สหรัฐฯ ตั้งหน่วยเฉพาะกิจปราบแก๊งสแกมเมอร์ในอาเซียน

18 พ.ย. 2568 - 04:31

  •   หน่วยงานเฉพาะกิจระหว่างหน่วยงานนี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้สืบสวน ขัดขวาง และดำเนินคดีกับการหลอกลวงที่เลวร้ายที่สุด

  • เงินที่ได้จากศูนย์หลอกลวงในกัมพูชา ลาว และเมียนมา มีสัดส่วนเกือบครึ่งหนึ่งของจีดีพีของท้องถิ่นในบางพื้นที่

  • ทั้งสหรัฐฯ และจีนต่างกดดันให้ประเทศต่างๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ปราบปรามศูนย์สแกมเมอร์

สหรัฐฯ ตั้งหน่วยเฉพาะกิจปราบแก๊งสแกมเมอร์ในอาเซียน

กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ประกาศตั้ง “หน่วยเฉพาะกิจปราบแก๊งสแกมเมอร์” (Scam Center Strike Force) เพื่อต่อสู้กับการฉ้อโกงการลงทุนสกุลเงินดิจิทัลโดยองค์กรอาชญากรข้ามชาติที่ดำเนินการในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

หน่วยงานเฉพาะกิจระหว่างหน่วยงานนี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้สืบสวน ขัดขวาง และดำเนินคดีกับการหลอกลวงที่เลวร้ายที่สุด ซึ่งคาดว่าจะทำให้ชาวอเมริกันต้องสูญเสียเงินเกือบ 10,000 ล้านดอลลาร์ต่อปี

เครือข่ายอาชญากรปฏิบัติการจากศูนย์หลอกลวงในกัมพูชา ลาว และเมียนมา โดยเงินที่ได้จากการหลอกลวงเหล่านี้มีสัดส่วนเกือบครึ่งหนึ่งของจีดีพีของท้องถิ่นในบางพื้นที่ เหยือในสหรัฐฯ มักจะถูกหลอกมห้โอนเงินไปยังเว็บไซต์และแอปลิเคชันคริปโทเคอร์เรนซีปลอมที่ให้บริการโดยบริษัทในสหรัฐฯ เพื่อให้เงินดังกล่าวถูกฟอกเงินในต่างประเทศ

ทั้งสหรัฐฯ และจีนต่างกดดันให้ประเทศต่างๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ปราบปรามปฏิบัติการดังกล่าว เนื่องจากพลเมืองของทั้งสองประเทศตกเป็นเป้าหมาย เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ประเทศไทยได้ส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนชาวกัมพูชาเชื้อสายจีนคนหนึ่งตามคำร้องขอของปักกิ่ง ซึ่งถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับปฏิบัติการหลอกลวงนี้

เจนีน ปิร์โร อัยการสหรัฐฯ ประจำวอชิงตันดีซีเปิดเผยว่า กลุ่มชาติพันธุ์จีนหรือพลเมืองจีนจำนวนมากมีส่วนเกี่ยวข้องในการปฏิบัติการดังกล่าว โดยหลายคนถูกขับไล่ออกจากจีนแผ่นดินใหญ่ ท่ามกลางแรงกดดันจากปักกิ่งในเรื่องการพนันและการหลอกลวง

หน่วยเฉพาะกิจจะมุ่งเป้าไปที่โครงสร้างพื้นฐานในสหรัฐฯ ที่รองรับการหลอกลวงต่างๆ รวมถึงผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตและบัญชีโซเชียลมีเดียที่ใช้โดยผู้หลอกลวง และจะร่วมมือกับบริษัทในอเมริกาเพื่อตัดการเข้าถึงศูนย์หลอกลวงในต่างประเทศ

หน่วยเฉพาะกิจปราบแก๊งสแกมเมอร์ได้ยึดและริบทรัพย์สินสกุลเงินดิจิทัลมูลค่ากว่า 400 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ไปแล้ว และประกาศว่า เงินที่ได้จากการริบทรัพย์สินอีก 80 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จะคืนให้กับเหยื่อ

ทั้งนี้ สำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (UNODC) ระบุว่า กลุ่มอาชญากรรมข้ามชาติในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้พัฒนาเป็น “ผู้ให้บริการด้านอาชญากรรม” ซึ่งให้บริการกิจกรรมผิดกฎหมายหลากหลายรูปแบบ

คาดการณ์ว่ามีผู้คนอย่างน้อย 100,000 คนถูกค้ามนุษย์เข้าสู่สถานที่ต่างๆ ในเมียนมา กัมพูชา และลาว เพื่อทำงานภายใต้เงื่อนไขที่ถูกบังคับหรือหลอกลวง ศูนย์หลอกลวงเหล่านี้เพิ่มจำนวนขึ้นอย่างมากหลังการระบาดของโควิด-19  และมักตั้งอยู่ในสถานที่เดียวกับธุรกิจที่ถูกกฎหมาย เช่น การพนันออนไลน์

Photo by LILLIAN SUWANRUMPHA / AFP

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์