สหประชาชาติเปิดการสอบสวนอย่างละเอียดหลังประธานาธิบดีโดนัล ทรัมป์ กล่าวหาว่าถูกก่อวินาศกรรม ระหว่างการเยือนสำนักงานใหญ่สหประชาชาติในนิวยอร์ก โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นขณะที่ทรัมป์เดินทางมากล่าวสุนทรพจนต่อสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ
แจ้งการสอบสวนอย่างเป็นทางการ
สเตฟาน ดูจาร์ริค โฆษกเลขาธิการใหญ่สหประชาชาติระบุว่า เลขาธิการใหญ่ อันโตนิโอ กูเตอร์เรส แจ้งให้คณะผู้แทนถาวรสหรัฐฯ ทราบว่าได้สั่งการสอบสวนแล้ว และพร้อมให้ความร่วมมืออย่างโปร่งใสกับหน่วยงานสหรัฐฯ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาสาเหตุของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
สหรัฐฯ ส่งจดหมายไปยังเลขาธิการใหญ่ กูเตอร์เรสเพื่อขอ คำตอบเกี่ยวกับลิฟต์ที่เสียทำให้ ทรัมป์ และภริยาติดอยู่ รวมถึงพรอมเตอร์และระบบเสียงที่ขัดข้อง
ทรัมป์กล่าวหาเป็นการกระทำที่เจตนา
ทรัมป์โพสต์ข้อความยาวบนแพลตฟอร์ม Truth Social โดยเรียกเหตุการณ์ต่างๆ ว่า น่าสงสัยมาก และเรียกร้องให้มีการจับกุมผู้กระทำผิด พร้อมระบุว่าหน่วยรักษาความปลอดภัยกำลังสอบสวนเช่นกัน
‘นี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ นี่คือการก่อวินาศกรรมที่สหประชาชาติ พวกเขาควรรู้สึกละอายใจ’ ทรัมป์กล่าวและเรียกร้องการสอบสวนทันรายละเอียดเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
วิดีโอแสดงให้เห็นทรัมป์และภริยา ขึ้นลิฟต์ที่สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ ก่อนที่ลิฟต์จะหยุดทำงานอย่างกะทันหัน บังคับให้ทั้งคู่ต้องเดินขึ้นบันได
ระหว่างกล่าวสุนทรพจน์ ทรัมป์ระบุว่า พรอมเตอร์ไม่ทำงาน และใช้เวลาส่วนใหญ่ในการวิพากษ์วิจารณ์องค์การโลก โดยกล่าวหาว่าสหประชาชาติให้เงินสนับสนุนการอพยพผิดกฎหมายที่ทำให้สหรัฐฯ และประเทศยุโรปกลายเป็นนรก และล้มเหลวในการสนับสนุนความพยายามสร้างสันติภาพในกาซาและยูเครน
คำชี้แจงจากสหประชาชาติ
สหประชาชาติแจ้งอย่างสุภาพว่าพรอมเตอร์ อยู่ภายใต้การควบคุมของทำเนียบขาว สำหรับเรื่องลิฟต์ ดูจาร์ริค อธิบายว่าช่างภาพจากคณะผู้แทนสหรัฐฯ ที่ถ่ายภาพบนลิฟต์ได้กดสวิตช์โดยไม่ตั้งใจ ทำให้หยุดทำงาน
เจ้าหน้าที่สหประชาชาติรายหนึ่งกล่าวว่า ระบบเสียงได้รับการออกแบบให้ผู้ที่นั่งฟังสามารถได้ยินการแปลเป็น 6 ภาษาผ่านหูฟัง ซึ่งอธิบายปัญหาที่ทรัมป์กล่าวหาว่าระบบเสียงถูกจัดการให้คนฟังไม่ได้ยินสุนทรพจน์ยาวหนึ่งชั่วโมงของเขา