้จึงกลายเป็นบทเรียนสำคัญว่า “ความตั้งใจดี” หากขาดการออกแบบระบบจัดการที่เหมาะสม ก็อาจกลายเป็นภาระต่อธรรมชาติ

ลอยกระทง: ดัชนีพฤติกรรมของเมือง

เมื่อมองลึกลงไป ลอยกระทงทำหน้าที่มากกว่าพิธีกรรม มันคือดัชนีทางพฤติกรรมที่สะท้อนระดับการตื่นรู้ของสังคมเมืองใน 3 มิติหลัก ดังนี้

  • หนึ่ง ชี้วัดการรับรู้ของประชาชนว่าเข้าใจผลกระทบของวัสดุที่ใช้มากน้อยเพียงใด

  • สอง ทดสอบระบบจัดการของเมือง ทั้งการตั้งจุดลอยรวม การคัดแยก และการเก็บขยะหลังงาน

  • สาม บอกระดับการเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรม ผ่านพฤติกรรมเล็กๆ เช่น การใช้ไม้กลัดแทนลวด การเลือกกระทงขนาดเล็ก หรือการร่วมลอยกระทงออนไลน์

การที่สัดส่วนกระทงโฟม ลดลงเหลือเพียงร้อยละ 1.6 แสดงให้เห็นว่าสังคมเมืองตอบสนองต่อข้อมูลและนโยบายสิ่งแวดล้อมได้จริง แต่การเปลี่ยนแปลงนี้ต้องได้รับการต่อยอดด้วยระบบสนับสนุน เช่น การให้ความรู้เชิงปฏิบัติ การตั้งจุดรับกระทงธรรมชาติ หรือการส่งเสริมทางเลือกดิจิทัล

sustainability-loy-krathong-one-night-leave-behind-SPACEBAR-Photo04.jpg

ลอยกระทงรักษ์โลก

แนวทางที่อาจช่วยให้ “ดัชนีลอยกระทง” ด้านสิ่งแวดล้อมดีขึ้นต่อเนื่อง อาทิ

•           1 ครอบครัว 1 กระทง หรือใช้กระทงขนาดเล็ก เพื่อลดปริมาณจำนวนกระทงโดยรวม

•           กำหนดพื้นที่ลอยในแหล่งน้ำปิด/บ่อที่จัดเก็บได้ เพื่อให้ง่ายต่อการเก็บและจัดการขยะ

•           ห้ามใช้วัสดุอันตราย (ตะปู แม็ก ฯลฯ) และส่งเสริมไม้กลัด วัสดุที่ย่อยสลายได้

•           สร้างจุดรับกระทงสำหรับนำไปหมัก/ทำปุ๋ย เชื่อมเทศกาลกับเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy)

•           โปรโมตทางเลือกดิจิทัล (ลอยกระทงออนไลน์) สำหรับกลุ่มที่ไม่สะดวกหรือไม่ต้องการสร้างขยะ

•           ให้ความรู้เชิงปฏิบัติ แก่ผู้จัดงานและประชาชนเรื่องผลกระทบของวัสดุต่าง ๆ (เช่น ขนมปัง ไม่เท่ากับปลอดภัยเสมอไป)

คืนเดียวสร้างการเรียนรู้ทั้งปี

คืนลอยกระทง เป็นวันที่เมืองได้ร่วมกันทดสอบนิสัย รู้ว่าระบบจัดการพังกี่จุด และรู้ว่าภาระตกอยู่กับใคร ตัวเลข 5 ปีที่ผ่านมา แม้จะแสดงถึงความก้าวหน้า แต่ความก้าวหน้าเชิงพฤติกรรมต้องต่อยอดด้วยการออกแบบระบบและการเรียนรู้ที่ยั่งยืน

หากเราใช้คืนเดียวนี้เป็นข้อสังเกตประจำปี วัดผล ออกแบบการตอบสนอง และเรียนรู้ในทุกปี เมื่อเวลาผ่านไป “ลอยกระทง” จะไม่ใช่แค่ประเพณีที่ดีงาม แต่จะเป็นคืนที่เมืองทั้งเมืองได้สะท้อนภาพของความยั่งยืนออกมาได้อย่างแท้จริง

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์