ไทยดันศูนย์อาหารต้นแบบลด Food Waste ได้ 20% ลดก๊าซเรือนกระจกแล้ว 125 ตันฯ

8 ก.ย. 2568 - 02:29

  • ยอดพุ่ง! คนไทยสร้างขยะอาหารปีละเกือบ 10 ล้านตัน พบตลาดสด-ห้าง-ร้านสะดวกซื้อ-อาคารสำนักงานที่มีศูนย์อาหาร ต้นทางขยะอาหาร กระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ

  • สสส. สานพลัง ทส.-คพ.-TEI ดัน 15 ศูนย์อาหารนำร่อง ลดขยะอาหารได้ 20% นำไปใช้ประโยชน์ต่อ 100% ลดก๊าซเรือนกระจกแล้วกว่า 125 ตันคาร์บอนเทียบเท่า

ไทยดันศูนย์อาหารต้นแบบลด Food Waste ได้ 20% ลดก๊าซเรือนกระจกแล้ว 125 ตันฯ

เชื่อหรือไม่? คนไทยทิ้งขยะอาหารเกือบ 10 ล้านตันต่อปี! ล่าสุด สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส) กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) และสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย (TEI) จัดสัมมนาเผยแพร่ผลงานและแนวปฏิบัติที่ดีในการจัดการขยะอาหาร ภายใต้โครงการส่งเสริมการป้องกัน ลด และจัดการขยะอาหารจากแหล่งกำเนิดกรณีศูนย์อาหาร เพื่อเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการลดขยะอาหารอย่างเป็นรูปธรรม

นายประเสริฐ ศิรินภาพร รองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
นายประเสริฐ ศิรินภาพร รองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

นายประเสริฐ ศิรินภาพร รองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ให้ความสำคัญในเรื่องการสูญเสียอาหารและขยะอาหารมาอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2562 สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ทำการศึกษาเพื่อเสนอแนวทางในการจัดการขยะอาหารเพื่อการบริโภคที่ยั่งยืน หลังจากนั้น ในปี 2564 กรมควบคุมมลพิษ ได้ทำการศึกษาสำรวจองค์ประกอบขยะมูลฝอย ณ สถานที่กำจัดขยะมูลฝอยของประเทศ และจัดทำแผนปฏิบัติการด้านการจัดการขยะอาหารของประเทศ ระยะที่ 1 (พ.ศ. 2566 – 2570) เพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDG 12) ต่อมาได้มีการจัดทำแผนปฏิบัติการด้านการจัดการขยะอาหารของประเทศ ฉบับที่ 2 (2566-2570) เพื่อลดปริมาณขยะอาหารเทียบจากปริมาณขยะมูลฝอยชุมชน 28% ภายในปี 2570 และรณรงค์ลดขยะอาหารภายใต้แนวคิด “Stop Food Waste Start the Future”

นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ ผู้จัดการกองทุนสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ
นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ ผู้จัดการกองทุนสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ

นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ ผู้จัดการกองทุน สสส. เผยว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีปริมาณขยะอาหารกว่า 9.7 ล้านตันต่อปี คิดเป็น 146 กิโลกรัมต่อคนต่อปี มีแหล่งกำเนิดมาจาก

  1. ตลาดสด
  2. ห้างสรรพสินค้า
  3. ร้านสะดวกซื้อ
  4. อาคารสำนักงาน ซึ่งแหล่งกำเนิดดังกล่าวส่วนใหญ่จะมีศูนย์อาหารอยู่ด้วย

46% คือสัดส่วนขยะอาหาร

จากการสำรวจขยะอาหารในพื้นที่กรุงเทพฯ โดยกรุงเทพมหานคร (กทม.) ปี 2565 พบว่า มีสัดส่วนขยะอาหารมากที่สุดคิดเป็น 46% ของขยะมูลฝอยที่เกิดขึ้น และส่วนใหญ่ยังดำเนินการกำจัดไม่ถูกต้องตามหลักวิชาการ ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสภาพแวดล้อม ทั้งปัญหาน้ำแหล่งน้ำเน่าเสีย ส่งกลิ่นรบกวน ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่อาจทำให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพ ทั้งโรคระบบทางเดินหายใจ โรคระบบทางเดินอาหาร โรคผิวหนัง โรคติดเชื้อแบคทีเรีย การจัดการขยะอาหารที่ถูกต้องและนำไปใช้ประโยชน์ในรูปแบบต่างๆ จึงเป็นทางออกหนึ่งเพื่อช่วยลดปริมาณขยะอาหารและผลกระทบต่อสุขภาพได้

ขณะที่งานวิจัยขององค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) ชี้ว่าราว 1 ใน 3 ของอาหารที่ผลิตทั่วโลกถูกทิ้งหรือสูญเปล่า คิดเป็นราว 1,300 ล้านตันต่อปี ซึ่งเท่ากับประมาณ 8-10% ของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกโลก

“สสส. จึงสนับสนุนโครงการส่งเสริมการป้องกัน ลด และจัดการขยะอาหารจากแหล่งกำเนิดกรณีศูนย์อาหาร โดยผลักดันให้ศูนย์อาหาร 15 แห่ง เป็นพื้นที่นำร่องขับเคลื่อนการลดขยะอาหารต้นทางอย่างเป็นระบบ ส่งเสริมการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต ขับเคลื่อนนโยบายมาตรการทางสังคมและชุมชน รวมถึงเสริมสร้างวิชาการ องค์ความรู้ และฐานข้อมูลในการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจด้านการปกป้องและเสริมสร้างสุขภาพให้มีจิตสำนึกเรื่องการรักษาสิ่งแวดล้อม ตลอดจนมีมาตรการและนโยบายสาธารณะในการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างระบบการจัดการขยะอาหารที่ยั่งยืน และช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนทั้งด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ตอกย้ำว่าขยะอาหาร ปลายทางไม่ใช่หลุมฝังกลบอีกต่อไป”

ผู้จัดการกองทุน สสส. กล่าว

ดร.วิจารย์ สิมาฉายา ผู้อำนวยการสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย
ดร.วิจารย์ สิมาฉายา ผู้อำนวยการสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย

ดร.วิจารย์ สิมาฉายา ผู้อำนวยการสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย เผยว่า จากผลการดำเนินงานของโครงการฯ พบว่าศูนย์อาหารที่เข้าร่วมสามารถลดปริมาณขยะอาหารได้ 20% และขยะอาหารทั้งหมดที่เหลือถูกนำไปใช้ประโยชน์ต่อได้ 100% โดยไม่ต้องส่งไปยังหลุมฝังกลบ โครงการฯ ช่วยลดก๊าซเรือนกระจกได้กว่า 125  ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า (tCO2e) อีกทั้งยังส่งผลให้พฤติกรรมของผู้บริโภคภายในศูนย์อาหารมีความตระหนักรู้และปรับเปลี่ยนไปในทิศทางที่ดีขึ้น แสดงให้เห็นถึงพลังความร่วมมือของทุกฝ่ายที่สามารถผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงรูปธรรมได้จริง การจัดสัมมนาครั้งนี้จึงไม่เพียงเป็นเวทีเผยแพร่ความสำเร็จและแนวปฏิบัติที่ดี แต่ยังเป็นจุดเริ่มต้นของการขยายผลไปยังศูนย์อาหารอื่นๆ และสถานประกอบการในวงกว้างอีกด้วย หากสนใจเข้าร่วมโครงการสามารถติดต่อขอข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สถาบันสิ่งแวดล้อมไทย

สหประชาชาติชี้ “ความอดอยาก” ในเมืองกาซาเป็น “ความล้มเหลวของมนุษยชาติ”
สหประชาชาติชี้ “ความอดอยาก” ในเมืองกาซาเป็น “ความล้มเหลวของมนุษยชาติ”

ในขณะที่บางคนทิ้งอาหาร อีกหลายร้อยล้านคนกำลังหิวโหย

ใช่แล้ว ขณะที่เราทิ้งอาหารเพียงเพราะไม่อร่อยหรือกินไม่หมด ทั่วโลกยังมีประชากรกว่า 282 ล้านคนใน 59 ประเทศ ที่เผชิญกับภาวะอดอยาก และกว่า 800 ล้านคนทั่วโลกที่ยังไม่มีอาหารพอสำหรับหนึ่งวัน ล่าสุดสหประชาชาติชี้ “ความอดอยาก” ในเมืองกาซาเป็น “ความล้มเหลวของมนุษยชาติ”

ปัญหานี้ไม่ใช่แค่เรื่องของปริมาณอาหารไม่เพียงพอ แต่เป็นปัญหาของการกระจายอาหารและพฤติกรรมการบริโภคที่ขาดความยั่งยืน ซึ่งหากเราสามารถลดขยะอาหาร Food Waste ได้ อาหารที่เคยลงถังขยะอาจกลายเป็นมื้ออาหารที่ช่วยชีวิตใครบางคนไว้ได้จริงๆ

วันนี้ขยะอาหารไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป แต่เป็นปัญหาที่อยู่ในมือของเราทุกคน การร่วมมือกันจากทุกภาคส่วน ตั้งแต่ภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม ไปจนถึงผู้บริโภค คือคำตอบของการแก้ไขปัญหานี้ในระยะยาว “Stop Food Waste, Start the Future” จึงไม่ใช่แค่สโลแกน ทว่า กลับเป็นคำชวนให้คิดถึงบทบาทของแต่ละคนในการสร้างอนาคตที่เราทุกคนอยากเห็น อนาคตที่ทั้งโลกและคนอยู่ร่วมกันอย่างยั่งยืน

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์