ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ กล่าวเมื่อวันศุกร์ (26 ก.ย.) ว่า เขาจะไม่ยอมให้อิสราเอลผนวกดินแดนเวสต์แบงก์ที่ถูกยึดครอง ความคิดเห็นของทรัมป์มีขึ้นหลังจากที่นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล เดินทางถึงนิวยอร์กเพื่อเข้าร่วมการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (UNGA) ในวันพฤหัสบดี (25 ก.ย.) และเพื่อเข้าพบประธานาธิบดีทรัมป์
“ผมจะไม่ยอมให้อิสราเอลผนวกดินแดนเวสต์แบงก์...ไม่มีทาง ผมจะไม่ยอมให้เกิดขึ้น มันจะไม่เกิดขึ้น...มันมากพอแล้ว ถึงเวลาที่ต้องหยุดแล้ว”
— ทรัมป์กล่าวในห้องทำงานรูปไข่ โดยยอมรับว่าก่อนหน้านี้ เขาได้พูดคุยกับเนทันยาฮูเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวแล้ว
คำพูดของทรัมป์ส่งสัญญาณถึงความสอดคล้องกับชาติตะวันตกและชาติอาหรับหลายประเทศ ซึ่งได้เตือนว่าการผนวกดินแดนใดๆ ของอิสราเอลจะทำลายแนวคิดเรื่องรัฐปาเลสไตน์อย่างมีประสิทธิภาพ
รัฐบาลทรัมป์ถูกโดดเดี่ยวมากขึ้นในเวทีระดับนานาชาติ รวมถึงพันธมิตรสำคัญๆ เกี่ยวกับประเด็นความเป็นไปได้ในการจัดตั้งรัฐปาเลสไตน์ และการสนับสนุนการทำลายล้างฉนวนกาซาของอิสราเอล ซึ่งหน่วยงานสอบสวนอิสระของสหประชาชาติระบุว่าเป็น ‘การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์’
ตามคำกล่าวของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลและแหล่งข่าวระดับภูมิภาคที่ทราบเรื่องนี้ เผยว่า คำประกาศของทรัมป์มีขึ้นหลังจากที่รัฐบาลของทรัมป์ได้เสนอแผน 21 ประการต่อผู้นำชาติอาหรับเมื่อวันอังคาร (23 ก.ย.) เพื่อยุติสงครามในฉนวนกาซา ซึ่งนำไปสู่การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างผู้นำเกี่ยวกับวิธีการตกลงข้อเสนอขั้นสุดท้ายที่อาจนำไปสู่การยุติความขัดแย้ง
แหล่งข่าวอีกแห่งระบุว่า แผนการที่สหรัฐฯ เสนอนั้น ประกอบด้วยประเด็นหลายประการที่รัฐบาลได้เปิดเผยต่อสาธารณะแล้ว รวมถึงการปล่อยตัวตัวประกันชาวอิสราเอลทั้งหมดที่ถูกฮามาสจับตัวไว้ และการหยุดยิงถาวร แผนดังกล่าวยังระบุกรอบแนวทางในการปกครองฉนวนกาซาโดยไม่มีกลุ่มฮามาส และรวมถึงข้อเสนอให้อิสราเอลถอนตัวออกจากดินแดนดังกล่าวอย่างค่อยเป็นค่อยไป
นักการทูตประจำภูมิภาคกล่าวกับ CNN กล่าวว่า “แม้ว่าผู้นำภูมิภาคจะให้การสนับสนุนแผนการของทรัมป์ในหลายส่วน แต่พวกเขาก็ได้เสนอประเด็นต่างๆ มากมายที่ต้องการให้รวมอยู่ในแผนขั้นสุดท้ายสำหรับฉนวนกาซา รวมถึงการไม่ยอมให้อิสราเอลผนวกดินแดนเวสต์แบงก์”
“ข้อเรียกร้องอื่นๆ ได้แก่ การรักษาสถานะเดิมของเยรูซาเล็ม การยุติสงครามในฉนวนกาซาและการนำตัวประกันทั้งหมดกลับคืนมา การเพิ่มความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในฉนวนกาซา และการแก้ไขปัญหาการตั้งถิ่นฐานที่ผิดกฎหมายของอิสราเอล” นักการทูต กล่าว
ขณะที่ เจ้าชายเฟซอล บิน ฟาร์แฮน อัล-ซาวด์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศซาอุดีอาระเบีย ซึ่งเข้าร่วมการประชุมกับทรัมป์ กล่าวกับผู้สื่อข่าวเมื่อวันพฤหัสบดี (25 ก.ย.) ว่า พระองค์เชื่อว่าประธานาธิบดีทรัมป์เข้าใจถึงความเสี่ยงและอันตรายของการผนวกดินแดนในเวสต์แบงก์เป็นอย่างดี
“สิ่งที่เราจะบอกเกี่ยวกับการประชุมกับประธานาธิบดีทรัมป์ ซึ่งเราคิดว่าเป็นการพบปะที่สำคัญมาก คือ ประเทศอาหรับและมุสลิมได้ชี้แจงให้ประธานาธิบดีทรัมป์ทราบอย่างชัดเจนถึงอันตรายของการผนวกดินแดนไม่ว่ารูปแบบใดก็ตามในเวสต์แบงก์...การผนวกดินแดนไม่เพียงแต่ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อศักยภาพของสันติภาพในฉนวนกาซาเท่านั้น แต่ยังรวมถึงสันติภาพที่ยั่งยืนทุกประเภทอีกด้วย”
— เจ้าชายเฟซอล บิน ฟาร์แฮน อัล-ซาวด์ ตรัส
(Photo by TIMOTHY A. CLARY / AFP)