บาริสต้าสตาร์บัคส์กว่า 1,000 คนในสหรัฐอเมริกาเริ่มหยุดงานไม่มีกำหนดเวลาเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ประท้วงสภาพการทำงานและการเจรจาแรงงานที่ติดขัด โดยเลือกจังหวะตรงกับ Red Cup Day ซึ่งเป็นวันส่งเสริมการขายสำคัญที่สตาร์บัคส์แจกแก้วใช้ซ้ำฟรีให้ลูกค้าที่ซื้อเครื่องดื่มธีมวันหยุด
การประท้วง "Red Cup Rebellion"
การเคลื่อนไหวที่เรียกชื่อว่า "Red Cup Rebellion" เกิดขึ้นในร้านกาแฟกว่า 65 แห่งใน 40 เมืองทั่วสหรัฐอเมริกา โดย Starbucks Workers United ระบุว่าการหยุดงานครั้งนี้อาจขยายไปยังสาขาที่มีสหภาพแรงงานกว่า 550 แห่ง ซึ่งมีพนักงานรวมกว่า 10,000 คน
Lynne Fox ประธาน Workers United ที่เป็นตัวแทนพนักงานกว่า 90,000 คนในสหรัฐอเมริกา กล่าวว่าฝ่ายบริหารสตาร์บัคส์ปฏิเสธที่จะเจรจาอย่างสุจริตใจ
ปัญหาชั่วโมงทำงานและสิทธิประกันสุขภาพ
Dachi Spoltore บาริสต้าที่ทำงานมา 5 ปีในพิตส์เบิร์ก รัฐเพนซิลเวเนีย เปิดเผยว่า "ยากที่จะได้ชั่วโมงทำงานมากกว่า 19 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ซึ่งไม่เพียงพอสำหรับคุณสมบัติรับประกันสุขภาพ"
ในสหรัฐอเมริกา บริษัทมักจัดหาประกันสุขภาพให้พนักงาน แต่สตาร์บัคส์ให้สิทธิประโยชน์นี้เฉพาะพนักงานที่ทำงานมากกว่า 20 ชั่วโมงต่อสัปดาห์เท่านั้น
การเจรจาติดขัดตั้งแต่เมษายน
สหภาพแรงงานสตาร์บัคส์ที่ก่อตั้งในปี 2021 พยายามจัดทำ "กรอบการทำงานพื้นฐาน" ในประเด็นสำคัญต่างๆ เช่น ค่าจ้าง นโยบายตารางงาน และการเข้าถึงการดูแลสุขภาพ อย่างไรก็ตาม การเจรจาติดขัดมาตั้งแต่เดือนเมษายน
โฆษกของสตาร์บัคส์ยันพร้อมเปิดโต๊ะเจรจา
โฆษกของสตาร์บัคส์ Jaci Anderson ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว AFP ระบุว่า บริษัทแทบไม่ได้รับผลกระทบจากการหยุดงานในเช้าวันพฤหัสบดี โดยมีสาขาที่ได้รับผลกระทบ ไม่ถึง 1% ของร้านทั้งหมดในสหรัฐอเมริกา
Anderson กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทรู้สึก “ผิดหวัง” ที่สหภาพแรงงาน เป็นตัวแทนพนักงานไม่ถึง 4% ของแรงงานทั้งหมด เลือกใช้มาตรการผละงาน แทนที่จะกลับเข้าสู่กระบวนการเจรจา พร้อมย้ำว่าสตาร์บัคส์ “พร้อมพูดคุยทันทีเมื่อสหภาพพร้อมกลับมาเจรจา”
ปัจจุบัน สตาร์บัคส์เป็นเจ้าของร้านกาแฟเกือบ 10,000 แห่ง ในสหรัฐอเมริกา และยังมีสาขาแฟรนไชส์อีกมากกว่า 7,000 แห่ง ทั่วประเทศ



