กู้วิกฤตขยะอาหารล้นโลก! ไทยเปิดศักราชใหม่ ‘ปีแห่งการลดขยะอาหาร’

27 มิ.ย. 2568 - 03:37

  • หยุดขยะอาหาร เปลี่ยนอนาคตไทย รัฐ-เอกชนจับมือรณรงค์ครั้งใหญ่ ร่วม MOU สู่สังคมยั่งยืน Stop Food Waste Start the Future

กู้วิกฤตขยะอาหารล้นโลก! ไทยเปิดศักราชใหม่ ‘ปีแห่งการลดขยะอาหาร’

ปัจจุบันทรัพยากรธรรมชาติของโลกกำลังลดลงอย่างรวดเร็ว ขณะที่ประชากรโลกยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง หนึ่งในปัญหาที่ทุกคนเจอร่วมกันคือ โลกที่ร้อนขึ้นและภัยธรรมชาติที่ตามมา ซึ่งปัญหาเหล่านี้แก้ได้ทันทีจากต้นตอใกล้ตัวทุกคนอย่าง “ขยะอาหาร (Food Waste)”

ปัญหาขยะอาหาร (Food Waste) ได้กลายเป็นหนึ่งในความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อมและความมั่นคงทางอาหาร ไม่เพียงปัญหาเชิงปริมาณของเศษอาหารที่ถูกทิ้ง แต่เป็นการสะท้อนให้เห็นถึงวงจรการผลิตและการบริโภคที่ขาดความสมดุล ขาดประสิทธิภาพ และท้ายที่สุดคือการส่งผลกระทบในระดับระบบนิเวศ สังคม และเศรษฐกิจ ประเทศไทยในฐานะประเทศกำลังพัฒนา กำลังเผชิญกับปัญหานี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

1 ใน 3 ของอาหารที่ผลิตทั่วโลกถูกทิ้งหรือสูญเปล่า คิดเป็นราว 1.3 พันล้านตันต่อปี
1 ใน 3 ของอาหารที่ผลิตทั่วโลกถูกทิ้งหรือสูญเปล่า คิดเป็นราว 1.3 พันล้านตันต่อปี

งานวิจัยขององค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) ชี้ว่าราว 1 ใน 3 ของอาหารที่ผลิตทั่วโลกถูกทิ้งหรือสูญเปล่า คิดเป็นราว 1.3 พันล้านตันต่อปี ซึ่งเท่ากับประมาณ 8-10% ของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกโลก

ข้อมูลจากสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ยังแสดงให้เห็นว่าขยะอินทรีย์ โดยเฉพาะขยะอาหาร คิดเป็นสัดส่วนมากกว่าครึ่งหนึ่งของปริมาณขยะมูลฝอยในไทย ซึ่งนำไปสู่ปัญหาการจัดการของเสียที่ยังคงเรื้อรัง และการปล่อย “ก๊าซมีเทน” จากหลุมฝังกลบ ซึ่งเป็นก๊าซเรือนกระจกที่มีศักยภาพในการทำให้โลกร้อนสูงกว่าคาร์บอนไดออกไซด์มากกว่า 20 เท่า

15 องค์กรรัฐ-เอกชน จับมือรณรงค์ครั้งใหญ่ ร่วม MOU สู่สังคมยั่งยืน Stop Food Waste Start the Future
15 องค์กรรัฐ-เอกชน จับมือรณรงค์ครั้งใหญ่ ร่วม MOU สู่สังคมยั่งยืน Stop Food Waste Start the Future

หยุดขยะอาหาร เริ่มต้นอนาคต: จุดเปลี่ยนของประเทศไทยสู่ความยั่งยืน

เพื่อตอบโจทย์ความท้าทายดังกล่าว กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม ได้ประกาศจุดยืนอย่างเป็นรูปธรรมผ่านการลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ร่วมกับองค์กรภาคี 15 แห่ง ภายใต้แนวคิด Stop Food Waste Start the Future: หยุดขยะอาหาร ต่ออนาคต โดยมีเป้าหมายในการผลักดันให้การลดขยะอาหารเป็นภารกิจระดับชาติที่ทุกภาคส่วนสามารถมีส่วนร่วม ตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนที่ 12 ของประเทศไทยที่สอดรับกับองค์การสหประชาชาติ เรื่องการสร้างหลักประกันให้มีรูปแบบการผลิตและการบริโภคที่ยั่งยืน (Ensure sustainable consumption and production patterns)

 ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

ในการนี้ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ให้เกียรติเป็นประธาน พร้อมด้วย นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่ง ดร.พิรุณ สัยยะสิทธิ์พานิช อธิบดีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม ได้มอบหมายให้ นายปวิช เกศววงศ์ รองอธิบดีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม เป็นผู้แทนร่วมลงนาม โดยมี นางสาวระเบียบ ภูผา ผู้อำนวยการกองขับเคลื่อนการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมอากาศ และเจ้าหน้าที่กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อมเข้าร่วมงาน

ปีแห่งการเริ่มต้นลดขยะอาหาร

ปัญหาขยะอาหารไม่ใช่เพียงปัญหาระดับชาติ แต่เป็นวิกฤติระดับโลกที่ทุกภาคส่วนต้องตระหนักและร่วมมืออย่างจริงจัง เพราะขยะอาหารส่งผลกระทบทั้งต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และเศรษฐกิจ การลดขยะอาหารไม่ใช่เรื่องของใครคนใดคนหนึ่งแต่คือการกิจร่วม จึงตั้งเป้าประกาศให้ปีนี้เป็น “ปีแห่งการเริ่มต้นรณรงค์การลดขยะอาหาร” วางรากฐานการขับเคลื่อนทั้งด้านการสื่อสาร รณรงค์ และนำร่องลดขยะอาหารอย่างเป็นรูปธรรมในองค์กรที่มีพลังต่อการปลุกกระแส หวังขยายผลสู่วิถีชีวิตของสังคมไทย สร้างผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมในวงกว้าง พร้อมเชื่อมโยงอาหารส่วนเกินสู่การแบ่งปันในอนาคต

ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าว

สำหรับการลงนามครั้งนี้มีองค์กรเข้าร่วมทั้งสิ้น 15 หน่วยงาน แบ่งเป็นภาคีองค์กรนำร่องผู้ปฏิบัติ ได้แก่ ห้างสรรพสินค้าซีคอน สยามพิวรรธน์ เซ็นทรัลพัฒนา เดอะมอลล์ เครือข่ายมหาวิทยาลัยยังยืนแห่งประเทศไทย และภาคีองค์กรนำร่องผู้สนับสนุน ได้แก่ กรุงเทพมหานคร กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ โดยศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุ ศูนย์วิจัยและสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน มูลนิธิสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย สมาคมส่งเสริมการผลิตและการบริโภคที่ยั่งยืน และ บริษัท ไทยยูธกรุ๊ป จำกัด ซึ่งทั้งหมดจะร่วมเป็นพลังสำคัญในการจุดประกายการมีส่วนร่วนร่วมของทุกภาคส่วนทั่วประเทศ ผลักดันสู่การเปลี่ยนแปลงเชิงพฤติกรรมนำไปสู่การลดขยะอาหาร เพื่อร่วมกันสร้างสังคมแห่งการผลิตและบริโภคอย่างยั่งยืนในอนาคต

15 องค์กรรัฐ-เอกชน จับมือรณรงค์ครั้งใหญ่ ร่วม MOU สู่สังคมยั่งยืน Stop Food Waste Start the Future
15 องค์กรรัฐ-เอกชน จับมือรณรงค์ครั้งใหญ่ ร่วม MOU สู่สังคมยั่งยืน Stop Food Waste Start the Future

บูรณาการข้ามภาคส่วน

สิ่งที่น่าสนใจของความร่วมมือครั้งนี้คือการบูรณาการข้ามภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน องค์กรวิชาการ และภาคประชาสังคม เพื่อขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนที่ 12 ของสหประชาชาติ (SDG 12) โดยเฉพาะเป้าหมายย่อย 12.3 ที่มุ่งลดขยะอาหารต่อหัวลงครึ่งหนึ่งภายในปี 2030 ความร่วมมือนี้จึงไม่ใช่เพียงการแสดงสัญลักษณ์ทางนโยบาย แต่เป็นกลไกใหม่ในการสร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงพฤติกรรมที่มีพลัง

การกดปุ่มสตาร์ท “ปีแห่งการเริ่มต้นลดขยะอาหาร” จึงสร้างแรงกระเพื่อมในหลายระดับ ตั้งแต่ระดับองค์กร เช่น ห้างสรรพสินค้าชั้นนำและมหาวิทยาลัยในเครือข่ายความยั่งยืน จนถึงระดับประชาชนทั่วไป โดยหวังให้การลดขยะอาหารกลายเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมการบริโภคของสังคมไทย

ในเชิงวิชาการ ความสำคัญของการจัดการขยะอาหารมิได้จำกัดอยู่แค่การลดปริมาณของเสีย แต่ยังเกี่ยวข้องกับแนวคิดวงจรชีวิตของผลิตภัณฑ์ (Life Cycle Thinking) การวางแผนการจัดการของเสียที่เน้นการป้องกันตั้งแต่ต้นทาง (Prevention) และการสร้างมูลค่าเพิ่มผ่านแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) เช่น การบริจาคอาหารส่วนเกินให้กับผู้ยากไร้ การนำเศษอาหารไปผลิตปุ๋ยอินทรีย์ หรือแม้แต่ใช้ในเทคโนโลยีชีวภาพเพื่อผลิตพลังงานชีวภาพ

ประเด็นขยะอาหารจึงไม่ควรถูกมองเป็นเรื่องเล็ก หรือปัญหาที่ต้องรอการแก้จากใครคนหนึ่ง แต่เป็นภารกิจร่วมกันของทุกคนในห่วงโซ่อาหาร ตั้งแต่ผู้ผลิต ผู้จัดจำหน่าย ผู้บริโภค จนถึงผู้กำหนดนโยบาย การริเริ่มของภาครัฐไทยในครั้งนี้จึงนับเป็นก้าวสำคัญที่ควรได้รับการต่อยอดอย่างต่อเนื่อง ทั้งในเชิงนโยบายเชิงรุก การวิจัยและพัฒนานวัตกรรมทางสิ่งแวดล้อม ตลอดจนการปลูกฝังวัฒนธรรมการบริโภคอย่างรู้คุณค่าในระดับรากฐาน เพราะท้ายที่สุด การหยุดขยะอาหาร คือการเริ่มต้นของสังคมที่มีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม และเป็นจุดเริ่มต้นของอนาคตที่ยั่งยืนสำหรับทุกคน

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์