CGS เชื่อ เฟดลดดอกเบี้ย 0.25% - แนะลงทุน “S&P500 + หุ้นเอเชีย + ทองคำ+พันธบัตร” พร้อมชู CPALL-PTT Quick Win หุ้นไทย

17 ก.ย. 2568 - 06:53

  • เฟดลดดอกเบี้ย 0.25% ตลาดหุ้น-สินทรัพย์เสี่ยงเดินหน้าต่อได้

  • แนะกลยุทธ์ลงทุนแบบ Goldilocks กระจายพอร์ต S&P500 + หุ้นเอเชีย + ทองคำ + พันธบัตร

  • CPALL,PTT Quick Win หุ้นไทย

CGS เชื่อ เฟดลดดอกเบี้ย 0.25%  - แนะลงทุน “S&P500 + หุ้นเอเชีย + ทองคำ+พันธบัตร” พร้อมชู CPALL-PTT Quick Win หุ้นไทย

การประชุม FOMC ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) รอบนี้ กลายเป็นจุดโฟกัสสำคัญของนักลงทุนทั่วโลกว่าจะมี “เซอร์ไพรส์” หรือไม่ โดยเฉพาะการลดดอกเบี้ยมากกว่าที่ตลาดคาดการณ์

กรรณ์ หทัยศรัทธา หัวหน้านักกลยุทธ์การลงทุนและนักเศรษฐศาสตร์สายงานวิจัย (ลูกค้ารายย่อย) บริษัทหลักทรัพย์ CGS International (ประเทศไทย) เปิดเผยในรายการ First Up ทางเพจ SPACEBAR ว่า ตลาดกำลังคาดว่าเฟดจะลดดอกเบี้ย 0.25% ซึ่งถือเป็น “เส้นกลาง” ที่ไม่สร้างแรงสั่นสะเทือน แต่หากเฟดลดมากถึง 0.50% หรือแม้แต่ไม่ลดเลย ตลาดจะเกิดความผันผวนทันที

“ถ้าลด 0.25% ตลาดหุ้นและสินทรัพย์เสี่ยงยังเดินต่อได้ แต่ถ้า 0.50% ไม่ใช่ข่าวดี เพราะสะท้อนว่าเฟดอาจกังวลเศรษฐกิจมากกว่า ขณะเดียวกันหากไม่ลดเลย ตลาดก็จะผิดหวังทันที”

กรรณ์ หทัยศรัทธา

“Goldilocks Economy” ยังหนุนตลาดหุ้นโลก

กรรณ์ อธิบายว่า เศรษฐกิจโลกขณะนี้ยังอยู่ในบรรยากาศแบบ Goldilocks คือเงินเฟ้ออยู่ในระดับที่ควบคุมได้ เศรษฐกิจเดินต่อไปได้ และแม้ราคาสินทรัพย์จะแพง แต่ก็มีเหตุผลรองรับ

“ตลาดสหรัฐฯ อยู่ใน Goldilocks มาสักพักแล้ว ถ้าเฟดยึดตามสัญญาณจาก Jackson Hole ลดดอกเบี้ยแบบค่อยเป็นค่อยไป ภาพนี้ก็ยังต่อเนื่อง และยังเปิดโอกาสให้หุ้นไปต่อ”

กลยุทธ์ลงทุน: ต้อง “มีทุกอย่าง”

สำหรับการจัดพอร์ตลงทุนในช่วงนี้ กรรณ์แนะนำให้ลงทุนแบบกระจายความเสี่ยง โดยเฉพาะผ่าน กองทุนหรือ ETF S&P500 ซึ่งช่วยให้นักลงทุนได้ประโยชน์จากหุ้นเทคยักษ์ใหญ่โดยไม่ต้องเสี่ยงเลือกหุ้นรายตัว

ขณะเดียวกัน ต้องมีสัดส่วนใน ตลาดหุ้นเกิดใหม่ (Emerging Markets) เพราะหากดอลลาร์อ่อนค่า เม็ดเงินจะไหลเข้าตลาดเอเชีย รวมถึง ทองคำและพันธบัตร ซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยที่จะได้รับแรงหนุนหากเฟดเดินหน้าลดดอกเบี้ยต่อ

“ง่ายที่สุดคือกระจายพอร์ตให้มีทุกอย่าง หุ้นสหรัฐฯ ควรอยู่ราว 15–20% ของพอร์ต ไม่เกิน 50% เพื่อไม่ให้เสี่ยงเกินไป ส่วนที่เหลือควรเน้นหุ้นเอเชีย ทองคำ และพันธบัตร เพราะมีโอกาสเติบโตและป้องกันความผันผวน”

ทองคำ: ยังคงเป็นสินทรัพย์ “ต้องมี”

แม้ราคาทองคำจะปรับขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ แต่กรรณ์ย้ำว่าทองคำยังเป็นสินทรัพย์ที่ต้องถือครองในลักษณะ DCA (ทยอยซื้อ) ทุกเดือน เพราะบริบทโลกยังหนุน ทั้งความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ การที่ธนาคารกลางทั่วโลกเข้าซื้อทองคำเพิ่ม และการอ่อนค่าของดอลลาร์

หุ้นไทย: ได้แรงหนุนจาก ครม.ใหม่ – ชู CPALL-PTT เป็น Quick Win

กรรณ์มองว่าตลาดหุ้นไทยยังมีแรงขับเคลื่อนจากปัจจัยภายใน โดยเฉพาะความเชื่อมั่นต่อทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลใหม่ ซึ่งถูกมองว่าเป็น “ดรีมทีม” ขณะที่การทำงานประสานกันระหว่างกระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทยช่วยสร้างความเชื่อมั่นต่อตลาด

“มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างโครงการคนละครึ่ง จะช่วยกระตุ้นกำลังซื้อและเป็นข่าวบวกต่อกลุ่มค้าปลีก โดยเฉพาะ CPALL ส่วน PTT ได้ประโยชน์จากโอกาสปรับโครงสร้างราคาก๊าซเพื่อลดค่าไฟประชาชน”

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์