ดีอี เคลียร์ปมบัญชีถูกระงับ ชี้เป็นมาตรการกันมิจฉาชีพ ยันปลดล็อกให้ผู้บริสุทธิ์เร็วที่สุด
กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) นำโดย ศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงดิจิทัลฯ แถลงผลการประชุมด่วนร่วมกับ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สมาคมธนาคารไทย สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) หลังเกิดกระแสความกังวลว่าประชาชนได้รับผลกระทบจากการถูก ‘ระงับบัญชีธนาคาร’
ปลัดดีอี ย้ำว่า มาตรการดังกล่าวไม่ได้เป็นการอายัดทั้งบัญชี แต่เป็น ‘การระงับธุรกรรมชั่วคราว’ ตามพระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 โดยธนาคารจะระงับเฉพาะวงเงินที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรมต้องสงสัย เพื่อป้องกันการฟอกเงิน และติดตามเส้นทางการเงินของ ‘บัญชีม้า’ ซึ่งมิจฉาชีพใช้รับโอนเงินจากการหลอกลวงออนไลน์

ที่ประชุมยังเห็นชอบกลไก ‘ปลดล็อกบัญชี’ สำหรับผู้บริสุทธิ์ที่ไม่เกี่ยวข้อง โดยมอบหมายให้ ศูนย์ปฏิบัติการ AOC 1441 ภายใต้การกำกับของศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ศปอท.) เป็นผู้ตรวจสอบและเพิกถอนการระงับ เมื่อพบว่าเจ้าของบัญชีไม่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดกฎหมาย ขณะนี้ได้มีการปลดล็อกบัญชีไปแล้วบางส่วน และจะเร่งดำเนินการต่อเนื่อง
การตรวจสอบครั้งนี้เป็นการทำงานผ่านการจัดตั้งศูนย์ประสานงานทำงานร่วมกัน ระหว่าง ศปอท. ธปท. ธนาคารพาณิชย์ที่เกี่ยวข้อง และเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อตรวจสอบบัญชีดังนี้
1.เส้นทางการเงิน รูปแบบทางการเงินของบัญชีว่ามีลักษณะเป็นการทำธุรกรรมปกติหรือไม่
2.เจ้าของบัญชีมีรายชื่อเกี่ยวข้องกับการอายัดบัญชีของ ปปง. และตำรวจหรือไม่
ประชาชนที่ได้รับผลกระทบสามารถโทรติดต่อ สายด่วน AOC 1441 กด 2 เพื่อเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบและคืนสิทธิ์ได้ โดยธนาคารจะเป็นผู้แจ้งผลการปลดล็อกให้เจ้าของบัญชีทราบ ขณะที่ศูนย์ AOC จะไม่ติดต่อประชาชนโดยตรง เพื่อป้องกันการแอบอ้างจากแก๊งมิจฉาชีพ
ปลัดดีอีระบุว่า มาตรการนี้มีเป้าหมาย ‘ปิดกั้นเส้นทางการเงินมิจฉาชีพ’ แต่ในขณะเดียวกันภาครัฐและสถาบันการเงินต้องสร้างสมดุลในการคุ้มครองผู้บริสุทธิ์ และจะเร่งตรวจสอบ-ปลดล็อกให้เร็วที่สุด เพื่อลดผลกระทบต่อประชาชนที่ทำธุรกรรมทางการเงินปกติ
อย่างไรก็ตาม บัญชีของประชาชนทั่วไปที่ถูกระงับชั่วคราว เมื่อมีคำสั่งจาก ศปอท.ให้ปลดล็อกแล้ว ธนาคารจะเป็นผู้แจ้งให้เจ้าของบัญชีได้รับทราบ โดยศูนย์ AOC จะทำหน้าที่รับเรื่อง และประมวลผลข้อมูลเท่านั้น จะไม่ติดต่อกับประชาชนโดยตรง เพื่อป้องกันการแอบอ้างจากมิจฉาชีพ สำหรับมาตรการดังกล่าว ได้ดำเนินการมาเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว เพื่อปิดกั้นเส้นทางการเงินของมิจฉาชีพ ที่ก่ออาชญากรรมออนไลน์สร้างความเสียหายให้กับประชาชน