ประเทศไทยกำลังนับถอยหลังสู่การเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ระหว่างวันที่ 9-20 ธันวาคม 2568 และอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 13 ระหว่างวันที่ 20-26 มกราคม 2569 ซึ่งจะจัดขึ้นใน 4 จังหวัดหลัก ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ชลบุรี สงขลา และนครราชสีมา โดยจะมีทัพนักกีฬาจาก 11 ประเทศสมาชิกอาเซียน เข้าร่วม งานนี้ไม่เพียงเป็นมหกรรมกีฬาครั้งสำคัญของอาเซียน แต่ยังเป็นเวทีที่ ‘ไทย’ จะได้แสดงศักยภาพทั้งด้านการจัดการกีฬาและความสามัคคีของคนทั้งประเทศ
ในงาน “ซีพี ร้อยเรียงใจ พาไทยคว้าชัย ซีเกมส์ และอาเซียนพาราเกมส์ 2025” ที่จัดโดยการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ร่วมกับเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) และ 7 บริษัทในเครือ ได้แก่ CPF, CP ALL, CP AXTRA, True Corporation, TrueVisions, TrueMoney และ Amaze Super App นั้น ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการ กกท. ได้ขึ้นกล่าวบนเวทีอย่างมั่นใจว่า ปีนี้คือ ‘จังหวะทอง’ ของวงการกีฬาไทย หลังจากรอคอยการเป็นเจ้าภาพซีเกมส์มานานเกือบ 20 ปี พร้อมขอบคุณซีพีที่เป็น “เพื่อนแท้ของวงการกีฬาไทย” ที่สนับสนุนต่อเนื่องในทุกมหกรรม ตั้งแต่การจัด ‘ไทยเฮาส์’ ดูแลนักกีฬาในต่างแดน ไปจนถึงการเป็นผู้สนับสนุนหลักซีเกมส์และพาราเกมส์ 2025 ผ่านการผนึกพลังของ 7 กลุ่มธุรกิจในเครือ
“นี่ไม่ใช่แค่หน้าที่ของเจ้าภาพ แต่คือโอกาสทองที่เราจะได้ส่งต่อความภูมิใจของคนไทยไปสู่สายตาประชาคมอาเซียน ซีเกมส์ครั้งนี้ เราพร้อมแล้วกว่า 99% เหลืออีก 1% คือแรงเชียร์จากคนไทย ที่จะผลักดันให้นักกีฬาของเราคว้าเจ้าเหรียญทองได้แน่นอน”
— ดร.ก้องศักด กล่าว
ด้าน ดร.ธีระพล ถนอมศักดิ์ยุทธ ประธานคณะผู้บริหาร ด้านความยั่งยืนองค์กร และการพัฒนากลยุทธ์ เครือเจริญโภคภัณฑ์ กล่าวว่า เครือซีพีให้ความสำคัญกับ ‘กีฬา’ มาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสอดคล้องกับหลักค่านิยม ‘3 ประโยชน์’ ของเครือฯ ที่มุ่งสร้างประโยชน์เพื่อประเทศชาติ ประชาชน และองค์กร ซีพีและบริษัทในเครือร่วมสนับสนุนการแข่งขันครั้งนี้ในฐานะ Group Main Sponsor รวมงบประมาณกว่า 100 ล้านบาท ครอบคลุมด้านอาหาร การสื่อสาร การถ่ายทอดสด และบริการทางการเงินดิจิทัล พร้อมผลักดันแนวคิด “Green SEA Games” และ “Zero Waste” เพื่อให้การแข่งขันเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
“เครือซีพี ภูมิใจที่ได้เป็นทัพหลังในการสนับสนุนครั้งนี้ และนักกีฬาคือทัพหน้าในการคว้าชัยชนะมาให้พี่น้องชาวไทย รวมถึงต่อยอด Soft Power ของไทยในเวทีโลก”
— ดร.ธีระพล กล่าว
บรรยากาศภายในงานสะท้อนถึง ‘พลังใจ’ และ ‘ความพร้อม’ ของทัพนักกีฬาไทย ที่เตรียมสู้เต็มที่ นักกีฬาหลายคนขึ้นเวที Stronger Together : พลังไทยเพื่อชาติร่วมสร้างชัยชนะ เล่าประสบการณ์การฝึกซ้อมที่เข้มข้นและความคาดหวังในการคว้าชัย
วราวุฒิ แสงศรีเรือง นักกีฬายูยิตสูทีมชาติไทย กล่าวว่า ตนและเพื่อนร่วมทีมซ้อมอย่างต่อเนื่องมากว่าหนึ่งปี และพร้อม 100% สำหรับศึกซีเกมส์ครั้งนี้ พร้อมขอบคุณซีพีและภาคเอกชนไทยที่เข้ามาสนับสนุนด้านอาหาร โภชนาการ และเทคโนโลยี ซึ่งสิ่งเหล่านี้ช่วยให้นักกีฬาสามารถโฟกัสกับการฝึกซ้อมได้เต็มที่
ขณะที่ จอมคน พุ่มสีนิล กัปตันทีมอีสปอร์ตหญิง RoV ทีมชาติไทย ซึ่งจะลงแข่งขันในซีเกมส์เป็นครั้งแรก กล่าวอย่างมั่นใจว่า ตอนนี้ทีมพร้อมเกือบเต็มร้อย และสิ่งสำคัญคือแรงใจจากแฟนๆ ชาวไทยทุกคน อยากให้ทุกคนได้เชียร์ผ่านทั้งหน้าจอและในสนาม เพราะทุกแรงใจคือพลังของเรา
ด้าน รุ่งโรจน์ ไทยนิยม นักกีฬาเทเบิลเทนนิสทีมชาติไทย ตัวแทนนักกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ เผยว่า การแข่งขันที่จัดขึ้นในบ้านเกิดครั้งนี้มีความหมายมาก เพราะเป็นโอกาสที่จะสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนพิการทั่วประเทศ “เราซ้อมกันอย่างหนัก เพื่อคว้าเหรียญทองกลับมาฝากคนไทย และขอบคุณซีพีที่ดูแลพวกเรามาโดยตลอด แม้ในการแข่งขันต่างประเทศ”
และ นพรัตน์ พรมเอี่ยม นักกีฬาฟุตบอล สังกัดสโมสรทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ว่าที่นักเตะทีมชาติไทย บอกด้วยว่า ขณะนี้กำลังเตรียมความพร้อมอย่างเต็มที่ การที่ไทยเป็นเจ้าภาพในปีนี้ อยากเชิญชวนพี่น้องชาวไทยมาร่วมส่งแรงใจแรงเชียร์ติดขอบสนาม หรือรับชมการถ่ายทอดสดครบทุกแมตช์ทางทรูวิชั่นส์ นาว
งานนี้ทำให้เห็นภาพชัดเจนว่า ‘วงการกีฬาไทย’ ไม่ได้ก้าวเดินเพียงลำพัง แต่ยังมีภาคเอกชนอย่างเครือเจริญโภคภัณฑ์ที่คอยเป็นกำลังหนุนหลัง ทั้งด้านอาหาร การสื่อสาร เทคโนโลยี การถ่ายทอดสด และบริการทางการเงินดิจิทัล เพื่อให้การแข่งขันครั้งนี้สมบูรณ์ในทุกมิติ
ดร.ก้องศักด ทิ้งท้ายด้วยว่า การเป็นเจ้าภาพซีเกมส์และพาราเกมส์ครั้งนี้ จะเป็นจุดเริ่มต้นของการยกระดับมาตรฐานกีฬาของไทยให้เทียบเท่าสากล ทั้งในด้านการจัดการแข่งขันที่โปร่งใส การพัฒนาเยาวชน และการสร้างแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่
“ทุกเหรียญทองที่นักกีฬาไทยคว้ามาได้ ไม่ใช่เพียงเหรียญแห่งชัยชนะ แต่คือเหรียญแห่งหัวใจของคนไทยทั้งชาติ”
— ผู้ว่าการ กกท. กล่าว
