การรบ 5 วันไทย - กัมพูชา เมื่อวันที่ 24 – 28 กรกฎาคม 2568 แม้ฝ่ายกัมพูชาจะเปิดการรบตลอดแนวชายแดน ตั้งแต่จังหวัดอุบลราชธานีลงมาถึงบุรีรัมย์ แต่การรบที่ถูกกล่าวถึงมากที่สุด เป็นสมรภูมิการรบที่ปราสาทตาควาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในคืนวันที่ 28 กรกฎาคม 2568
คลิบเสียงปะทะที่ 'สมรภูมิปราสาทตาควาย' กลายเป็นไวรัลในชั่วข้ามคืน ทั้งที่ความดุเดือดของสมรภูมิภูมะเขือ สมรภูมิปราสาทตาเมือนธม หรือการรบที่ช่องบกและช่องอานม้า ต่างก็มีความเข้มข้นและร้อนแรงไม่ต่างกัน
เหตุที่ทำให้เรื่องราวการรบบนเนิน350 และการปะทะรอบพื้นที่ตัวปราสาท ถูกกล่าวถึงเป็นวงกว้างในโลกออนไลน์ มาจากทั้งตัวละคร และมาจากผลของการรบที่แม้ฝ่ายไทยจะขึ้นไปยึดเนิน350 ได้ แต่ก็ต้องถอนกำลังลงมาหลังเลยเวลาหยุดยิงในช่วงเวลาเที่ยงคืนของวันที่ 28 กรกฎาคม รวมทั้งผลการปะทะหลังเที่ยงคืน ฝ่ายไทยก็ไม่สามารถยึดคืนตัวปราสาทกลับมาได้
ตัวละครสำคัญของสมรภูมิปราสาทตาควาย มีทั้งตัวบุคคลและหน่วย ตัวบุคคลที่ถูกกล่าวถึงมากที่สุด คือ ‘หมวดบุ๊ค’ ร.ต.เกียรติพงศ์ สถาวร (ตท.60,จปร.71) ผบ.หมวดจากกรมรบพิเศษที่ 2 กองพลรบพิเศษ นายทหารหนุ่มอนาคตไกล ผู้ที่นำชุดปฏิบัติการรบพิเศษ เข้ายึดพื้นที่ปราสาทตาควาย เพื่อเปิดทางให้หน่วยทหารจากกรมทหารราบที่ 31 รักษาพระองค์ (ร.31 รอ.) บุกเข้าโจมตีทหารกัมพูชาในคืนนั้น
'หมวดบุ๊ค' ที่ตัดสินใจลุกออกจากบังเกอร์ กระโดดนำทีมปฏิบัติการรบพิเศษพุ่งเข้าชาร์จปราสาทตาควาย เจอกับทุ่นระเบิดที่ฝ่ายกัมพูชาวางไว้รอบๆปราสาท ทำให้ 'หมวดบุ๊ค' บาดเจ็บสาหัสถึงขั้นขาข้างขวาขาด
ผลจากปฏิบัติการรอบนี้ ทำให้ 'หมวดบุ๊ค' นายทหารอนาคตไกลที่เพิ่งรับพระราชทานกระบี่ไปก่อนหน้านั้นไม่นาน(1 มีนาคม 2568) แทบจะต้องหยุดเส้นทางการเติบโตในฐานะทหารรบพิเศษลงทันที ทั้งที่เป็นทหารบกเพียงไม่กี่นาย ที่จบหลักสูตรนักทำลายใต้น้ำจู่โจม หรือ SEAL รุ่นที่ 53 แห่งกองทัพเรือไทยหมาดๆไปเมื่อเดือนมิถุนายน 2568
วีรกรรมของ 'หมวดบุ๊ค' ในฐานะผู้นำหน่วยที่กล้าหาญและเด็ดเดี่ยว รวมทั้งคำพูดที่เป็นวรรคทองของหมวดบุ๊ค หลังเกิดเหตุว่า “อย่างน้อย เราก็รักษาแผ่นดินไว้ได้แล้ว”
ตามด้วยเหตุผลที่ต้องลุกออกจากบังเกอร์ เพื่อบุกเข้าตัวปราสาท ทั้งที่รู้ว่าอันตรายว่า “ถ้าเราไม่เข้า ลูกน้องก็ไม่ตาม ถ้าไม่ทำ มันก็ไม่สำเร็จ”
ทั้งหมดทำให้เรื่องราวของ ‘หมวดบุ๊ค’ ถูกกล่าวถึงอย่างกว้างขวางจนทำให้สปอตไลท์ต่างก็ส่องไปยังสมรภูมิปราสาทตาควาย
ส่วนตัวละครที่เป็นหน่วย กรมทหารราบที่ 31 รักษาพระองค์ หรือ ร.31 รอ. เป็นหน่วยที่ถูกพูดถึงมากที่สุดเช่นกัน ทั้งที่กำลังที่เข้าปฏิบัติการในสมรภูมิปราสาทตาควายเป็นกองกำลังผสม ทั้งกำลังจากกองทัพภาคที่ 2 ,กรมรบพิเศษ และ ร.31 รอ.
เหตุที่ ร.31 รอ.ถูกพูดถึงมากที่สุด น่าจะมาจากคลิบที่เป็นไวรัล และอ้างว่า เป็นคลิปที่กำลังพลของ ร.31 รอ. กระโดดออกจากบังเกอร์ ออกไปยิงปะทะกับทหารกัมพูชาในระยะประชิด
แม้จะยังพิสูจน์ไม่ได้ว่า เป็นคลิปเหตุการณ์จริงในคืนวันที่ 28 กรกฎาคมหรือไม่ หรือเป็นเพียงคลิปการซ้อมรบก่อนหน้านั้น แต่ก็ไม่มีผลที่จะทำให้ชื่อของหน่วยนี้ถูกลบไปจากความทรงจำของคนไทยได้
ความจริงที่ปฏิเสธไม่ได้ คือ ผลของการรบในสมรภูมิปราสาทตาควาย ที่ฝ่ายกัมพูชายังสามารถครอบครองพื้นที่ตัวปราสาทเอาไว้ได้ รวมทั้งฝ่ายไทยก็ไม่สามารถสถาปนากำลังบนเนิน350 ได้ ทั้งที่คืนนั้น กำลังพลของ ร.31 รอ. บุกขึ้นไปถึงยอดเนิน350 แล้ว
อะไร คือ เบื้องหลังสมรภูมิปราสาทตาควาย และทำไมฝ่ายกัมพูชาจึงสามารถเข้ายึดตัวปราสาทเอาไว้ได้
อะไร คือ สาเหตุที่ฝ่ายไทยไม่สามารถสถาปนากำลังบนเนิน350 เพื่อยึดเนินเอาไว้
ก่อนจะเปิดการรบรอบใหม่ ก่อนกระแสมวลชนจะกดดันให้กองทัพใช้กำลังเพื่อยึดคืนปราสาทตาควายให้ได้ ต้องฟังเรื่องเล่าจากแมลงหวี่แห่งเนิน350 ตัวนึงก่อน
แมลงหวี่บนเนิน350 ที่สังเกตการณ์ตั้งแต่เช้าวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 บอกว่า ทหารกัมพูชาไม่ได้ทุ่มกำลังเข้ายึดตัวปราสาทในคืนวันที่ 28 กรกฎาคม และไทยไม่ได้เสียตัวปราสาทไปในคืนนั้น
แต่ความจริง คือ เช้าวันที่ 24 กรกฎาคม ทันทีที่กัมพูชาเปิดฉากโจมตีปราสาทตาเมือนธม และเริ่มยิงจรวด BM-21 เข้าถล่มหลายพื้นที่ของจังหวัดอุบลราชธานี จังหวัดสุรินทร์ และศรีษะเกษ ขณะที่ฝ่ายไทยเริ่มสาละวนกับการอพยพชาวบ้าน และเตรียมกำลังเข้ารับมือการโจมตีปราสาทตาเมือนธม รวมถึงกระจายกำลังเข้ารับมือในอีกหลายพื้นที่ กำลังอีกส่วนของกัมพูชาที่ซุ่มอยู่ในบังเกอร์ภายในเนิน350 ซึ่งอยู่ด้านหลังตัวปราสาทตาควาย ก็ระดมกำลังพร้อมอาวุธหนักเข้ายึดตัวปราสาททันที
กำลังฝ่ายไทยที่ขณะนั้น มีเพียงจำนวนไม่มาก เนื่องจากไม่ใช่พื้นที่ขัดแย้ง จึงต้องถอยร่นออกมาตั้งหลักรอบๆ ตัวปราสาท พร้อมรายงานกลับไปยังหน่วยเหนือ เพื่อขอกำลังสนับสนุน
กว่าที่ฝ่ายไทยจะตั้งหลัก และตรวจสอบแนวรบทั่วแนวชายแดน พร้อมระดมพลจากส่วนกลางเข้าไปสนับสนุน กัมพูชาก็ยึดที่มั่นและยึดครองความได้เปรียบเชิงภูมิศาสตร์รอบปราสาทตาควายได้หมดแล้ว
การเรียกระดมพลของกรมรบพิเศษ กองพลรบพิเศษ รวมทั้งหน่วย RDF-X ของ ร.31 รอ.ในเช้าวันที่ 24 กรกฎาคม ได้รับคำสั่งให้เคลื่อนออกจากหน่วยในช่วงบ่าย หลังการประเมินสถานการณ์การรบ ที่ยกระดับขึ้นใกล้เคียงสงครามขนาดใหญ่
เย็นวันที่ 24 กรกฎาคม กำลังพลของ ร.31 รอ.ถูกสั่งให้เคลื่อนที่เข้าไปสนับสนุนหน่วยรบของกองทัพภาคที่ 2 ที่ช่องบก เพราะเป็นสมรภูมิรบในที่ราบ และฝ่ายกัมพูชาระดมพลเข้าโจมตีฝ่ายไทยอย่างหนัก
ปราสาทตาควายในช่วงเช้าจนถึงเย็นวันที่ 24 กรกฎาคม จึงยังไม่ใช่พื้นที่สำคัญในลำดับต้นๆ ที่จะต้องเร่งเสริมกำลัง
จนช่วงค่ำการรบที่ปราสาทตาควายจึงเริ่มเข้มข้นขึ้น กำลังสนับสนุนของ ร.31 รอ. ที่กำลังเคลื่อนไปยังช่องบก ถูกสั่งให้ปรับแผนเปลี่ยนทิศทางเข้าหาปราสาทตาควายอย่างกะทันหัน หลังมีรายงานว่า กัมพูชาทุ่มกำลังเข้ามามากขึ้น และเริ่มพยายามรุกคืบเข้ายึดพื้นที่เพิ่ม นอกเหนือตัวปราสาทที่ยึดไปแล้ว
ทันทีที่กำลัง ร.31 รอ.เข้าถึงพื้นที่ปราสาทตาควาย บริเวณโดยรอบทั้งหมด แปรสภาพจากแหล่งท่องเที่ยวเป็นสมรภูมิเดือด ที่มีทั้งเสียงปืน เสียงระเบิด ปืนใหญ่ และปืน ค.ที่ทั้งสองฝ่ายกระหน่ำเข้าใส่กัน
แมลงหวี่ เล่าว่า ทุกหลุมบุคคลที่ขุดไว้เต็มไปด้วยกำลังของฝ่ายไทย ทั้งกำลังของกองทัพภาคที่ 2 และ ร.31 รอ. ที่เบียดผสมกันลงไปเพื่อวางแนวยิงต้านทานการบุกของกัมพูชา
การรบที่ปราสาทตาควาย ทวีความดุเดือดมากขึ้นตั้งแต่คืนวันที่ 24 กรกฎาคม และถูกจัดลำดับความสำคัญเป็นสมรภูมิที่ต้องเสริมกำลัง และมอนิเตอร์เหตุการณ์อย่างใกล้ชิด
การรบที่ปราสาทตาควาย และปราสาทตาเมือนธม จึงเป็นสองสมรภูมิที่ ศปก.ส่วนหน้าที่สุรินทร์ และ ศปก.ทบ.ต้องฟังรายงานผ่านวิทยุสนาม และมอนิเตอร์เหตุการณ์ตลอดเวลา เพราะเป็นพื้นที่เชิงสัญลักษณ์ ที่ฝ่ายกัมพูชาหมายมั่นปั้นมือจะยึดครองให้ได้
ปราสาทตาเมือนธม ฝ่ายไทยยึดฐานที่มั่นที่ได้เปรียบ เพราะอยู่บนจุดสูงข่ม และเป็นฝ่ายครอบครองพื้นที่ตัวปราสาทและพื้นที่โดยรอบตัวปราสาท การรบจึงเป็นการรบเชิงตั้งรับ และยันการบุกของฝ่ายกัมพูชาไม่ให้รุกคืบข้ามเข้ามาในเขตอธิปไตยของไทย
ส่วนปราสาทตาควาย ต่างกันตรงที่กัมพูชาเป็นฝ่ายยึดกุมชัยภูมิที่ได้เปรียบ รวมทั้งการวางกำลัง และสร้างบังเกอร์ไว้ในตัวปราสาท ทำให้ฝ่ายไทยไม่กล้าใช้อาวุธหนักยิงถล่ม เนื่องเพราะเกรงสร้างความเสียหายให้กับโบราณสถานแห่งนี้
นอกจากนี้กัมพูชายังลอบสร้างบังเกอร์และคูเลตที่เป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก สร้างอุโมงค์คอนกรีตใต้เนิน 350 ที่สร้างความได้เปรียบเหนือฝ่ายไทยแบบเห็นได้ชัด
ถ้าการรบที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นการตั้งรับ การรบที่ปราสาทตาควาย คือ การรุกเพื่อยึดคืนพื้นที่จากการครอบครองของกัมพูชา
จุดยุทธศาสตร์สำคัญที่เป็นตัวชี้ขาดชัยชนะเหนือสมรภูมิปราสาทตาควาย คือ ต้องยึดเนิน 350 ให้ได้แบบเบ็ดเสร็จ เพราะเป็นเนินที่อยู่ด้านหลังตัวปราสาท และเป็นเส้นทางลำเลียงกำลังพล และอาวุธ ตลอดจนเสบียงสนับสนุนของฝ่ายกัมพูชา ซึ่งหากฝ่ายไทยยึดได้ กำลังกัมพูชาที่ตั้งอยู่ในตัวปราสาทก็จะถูกโดดเดี่ยวทันที
หลังมีสัญญาณเริ่มต้นของการเจรจาหยุดยิง ที่ฝ่ายกัมพูชาดึงมาเลเซียและสหรัฐเข้ามายุ่งเกี่ยว หลังเวลาเงื่อนเวลาที่จะเข้าตีปราสาทตาควายและเนิน350 เริ่มกระชั้น เมื่อเริ่มมีการพูดถึงวัน ว. เวลา น.ของการหยุดยิง
การปรับแผนในช่วง 2 คืนสุดท้าย เพื่อยึดคืนปราสาทตาควายและเนิน350 จึงเริ่มขึ้นทันที
การรบในช่วง 2 คืนสุดท้าย จะเป็นอย่างไร และอะไรที่ทำให้เราต้องยอมเสียตัวปราสาท จนนำไปสู่การถอนกำลังลงจากเนิน 350 ในคืนนั้น…ต้องขอยกไป EP.หน้า


