ประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิง กดดันประเด็น 'ไต้หวัน' ในการสนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ เมื่อวันจันทร์ (24 พ.ย.) พร้อมเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการสร้างความสัมพันธ์การค้าที่เปราะบางระหว่างสองมหาอำนาจ
กระทรวงการต่างประเทศจีนระบุว่า "การสนทนาครั้งนี้ครอบคลุมประเด็นอื่นๆ เช่น ยูเครน แต่ประเด็นไต้หวัน ได้รับการเน้นย้ำเป็นพิเศษ ท่ามกลางความตึงเครียดทางการทูตที่ยาวนานหลายสัปดาห์ระหว่างจีนกับญี่ปุ่น ซึ่งเป็นพันธมิตรสำคัญของสหรัฐ"
สี จิ้นผิง ต้องการไต้หวัน 'กลับคืน' สู่จีน...
"การกลับคืนสู่จีนของไต้หวันเป็นส่วนสำคัญของระเบียบโลกหลังสงครามที่ก่อตัวขึ้นจากการต่อสู้ร่วมกันระหว่างสหรัฐ-จีนในการต่อต้าน 'ลัทธิฟาสซิสต์และลัทธิการทหาร'"
— สี จิ้นผิง กล่าวกับทรัมป์
แต่ โช จุง-ไท นายกฯ ไต้หวัน โต้แย้งความเห็นของ สี จิ้นผิง เมื่อวันอังคาร (25 พ.ย.) ว่า "ไต้หวันเป็นรัฐอธิปไตยเต็มรูปแบบ และไม่มีตัวเลือกใดที่เรียกว่าการกลับคืน"
อย่างไรก็ดี ทรัมป์ โพสต์ข้อความบน Truth Social ชื่นชมความสัมพันธ์สหรัฐ-จีนที่ 'แข็งแกร่งยิ่ง' หลังการสนทนาทางโทรศัพท์ แต่ไม่ได้กล่าวถึงประเด็นไต้หวันที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง
ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศจีนระบุว่า "ทรัมป์ บอกกับ สี จิ้นผิงว่า 'สหรัฐ เข้าใจถึงความสำคัญในประเด็นไต้หวันต่อจีน"
การสนทนาครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ทั้งสองผู้นำพบกันครั้งแรกในรอบ 6 ปีเมื่อปลายเดือนตุลาคมนับตั้งแต่ปี 2019 เพื่อเจรจาหารือการค้า ซึ่งทั่วโลกต่างจับตามองอย่างใกล้ชิดระหว่างสองเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดของโลก


