จับตา ‘มิแทก-รากาซา-นอกูรี’ พายุหมุนเขตร้อน 3 ลูกก่อตัวพร้อมกันในมหาสมุทรแปซิฟิก

19 ก.ย. 2568 - 06:44

  • ไทยลุ้น 3 พายุหมุนเขตร้อนก่อตัวพร้อมกันในมหาสมุทรแปซิฟิก

  • นักวิชาการห่วง “รากาซา” ปลายเดือนกันยายน

  • อุตุฯ แจงยังไม่กระทบไทยโดยตรง แต่แรงลมมรสุมอาจเพิ่มฝนบางพื้นที่ ย้ำติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

จับตา ‘มิแทก-รากาซา-นอกูรี’ พายุหมุนเขตร้อน 3 ลูกก่อตัวพร้อมกันในมหาสมุทรแปซิฟิก

สถานการณ์พายุช่วงโค้งสุดท้ายของฤดูฝน ขณะนี้พบการก่อตัวของพายุหมุนเขตร้อนในมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตก 3 ลูก ได้แก่ พายุโซนร้อนมิแทก (Mitag) พายุโซนร้อนรากาซา (Ragasa) และพายุโซนร้อนนอกูรี (Neoguri) ซึ่งทั้งหมดมีแนวโน้มทวีกำลังแรงขึ้นในช่วงไม่กี่วันข้างหน้า

พายุมิแทก (Mitag) ขึ้นฝั่งทางตอนใต้ของประเทศจีนตอนใต้

สำหรับพายุโซนร้อน “มิแทก” (เป็นชื่อของผู้หญิง ในภาษาพื้นเมืองของเกาะแยป) ตั้งโดยสาธารณรัฐสหพันธ์ไมโครนีเซีย พายุลูกนี้ก่อตัวจากหย่อมความกดอากาศต่ำใกล้ฟิลิปปินส์

ล่าสุด กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศเรื่องพายุ “มิแทก” ฉบับที่ 3 (247/2568) ย้ำไม่เคลื่อนเข้าประเทศไทย โดยระบุว่าเมื่อวันที่ 18 ก.ย. 68 เวลา 13.00 น. พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนได้ทวีกำลังขึ้นเป็นพายุโซนร้อน “มิแทก” (Mitag) แล้ว โดยเมื่อเวลา 04.00 น. ของวันนี้ มีศูนย์กลางอยู่ที่ละติจูด 21.8 องศาเหนือ ลองจิจูด 116.3 องศาตะวันออก ความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือด้วยความเร็วประมาณ 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณด้านตะวันออกของประเทศจีนตอนใต้ ในช่วงวันที่ 19-20 กันยายน 2568 โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าประเทศไทย ขอให้ผู้ที่จะเดินทางไปบริเวณดังกล่าวตรวจสอบสภาพอากาศก่อนออกเดินทางในช่วงวันดังกล่าวไว้ด้วย

จากอิทธิพลดังกล่าวส่งผลทำให้ร่องมรสุมเลื่อนขึ้นมาพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบน ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนตกสะสมที่จะเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย

พายุรากาซา (Ragasa) อาจพัฒนาเป็นไต้ฝุ่นกำลังแรง

ส่วนพายุโซนร้อน “รากาซา” (แปลว่า กระโชก) ตั้งโดยฟิลิปปินส์ พายุลูกนี้เกิดขึ้นในทะเลฟิลิปปินส์ตอนกลาง คาดว่าจะทวีกำลังแรงขึ้นอย่างรวดเร็ว ในช่วงวันที่ 20-21 ก.ย.นี้ หลายสำนักพยากรณ์ว่าพายุรากาซาอาจพัฒนาเป็นไต้ฝุ่นกำลังแรง และมีโอกาสส่งผลกระทบโดยตรงต่อหมู่เกาะบาบูยัน, บาตาเนส และภาคเหนือของเกาะลูซอน ฟิลิปปินส์ ในต้นสัปดาห์หน้า จากนั้นจะมุ่งไปทางตอนใต้ของประเทศจีนต่อในช่วงวันที่ 23-24 ก.ย.นี้ ทิศทางคล้ายๆ กับพายุมิแทก แต่ยังคงต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เพราะยังมีโอกาสที่จะเปลี่ยนทิศทางได้ตลอดเวลา

นักวิชาการชี้ “รากาซา” พายุลูกใหม่ช่วงปลายเดือนกันยายนน่าห่วง

ด้าน ดร.สนธิ คชวัฒน์ นักวิชาการด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ชมรมนักวิชาการสิ่งแวดล้อมไทย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Sonthi Kotchawat ชวนจับตาเส้นทางพายุหมุนเขตร้อนชื่อ ”รากาซา” เป็นพายุลูกใหม่ช่วงปลายเดือนกันยายนถึงเดือนตุลาคม2568อาจรุน แรงเป็นระดับซุปเปอร์ไต้ฝุ่น

สำนักงานอุตุนิยมวิทยาฮ่องกง (HKO) เตือนว่าสภาพอากาศจะเลวร้ายลงอย่างมากในช่วงกลางสัปดาห์หน้า (วันที่24-26 ก.ย. 2568) เนื่องจากพายุไซโคลนเขตร้อนอีกลูกหนึ่งชื่อ “รากาซา” ซึ่งพัดอยู่เหนือมหาสมุทรแปซิฟิกเหนือทิศตะวันตกของประเทศฟิลิปปินส์ คาดว่าจะเคลื่อนตัวเข้าสู่ทะเลจีนใต้ตอนเหนือในช่วงต้นสัปดาห์หน้า และเคลื่อนตัวเข้าใกล้ชายฝั่งทางตอนใต้ของจีนมากขึ้น

ตามพยากรณ์อากาศปัจจุบัน พายุไซโคลนเขตร้อนรากาซาจะทวีกำลังแรงขึ้นอย่างมากและเคลื่อนตัวเข้าใกล้บริเวณช่องแคบลูซอนในอีกไม่กี่วันข้างหน้า และอาจรุนแรงถึงระดับซูเปอร์ไต้ฝุ่น เข้าฮ่องกงและจีนทางตอนใต้และเข้าสู่ประเทศเวียดนามทางตอนเหนือต่อไป ภายใต้อิทธิพลของการหมุนเวียนในวงกว้าง ลมจะแรงขึ้นอีกครั้งในช่วงกลางสัปดาห์หน้า โดยมีฝนตกหนัก พายุฝนฟ้าคะนอง และคลื่นพายุซัดชายฝั่ง

นอกูรี (Neoguri) อาจทวีกำลังเป็นไต้ฝุ่นในช่วงสุดสัปดาห์

ส่วนพายุโซนร้อน “นอกูรี” (ชื่อสุนัขพันธุ์หนึ่งในสาธารณรัฐเกาหลี) ตั้งโดยสาธารณรัฐเกาหลี พายุลูกนี้พัฒนาอย่างรวดเร็วจากดีเปรสชันขนาดเล็กกลางแปซิฟิก ปัจจุบันกำลังเคลื่อนตัวไปทางด้านตะวันตก โดยอาจทวีกำลังเป็นไต้ฝุ่น ในช่วงสุดสัปดาห์นี้

อย่างไรก็ตาม ทิศทางการเคลื่อนที่ยังไม่แน่ชัดว่าจะเบนหัวขึ้นเหนือหรือยังคงเคลื่อนตัวต่อไปทางด้านตะวันตก และยังไม่ส่งผลกระทบต่อประเทศใด 

ทั้งนี้ พายุทั้ง 3 ลูกยังไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อสภาพอากาศของประเทศไทยในช่วงนี้ แต่การก่อตัวของพายุหลายลูกในเวลาเดียวกันอาจทำให้ลมมรสุมมีความแปรปรวน และส่งผลต่อสภาพอากาศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะฟิลิปปินส์ จีนตอนใต้ และหมู่เกาะรอบข้าง ใครที่จะเดินทางไปในพื้นที่เสี่ยงควรติดตามการพยากรณ์อากาศอย่างใกล้ชิด และเตรียมพร้อมรับมือกับฝนตกหนัก น้ำท่วมฉับพลัน และคลื่นลมแรงในทะเล

ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์ กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือโทร 0-2399-4012-13 และ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์