ถอดบทเรียนพิพาทไทย-กัมพูชา EP.1 จับสัญญาณรบรอบใหม่ ใครอยากจุดไฟสงคราม ช่วงเปลี่ยนม้ากลางศึก

29 ส.ค. 2568 - 02:01

  • การะปะทะระหว่างกองทัพไทยและกัมพูชา ยังส่อจะเปิดฉากรอบใหม่ได้ทุกเมื่อ

  • กองทัพไทยเข้าสู่ช่วงเปลี่ยนผ่านระดับผู้บังคับบัญชาที่ต้องจับตาโผโยกย้ายนายทหาร 2568

  • จับตาวิถีแห่งอำนาจ ฟาดแม่ทัพภาคที่ 1 หวังผลตีวัวกระทบคราดไปถึงใคร

ถอดบทเรียนพิพาทไทย-กัมพูชา EP.1 จับสัญญาณรบรอบใหม่ ใครอยากจุดไฟสงคราม ช่วงเปลี่ยนม้ากลางศึก

สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังการประชุม RBC ครบทั้ง 3 พื้นที่ แม้จะมีข้อตกลงที่ดูจะนำไปสู่การพูดคุยระดับ GBC รอบหน้าได้ในระดับหนึ่ง 

แต่ความตึงเครียดที่เกิดขึ้นบริเวณแนวชายแดนด้านจังหวัดสระแก้ว ที่มีการชุมนุมประท้วงของมวลชนฝ่ายกัมพูชา จนเกิดการเผชิญหน้ากับมวลชนฝ่ายไทย

ชายแดนด้าน จ.สุรินทร์ ที่ล่าสุดทหารไทยเหยียบกับระเบิดขาขาดเป็นรายที่ 6 ยังเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ส่อจะเกิดการปะทะรอบใหม่เกิดขึ้น

ชายแดนด้าน จ.สระแก้ว กองทัพภาคที่ 1 เผชิญแรงกดดันจากมวลชนให้ดำเนินการขั้นเด็ดขาดกับชุมชนชาวกัมพูชา และขยับแนวรั้วลวดหนามไปให้สุดขอบถนนศรีเพ็ญ 

พล.ท.อมฤต บุญสุยา แม่ทัพภาคที่ 1 ตกเป็นเป้าหมายสำคัญ สำหรับแรงกดดันในครั้งนี้ แม้ว่าแม่ทัพใหญ่จะพยายามออกมาชี้แจงว่า สถานการณ์บริเวณนั้นละเอียดอ่อน และสุ่มเสี่ยงที่จะเกิดผลกระทบกับพลเรือน หากมีการเปิดแนวรบเพิ่มเติมมายังชายแดนภาคตะวันออก 

แต่คำอธิบายทั้งหมดไม่สามารถลดความร้อนแรง และอารมณ์ของมวลชนฝ่ายไทย ภายใต้การตั้งข้อสังเกตว่า แม่ทัพใหญ่ อาจกำลังตกเป็นเป้าการโจมตี เพื่อพาดพิงไปถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มากกว่า 

ในโลกออนไลน์มีการผลิตคลิป ทั้ง VDO ที่พาดพิง พล.ท.อมฤต และพาดพิงไปถึงพล.อ.ประยุทธ์ถึงขั้นผลิตการ์ตูนแอนนิเมชั่น ที่มีรูปแบบการนำเสนอ และตัวการ์ตูนที่คุ้นตายิ่ง

คุ้นตาว่า…เคยผลิตออกมาในหัวข้อบางหัวข้อก่อนหน้านี้ จนเป็นคลิปไวรัลอยู่ช่วงระยะหนึ่ง

ขบวนการโจมตี พล.ท.อมฤต ที่มีเป้าหมายกระทบชิ่งถึงพล.อ.ประยุทธ์ ในห้วงเวลาที่กำลังจะพิจารณาบัญชีแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารระดับนายพล ที่มีกระแสข่าวว่าจะจบภายในต้นเดือนกันยายนนี้ ทำให้หนีไม่ออกที่ถูกวิเคราะห์ว่า อาจเป็นเกมสกัดดาวรุ่ง เพื่อเบี่ยงเส้นทางการเติบโตของพล.ท.อมฤต 

เพราะการสกัด พล.ท.อมฤต ย่อมเปรียบดั่งการสกัดเส้นทางขยายอำนาจของพล.อ.ประยุทธ์ในกองทัพบก กรณีที่พล.ท.อมฤต แหวกด่านเข้าสู่ตำแหน่ง 5 เสือ ทบ.ในเดือนตุลาคม และก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบกในปี 2570 

พล.ท.อมฤต ได้รับการสนับสนุนจากพล.อ.ประยุทธ์ มาตลอด ตั้งแต่เส้นทางการรับราชการในกรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ หรือ ทหารเสือราชินี 

แม้กระทั่งการขึ้นดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ ก่อนจะขยับเข้าไลน์ เป็นรองแม่ทัพภาคที่ 1 และขึ้นเป็นแม่ทัพภาคที่ 1 เมื่อเดือนตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ ก็มีส่วนสำคัญในการผลักดันทั้งสิ้น 

การประชุมคณะกรรมการกลาโหมในสัปดาห์นี้ จึงต้องติดตามและจับตาว่า กระแสการกดดันจากภาคสังคม และโลกออนไลน์ที่ลงทุนถึงขั้นผลิตการ์ตูนแอนนิเมชั่นมาโจมตีแม่ทัพใหญ่ จะส่งผลให้แม่ทัพใหญ่ ต้องเบี่ยงเส้นทางไปเติบโตที่กระทรวงกลาโหมหรือไม่

เพราะหากใช่…ก็ถือว่า ขบวนการกดดันประสบผลสำเร็จ 

ประการสำคัญ ยิ่งเห็นว่า แท้จริงการปลุกปั่นในประเด็นบ้านหนองจาน โดยไม่หวั่นว่า จะบานปลายไปสู่การปะทะกันด้วยกองกำลังของทั้งไทยและกัมพูชา มีเป้าหมายเพียงแค่สกัดดาวรุ่งที่ชื่อ พล.ท.อมฤต บุญสุยาดาวรุ่งที่มี พล.อ.ประยุทธ์ เป็นผู้สนับสนุนคนสำคัญก็เท่านั้น

ส่วนชายแดนด้านจังหวัดอุบลราชธานี บุรีรัมย์ สุรินทร์ และศรีสะเกษนั้น แม้ แม่ทัพกุ้ง พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 จะย้ำว่าได้เตรียมแผนปฏิบัติการทางทหารไว้แล้ว เพื่อตอบโต้ หลังทหารไทยเกิดเหยียบกับระเบิดจนต้องเสียขาด้านขวาเป็นรายที่ 6  

แต่ก็ไม่ง่ายที่กองทัพจะลุกขึ้นมาปฏิบัติการทางทหาร หรืองัดกฎการปะทะขึ้นมา เปิดปฏิบัติการกับกัมพูชา เพราะการวางกับระเบิดไม่ได้เป็นการกระทำซึ่งหน้า เหมือนวันที่ 24 กรกฏาคม ที่กัมพูชาเปิดฉากยิงจรวดBM21 เข้ามาในฝั่งไทย

ยิ่งอยู่ท่ามกลางสายตาของชาวโลกที่คอยจับจ้อง และมองว่า ไทยมีศักยภาพด้านการทหารที่เหนือกว่ากัมพูชา การดำเนินการใดใด ยิ่งต้องระมัดระวัง และต้องมีเหตุ มีผลเพียงพอ

จริงอยู่ทหารไทย อาจจะบาดเจ็บจากกับระเบิดรายแล้ว รายเล่า แต่ละครั้งก็พิสูจน์ทราบชัดว่า เป็นกับระเบิดใหม่ที่เพิ่งวางขึ้น และอาจจะวางในห้วงเวลาหลังเที่ยงคืนวันที่ 28 กรกฏาคม ซึ่งเป็นกำหนดหยุดยิง 

แต่หลักฐานเพียงเท่านั้น ยังไม่มีน้ำหนักเพียงพอที่ไทยจะเปิดปฏิบัติการทางทหารรุกเข้าไปในพื้นที่ของกัมพูชา 

เพราะทันทีที่ทำเช่นนั้น ไทยก็จะตกอยู่ในฐานะเป็นผู้รุกราน และเปิดทางให้กัมพูชาเรียกร้องให้ประเทศที่สาม โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกา หรือ กองกำลังนานาชาติ เข้ามาแทรกแซงสถานการณ์ได้ทันทีเช่นกัน 

การรบ 5 วันระหว่างไทย-กัมพูชาที่ผ่านมา แม้เราจะถูกโจมตีก่อน และมีความชอบธรรมที่จะโต้ตอบได้ แต่การโต้ตอบ ก็มีกรอบและขอบเขตว่า สามารถทำได้แค่ไหน และอะไรที่ไม่สามารถทำได้

ปฏิบัติการป้องกันตัวเองของฝ่ายไทย ในการรบ 5 วัน ซึ่งเป็นการใช้ปฏิบัติการทางอากาศ และปืนใหญ่ยิงถล่มตลอดทั้ง 5 วัน จนสร้างความสูญเสียจำนวนมากให้กับฝ่ายกัมพูชา แม้คนไทยจะรู้สึกว่า เส้นตายหลังเที่ยงคืนวันที่ 28 กรกฏาคม จะเร็วเกินไป 

หลายคนอยากให้ดำเนินการต่อเนื่องไปอีก เพื่อรุกคืบเข้าไปยึดคืนพื้นที่ให้ได้อย่างเบ็ดเสร็จ โดยเฉพาะปราสาทตาควาย ที่บางส่วนยังอยู่ในการยึดครองของกัมพูชา และทำลายล้างศักยภาพการรบของกัมพูชาให้หมดสภาพการสู้รบ 

แต่ในสายตาชาวโลก การปะทะ 5 วันที่ฝ่ายไทยสูญเสีย ทั้งทหารและชาวบ้าน รวม 32 ราย ทรัพย์สินเสียหายจำนวนหนึ่ง ขณะที่ฝ่ายกัมพูชา สูญเสียเกือบครึ่งหมื่น ถูกมองจากบางประเทศว่า เป็นการป้องกันตัวที่เกินกว่าเหตุ 

เพราะการใช้กำลังรบทางอากาศ ถล่มฐานที่มั่นตลอดทั้ง 5 วัน และสร้างความเสียหายอย่างยับเยินให้กับฝ่ายกัมพูชา เป็นการใช้กำลังที่กัมพูชาร้องต่อประชาคมโลกว่า ไทยเอาเปรียบกัมพูชา และเรียกร้องให้นานาชาติกดดันไทย ไม่ให้ไทยใช้กำลังทางอากาศต่อกัมพูชาอีก ในกรณีที่อาจเกิดปะทะกันครั้งใหม่

การขยับแต่ละก้าวของฝ่ายไทย ทั้งที่ชายแดนด้านสระแก้ว และชายแดนด้านทัพภาคที่ 2 จึงต้องเต็มไปด้วยความละเอียด รอบคอบและรัดกุม แม้วันนี้จะพร้อมเกิน 100% แล้วก็ตาม 

ด้านสระแก้ว ต้องระวังเป้าหมายพลเรือนที่หนาแน่น ขณะที่ด้านทัพภาคที่ 2 ก็ต้องระวังปฏิบัติกองโจรของกัมพูชา 

ห้วงเวลาที่ฝ่ายความมั่นคงกังวลมากที่สุด ว่า อาจจะเกิดการปะทะรอบใหม่ คือ ห้วงตั้งแต่ต้นเดือนกันยายนเป็นต้นไป   

เพราะช่วงเวลานั้น เป็นช่วงเวลาการเปลี่ยนม้ากลางศึกจำนวนมาก ทั้งระดับ ผบ.เหล่าทัพ ที่เกษียณพร้อมกัน ตั้งแต่ปลัดกระทรวงกลาโหม ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้บัญชาการทหารอากาศ ผู้บัญชาการทหารเรือ 

ส่วนระดับปฏิบัติการ ระดับแม่ทัพ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เกษียณ พล.ท.อมฤต บุญสุยา แม่ทัพภาคที่ 1 น่าจะมีการปรับย้าย 

ยังไม่นับการปรับย้ายระดับผู้บัญชาการกองพล ที่เชื่อว่าจะมีการขยับหลายหน่วย ช่วงเวลาตั้งแต่ต้นเดือนกันยายน ส่วนใหญ่จะเป็นช่วงสุญญากาศของการทำงาน ช่วงนี้จึงเป็นช่วงเวลาที่กองทัพจับตาความเคลื่อนไหวของฝ่ายกัมพูชาอย่างใกล้ชิด เพราะกัมพูชา อาจอาศัยช่วงเวลาเปราะบางนี้ เข้าโจมตีฝ่ายไทยอีกครั้ง

ภาพรวมวันนี้ จึงต้องเตือนสติบรรดาผู้กระหายสงคราม ผู้ที่กระเหี้ยนกระหือรือจะจุดไฟสงคราม จะต้องประเมินสถานการณ์ให้รอบคอบ ก่อนที่การรบ ที่ไม่ควรรีบรบจะเกิดขึ้น และเกิดการสูญเสีย อย่างที่ไม่ควรให้เกิด

EP.หน้า จะมาสรุปม้าศึกตัวใหม่ของแต่ละพื้นที่ว่า ใครจะเข้าประจำการสนามรบ ที่พร้อมรับมือกัมพูชาในแต่ละจุดบ้าง

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์