ส่องสถานการณ์ร้อนชายแดนไทย-กัมพูชา EP.4 เบื้องหลังคืนเดือด “เนิน 350” ยุทธการยึดคืน “ปราสาทตาควาย” ปฏิบัติการแลกชีวิต ทวงคืนผืนดินไทย

21 พ.ย. 2568 - 05:06

  • เปิดเบื้องหลังคืนปะทะเดือด ยึดคืนปราสาทตาควายและเนิน 350

  • ไทยยอมถอย เลือกรักษาชีวิตทหาร นับเป็นบทเรียนทางยุทธวิธีก่อนปรับแผนยุทธการใหม่

  • รู้เขา ประเมินเรา รอสถานการณ์สุกงอม แค่อย่าให้มีปืนลั่น

ส่องสถานการณ์ร้อนชายแดนไทย-กัมพูชา EP.4 เบื้องหลังคืนเดือด “เนิน 350” ยุทธการยึดคืน “ปราสาทตาควาย” ปฏิบัติการแลกชีวิต ทวงคืนผืนดินไทย

EP.ที่ผ่านมา ปูพื้นให้เห็นถึงปฏิบัติการก่อนคืนวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ก่อนการตัดสินใจเปิด Operation สำคัญ เพื่อยึดเนิน350 และทวงคืนตัวปราสาทตาควาย ที่ฝ่ายกัมพูชาบุกเข้าไปยึดครองและตั้งบังเกอร์ไว้ตั้งแต่ช่วงเช้าของวันที่ 24 กรกฎาคม 

การที่ฝ่ายกัมพูชายึดที่มั่นสำคัญ ทั้งภายในตัวปราสาทและวางกำลังไว้บนเนิน 350 รวมทั้งฝังตัวอยู่ในบังเกอร์ที่ขุดเข้าไปในเขา อันเป็นยุทธการที่ฝ่ายเวียดกงเคยนำมาใช้ในสงครามอินโดจีน เมื่อครั้งรบกับสหรัฐอเมริกา ทำให้แผนปฏิบัติการยึดคืนปราสาทตาควายในคืนวันที่ 28 กรกฎาคม เป็นไปด้วยความยากลำบาก

เส้นทางที่ค่อนข้างทุรกันดาร และค่อนข้างแคบ รวมทั้งพื้นที่รอบตัวปราสาทที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการกำลังและการวางแนวยิง ทำให้การวางแผนยึดตาควาย และยึดเนิน 350 ต้องวางกำลังอย่างรัดกุม 

กองกำลังผสมทั้งกำลังหลักจากรบพิเศษ, ร.31 รอ. และกำลังจากทัพภาคที่ 2 วางตัวเข้าตรึงกำลังรอบปราสาท ทั้งด้านหน้า และด้านหลัง 

รบพิเศษมีภารกิจเป็นหน่วยจู่โจม เพื่อเข้ายึดตัวปราสาทตาควาย ส่วน ร.31 รอ.ในคืนนั้น รับหน้าที่ขึ้นยึดเนิน 350 เพื่อยันกำลังของฝ่ายกัมพูชาให้ถอยร่นออกนอกเขตประเทศไทย และไม่ให้เป็นภัยคุกคาม และเข้ามาหนุนกำลังที่อยู่ในตัวปราสาท

ปฏิบัติการในคืนวันที่ 28 กรกฎาคม จึงเปิดฉากด้วยการใช้ฝูง F-16 และกริพเพน จากกองทัพอากาศ บินเข้าทิ้งระเบิดถล่มเนิน 350 หลายระลอก เพื่อปูทางให้ ร.31 รอ.บุกขึ้นไปยึดเนิน 

การทิ้งระเบิดในวันนั้น เป็นไปด้วยความระมัดระวัง เพราะต้องไม่ให้เป้าหมายเลยลงไปกระทบต่อตัวปราสาท อันจะเป็นเหตุให้ฝ่ายกัมพูชาจะใช้เป็นเหตุผลว่า ฝ่ายไทยละเมิดกฎการโจมตีที่มีเป้าหมายต่อโบราณสถาน

ในภาคพื้นดิน ปืนใหญ่จากฐานปืนของ ร.31 รอ. และปืน ค.สนาม ของ ร.31 รอ. ก็ระดมยิงเปิดทางสนับสนุนการเข้าตีไปพร้อมๆกัน

ทันทีที่สิ้นเสียงระเบิดจากปฏิบัติการทางอากาศระลอกสุดท้าย กำลังจากทั้งรบพิเศษ และร.31 รอ.ก็เข้าปฏิบัติการภาคพื้นดินทันที 

แต่การรบภาคพื้นดินในวันนั้นต้องเจอการยิงต้านทานจากกำลังของฝ่ายกัมพูชา ทั้งในตัวปราสาท และกำลังที่ซ่อนอยู่ในบังเกอร์ที่เจาะเข้าไปในเนิน 350 และไม่ได้รับผลกระทบจากการทิ้งระเบิดของ F-16 และกริพเพน

ปืน ค.สนาม ที่ยิงถล่มเข้าไปในพื้นที่รอบตัวปราสาท ทำให้กำลังส่วนหน้าของรบพิเศษที่จะรุกคืบเข้าไปชาร์จ และยึดตัวปราสาทคืน ต้องสะดุดอยู่กับที่ 

‘หมวดบุ๊ค’ ร.ต.เกียรติพงศ์ สถาวร ผบ.หมวดจากกรมรบพิเศษที่ 2 กองพลรบพิเศษ นายทหารหนุ่มอนาคตไกล ที่ถูกวางตัวให้เป็นผู้นำชุดปฏิบัติการรบพิเศษ ทำหน้าที่เป็นหน่วยจู่โจม ตัดสินใจพุ่งออกจากบังเกอร์เป็นหน่วยแรก เพื่อเข้าไปช่วงชิงที่มั่นในตัวปราสาท 

แต่สถานการณ์ที่พลิกผันในคืนนั้น คือ ทั้งชุดกลับเจอสนามเพลาะทุ่นระเบิด ที่ฝ่ายกัมพูชาลอบวางเอาไว้ในพื้นที่จากรอบตัวปราสาท พร้อมปืน ค. สนามจากฝ่ายกัมพูชา ที่ระดมยิงเข้าไปในพื้นที่รอบปราสาท ทำให้ ‘หมวดบุ๊ค’ เหยียบทุ่นระเบิด และต้องสูญเสียข้อเท้าด้านขวาไปกับปฏิบัติครั้งนี้ ตั้งแต่การลุกระลอกแรกของคืนนั้น พร้อมกับกำลังพลอีกจำนวนหนึ่ง ที่ได้รับบาดเจ็บจากสะเก็ดระเบิด จากปืน ค.สนามของฝ่ายตรงข้าม 

การบุกเข้ายึดตัวปราสาทตาควาย ถูกสั่งให้รอ และวางกำลังตรึงเอาไว้ก่อน แม้กำลังอีกส่วนหนี่งของทัพภาค 2 จะเตรียมเข้าชาร์จจากอีกด้านของปราสาททันทีที่ได้รับคำสั่ง ก็ได้รับคำสั่งให้รอเคลียร์พื้นที่ก่อน 

หน่วยแพทย์สนามต้องวางกำลัง เพื่อวางเส้นทางส่งกลับทางการแพทย์ เพราะมีกำลังพลที่บาดเจ็บสาหัสจำนวนหนึ่ง รวมทั้ง ‘หมวดบุ๊ค’ รอการส่งกลับฉุกเฉินจากพื้นที่รอบตัวปราสาท 

การส่งกลับทางการแพทย์ ท่ามกลางห่าสะเก็ดระเบิด จากกระสุนปืน ค.สนาม และปืนเล็กที่ระดมยิงมาจากทุกทาง เป็นไปด้วยความยากลำบาก 

รถหุ้มเกราะสายพานลำเลียงพล ต้องตะลุยเข้าไปลำเลียงคนเจ็บออกจากพื้นที่ปะทะ อันเป็นปฏิบัติการส่งกลับทางการแพทย์ที่ได้รับการยอมรับจากสมรภูมิ 5 วันครั้งนี้ว่า มีประสิทธิภาพสูงสุด และลดการสูญเสียกำลังพลได้อย่างเห็นได้ชัด 

กำลังพลที่บาดเจ็บทุกนาย ได้รับการปฐมพยาบาลและส่งกลับมายัง รพ.สนามได้อย่างปล่อดภัยทั้งหมด 

ส่วนกำลังพลที่เสียชีวิตทั้งหมด…เป็นการเสียชีวิตทันทีในสนามรบ

ปฏิบัติการยึดตัวปราสาทตาควายในคืนนั้น จึงต้องรอผลจากทีมปฏิบัติการยึดเนิน350 เพื่อยึดจุดสูงข่มให้ได้ก่อน 

การรบคืนนั้น แม้กำลังจาก ร.31 รอ.จะปฏิบัติการรุกขึ้นไปจนถึงยอดเนิน350 ได้สำเร็จ ก่อนถึงเส้นตายหยุดยิงในเที่ยงคืนของวันที่ 28 กรกฎาคม แต่ท้ายที่สุดก็ไม่สามารถสถาปนากำลังไว้บนยอดเนิน เพื่อยึดเนิน350 เป็นฐานที่มั่นต่อได้ 

เหตุผลสำคัญของความจำเป็นที่ต้องสละเนิน350 และนำกำลังกลับลงมายังฐานที่มั่นด้านล่าง มีเพียงสาเหตุเดียว คือ ในระยะเวลาที่เหลืออยู่ กำลังฝ่ายไทย ไม่สามารถเข้ากวาดล้างกำลังของฝ่ายกัมพูชาที่ซ่อนตัวอยู่ในบังเกอร์ใต้เนิน350 ได้ทั้งหมด 

การปะทะกันในคืนนั้น แม้จะใช้พลุแฟลร์ส่องสว่างยิงเข้าไปสนับสนุนในพื้นที่การรบ เพื่อความสะดวกของกำลังพล แต่ยังไม่สามารถครอบคลุมพื้นที่ปฏิบัติการทั้งหมด 

อัตราเสี่ยงของการสถาปนากำลังไว้บน ‘เนิน350’ มี 2 ส่วน

หนึ่ง คือ มีโอกาสตกเป็นเป้านิ่งของปืนใหญ่สนามของกัมพูชา และโดรนทิ้งระเบิด รวมทั้งเครื่องยิงจรวด BM-21 เพราะเป็นที่มั่นที่ยังขาดการก่อสร้างเบิร์ม บังเกอร์ และคูเลต ที่แข็งแรง พร้อมรองรับระเบิดจากปืนใหญ่ ปืน ค.สนาม และระเบิดจากโดรนโจมตีของฝ่ายกัมพูชา

อีกหนึ่งสาเหตุ คือ ฐานปฏิบัติการบน ‘เนิน350’ จะตกอยู่ในวงล้อมจากกำลังของฝ่ายกัมพูชาที่ซ่อนอยู่ใต้เนิน ซึ่งกัมพูชาขุดเจาะเป็นอุโมงค์มานานกว่า 10 ปี 

ความเสี่ยงในคืนนั้น หากเปิดปฏิบัติการรุกเข้าเคลียร์เนิน 350 ทั้งหมด และเดินหน้าเข้ายึดตัวปราสาทตาควาย คือ มีโอกาสสำเร็จสูง แต่หน่วยเหนือต้องยอมรับยอดความสูญเสียของกำลังพล ที่คาดการณ์ว่า อาจจะมีโอกาสสูญเสีย 5- 10 เปอร์เซ็นต์ของยอดทั้งหมด

ผลการประเมินในคืนนั้น ทำให้คำสั่งเข้าตีและยึดเนิน 350 แบบเบ็ดเสร็จ ถูกชะลอไว้ก่อน เปลี่ยนมาตรึงกำลังรอบตัวปราสาท ตัดเส้นทางลำเลียงกำลังพล และเส้นทางส่งเสบียงของฝ่ายกัมพูชา เพื่อทบทวนแผนการเข้าตีใหม่ 

ทั้งหมด คือ เหตุผลที่ทำให้ หลังเที่ยงคืนของวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ตัวปราสาทตาควาย และเนิน 350 บางส่วน จึงยังอยู่ในการยึดครองของฝ่ายกัมพูชาจนถึงทุกวันนี้ 

ท่ามกลางน้ำตาที่คลอเบ้าของกำลังพลในคืนนั้น ท่ามกลางความรู้สึกที่ต้องกลืนเลือดลงคอของผู้บังคับบัญชา ที่จำเป็นต้องเลือกรักษาชีวิตของกำลังพลเอาไว้ก่อน เพื่อรอวันเอาคืนในภายหลัง 

มีการตั้งคำถามว่า ถ้าคืนนั้นฝ่ายไทยยังดึงดันที่จะเข้ายึดปราสาทตาควายให้ได้ อะไรจะเกิดขึ้น 

ฝ่ายความมั่นคงประเมินว่า เราอาจต้องเสียขาของกำลังพลอีกส่วนหนึ่ง พร้อมๆกับสูญเสียกำลังพลในตัวเลขที่ยังยอมรับไม่ได้ 

แต่เมื่อตั้งคำถามเพิ่มว่า แล้วโอกาสที่เราจะเปิดปฏิบัติการเอาคืน ‘ปราสาทตาควาย’ เป็นไปได้หรือไม่ 

ฝ่ายความมั่นคงก็ตอบได้ทันทีว่า พร้อมเกิน 100 เปอร์เซ็นต์ และเชื่อว่า จะใช้เวลาไม่เกิน 2 วัน ในการยึดคืนตัวปราสาท รวมทั้งผลักดันกำลังฝ่ายกัมพูชาที่ลอบเข้ามาตั้งที่มั่นอยู่ใต้เนิน 350

เพราะรบครั้งหน้า สู้กัน ที่รู้ทั้งเขาและประเมินทั้งเรา…เรียบร้อยแล้ว 

การยืนยันจากใครบางคนในกรมศิลปากร ที่บอกว่า อะไรที่พังไป ก็สร้างใหม่ได้ พิมพ์เขียวที่มีอยู่ เนรมิตให้ใหม่ได้ไม่เกิน 1 ปี 

ทั้งหมดคือความมั่นใจให้กับฝายความมั่นคง เพื่อมิให้กังวลกับผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นกับสิ่งปลุกสร้างในบริเวณนั้น ที่ครั้งหนึ่งก็แค่กองหินกองหนึ่ง ที่กรมศิลปากรเป็นฝ่ายปลุกชีพขึ้นมาใหม่ 

ชีวิต และขาของกำลังพล สำคัญกว่า สิ่งปลูกสร้างที่พร้อมจะสร้างใหม่ 

อธิปไตยเหนือดินแดนต่างหาก ที่สำคัญกว่าสิ่งปลูกสร้างทั้งหมด ที่พร้อมจะสร้างใหม่เมื่อไหร่ก็ได้ 

โปรดรอคอยการเอาคืนผืนแผ่นดินไทยเหนือเนิน 350 และปราสาทตาควาย แบบอย่ากระพริบตา

พร้อมสัญญานที่ส่งไปถึงกัมพูชาว่า “อย่าเผลอทำปืนลั่นขึ้นมาแม้แต่นัดเดียว”

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์