ตำรวจติมอร์-เลสเตยิงแก๊สน้ำตาใส่ผู้ประท้วงที่ชุมนุมประท้วง ‘แผนการซื้อรถยนต์ประจำตำแหน่งใหม่ให้กับสมาชิกรัฐสภา’ ซึ่งก่อให้เกิดความโกรธแค้นในประเทศที่ยากจนที่สุดแห่งหนึ่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ประชาชนกว่า 1,000 คน ส่วนใหญ่เป็นนักศึกษา ได้ชุมนุมประท้วงใกล้รัฐสภาแห่งชาติในเมืองดิลี เมืองหลวงของประเทศ เพื่อประท้วงแผนการจัดซื้อรถยนต์สำหรับสมาชิกรัฐสภาทั้ง 65 คน ซึ่งได้รับการอนุมัติเมื่อปีที่แล้ว
ตามข้อมูลของธนาคารโลกระบุว่า แผนดังกล่าวถือเป็นจุดชนวนความขัดแย้งล่าสุดในประเทศแห่งนี้ ซึ่งประชากรมากกว่า 40% อาศัยอยู่ต่ำกว่าเส้นความยากจน
“เราขอให้สมาชิกรัฐสภายกเลิกการตัดสินใจซื้อรถยนต์โตโยต้า พราโด ไม่เช่นนั้น เราจะยังคงยืนอยู่ตรงนี้” เลโอนิโต คาร์วัลโญ นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยดาปาซ ในเมืองดิลี กล่าว
การชุมนุมเริ่มต้นอย่างสงบ แต่ตำรวจได้เคลื่อนกำลังยิงแก๊สน้ำตาหลังจากที่ผู้ประท้วงบางคนขว้างปาก้อนหินใส่รัฐสภา ทำให้รถยนต์หลายคันได้รับความเสียหาย
ผู้สื่อข่าว AFP รายงานว่า “แก๊สน้ำตาทำให้ผู้ประท้วงอย่างน้อย 4 คนได้รับบาดเจ็บ และถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลใกล้เคียง”
ขณะที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจแห่งชาติ จัสติโน เมเนเซส กล่าวว่า “เจ้าหน้าที่จะเรียกผู้ประสานงานการประท้วงมาเรียกร้องความรับผิดชอบต่อความเสียหาย”
พรรคการเมืองบางพรรคของติมอร์-เลสเต ซึ่งอนุมัติงบประมาณปี 2025 เพื่อซื้อรถยนต์ดังกล่าวเมื่อปีที่แล้ว กล่าวว่า พวกเขาจะขอให้รัฐสภายกเลิกการซื้อ
พรรคคองเกรสแห่งชาติเพื่อการฟื้นฟูติมอร์ พรรคประชาธิปไตย และพรรคเอกภาพแห่งชาติเพื่อบุตรแห่งติมอร์ ออกแถลงการณ์ร่วมกัน โดยระบุว่า “การซื้อครั้งนี้ไม่ได้สะท้อนถึงผลประโยชน์สาธารณะ”
ติมอร์-เลสเตกำลังเผชิญกับปัญหาความเหลื่อมล้ำ ภาวะทุพโภชนาการ และการว่างงานในระดับสูง ซึ่งยังคงต้องพึ่งพาน้ำมันอย่างมาก โดยแทบไม่มีการกระจายการลงทุนไปยังภาคส่วนอื่นๆ
(Photo by VALENTINO DARIELL DE SOUSA / AFP)