มูลนิธิหยุดพนัน เตือน กฎหมายสลากใหม่ปูทาง ‘เสี่ยง’

25 ก.ย. 2568 - 03:22

  • มูลนิธิหยุดพนันจับตาร่าง พ.ร.บ.สลากรัฐบาล ชี้ชัด กฎหมายใหม่ เปิดทางผลิตภัณฑ์พนันใหม่ สลากขูด-ล็อตโต-สลากกีฬา

  • เปิดช่องร่วมทุนเอกชน-สัมปทาน-แต่งตัวรอคาสิโน

  • ชี้รัฐมุ่ง ‘เงิน เงิน เงิน’ แต่ไร้กลไกถ่วงดุล สะเทือนเศรษฐกิจ-สังคม

มูลนิธิหยุดพนัน เตือน กฎหมายสลากใหม่ปูทาง ‘เสี่ยง’

มูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน ออกข้อสังเกตสำคัญต่อ ร่าง พ.ร.บ.สลากรัฐบาล ที่เปิดรับฟังความเห็นผ่านเว็บไซต์ถึงวันที่ 29 กันยายน 2568 โดยมองว่ากฎหมายฉบับใหม่มีทิศทางชัดเจนในการ ‘อัปเลเวล’สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ให้กลายเป็นเจ้ามือพนันรายใหญ่ของประเทศ เดินหน้าขยายผลิตภัณฑ์และโมเดลธุรกิจใหม่ๆ ที่จะเพิ่มทั้งความเร้าใจและความเสี่ยงในสังคม

โดย ธนากร คมกฤส เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน ระบุว่า กฎหมายนี้ จะเปิดทางให้เพิ่มสินค้าพนันตัวใหม่ได้อีกหลายตัว จาก

1) สลากตัวเลขที่เป็นผลิตภัณฑ์ดั้งเดิม เพิ่มเติมคือ

2) สลากรู้ผลทันที (instant lottery) หรือ ‘สลากขูด’ หรือ ‘สลากทันใจ’

3) สลากล็อตโต (lotto)

4) สลากกีฬา (sport bet)

5) สลากอื่น ๆ ตามที่คณะรัฐมนตรีกำหนด อาจจะเป็นสลากทายผลเหตุการณ์ต่างๆ ที่ขยายไปถึงออนไลน์ได้ เช่น การเลือกตั้ง การประกวดนางงาม หรืออื่นๆ

การเพิ่มแบบนี้ นอกจากจะเป็นการเพิ่มชนิดและจำนวนของการพนันแล้ว ยังจะเป็นการเพิ่มความข้นเข้มของการเล่นพนันไปพร้อม ๆ กันด้วย เพราะสินค้าตัวใหม่ที่เพิ่มมาล้วนมีความเร้าใจที่เพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม

มีแจ็คพ็อตดึงดูดใจ

ด้วยข้อบัญญัติใหม่ “หากงวดนี้ไม่มีคนถูกรางวัลให้นำเงินไปสมทบในงวดถัดไปจนกว่าจะมีคนถูก” ยกเลิกข้อกำหนดเดิมที่ให้สมทบได้เพียง 1 งวด จะทำให้สินค้าพนันใหม่ๆ เหล่านี้มีรางวัลใหญ่ที่เพิ่มความเย้ายวนให้ผู้คนอยากเล่นมากขึ้นอีกโขทีเดียว (มาตรา 10)

ธุรกิจสลากร่วมทุนเอกชน

ประเด็นใหม่ที่น่าสนใจมากคือ “ให้จัดตั้งบริษัทเพื่อประกอบกิจการสลากได้ ทั้งบริษัทจำกัดและบริษัทมหาชน / ให้ร่วมทุนกับภาคเอกชนได้ / และให้สัมปทานกิจการทั้งหมดหรือบางส่วนแก่เอกชนก็ได้” (มาตรา 5)

เป็นเรื่องที่น่าจับตามองมาก เพราะอาจเกิดการร่วมทุนกับเอกชนหรือให้สัมปทานกับเอกชนมาร่วมกันเปิดกิจการพนันที่หลากหลายตามที่อยากทำ หรืออาจหวังแต่งตัวรอหาก ‘entertainment complex’ เกิดขึ้นได้จริง สำนักงานอาจร่วมทุนกับผู้ประกอบการกาสิโนด้วยก็ย่อมได้ แนวคิดนี้เปิดทางไว้ไกลถึงขึ้นแปรรูปรัฐวิสาหกิจเลยได้หรือไม่?

กินแบ่งก็ได้ กินไม่แบ่งก็ได้

ทั้งนี้ ในมาตรา 9 ของกฎหมายนี้กำหนดว่า “การจัดสรรรายได้จากการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ให้เป็นไปตามที่คณะรัฐมนตรีกำหนด” ไม่ต้องกินแบ่งรัฐบาลเหมือนสลากตัวเลขดั้งเดิม ที่ต้องแบ่งเข้ารัฐ 23% เป็นอย่างน้อย

นี่อาจเป็นสาเหตุให้มีการปรับเปลี่ยนชื่อจาก “สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล” เป็น “สำนักงานสลากรัฐบาล” ตัดคำว่า ‘กินแบ่ง’ ออกไป

เพิ่มบทลงโทษ

ผู้ประกอบกิจการสลากโดยไม่ได้รับอนุญาต อาจถูกลงโทษจำคุก 5–10 ปี ปรับสูงสุดวันละ 5 แสนบาท ส่วนขายเกินราคาและขายให้ผู้เยาว์ยังคงโทษปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท

น่าสังเกตว่า แนวคิดนี้หวังจะกวาดต้อนพวกที่ทำกิจการอยู่นอกคอกให้เข้ามาอยู่ในคอก ตามข้อเสนอการร่วมทุนกับเอกชนหรือการรับสัมปทาน (ตามมาตรา 5) หรือไม่?

ธนากร ยังชี้แนวคิดแบบจำลองของกฎหมาย สะท้อน 3 ประเด็นหลัก คือ

• หนึ่ง - เป้าประสงค์หลัก คือ ‘เงิน เงิน เงิน’ โดยเปิดประตูไว้กว้างมาก ทั้งในด้านผลิตภัณฑ์และโมเดลธุรกิจ

• สอง - อำนาจการตัดสินใจอยู่ที่ดุลพินิจของบุคคลหรือคณะบุคคลอย่างค่อนข้างจะเบ็ดเสร็จ ไม่คิดแบ่งแยกอำนาจ เพื่อให้เกิดการตรวจสอบและถ่วงดุลกัน

• สาม - ไม่คำนึงถึงมาตรการหรือกลไกป้องกันปัญหาและลดผลกระทบทางสังคม ออกแบบโครงสร้างด้านเดียว คือ ด้านการประกอบการ (Operator) ไม่เคยให้ความสำคัญกับหน่วยการทำงานเพื่อลดปัญหาและผลกระทบจากการเพิ่มการพนันในสังคม

ความคาดหวังรัฐบาลใหม่

มูลนิธิหยุดพนันเรียกร้องให้รัฐบาลชุดปัจจุบันมีแนวคิดแตกต่างจากอดีต คือไม่มุ่งหารายได้จากการเพิ่มแหล่งพนัน แต่หันมาออกแบบกลไกกำกับควบคุม-ป้องกันผลกระทบอย่างจริงจัง เพื่อไม่ให้ “บ้านใหญ่การพนัน” ขยายตัวจนสั่นคลอนเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิตของสังคมไทย

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์