ประธานาธิบดี ไล่ชิงเต๋อ ของไต้หวัน แสดงการสนับสนุนญี่ปุ่นด้วยการทานซูชิที่ใช้วัตถุดิบจากญี่ปุ่นเป็นมื้อกลางวัน หลังจากจีนประกาศว่าจะระงับการนำเข้าอาหารทะเลทั้งหมดของญี่ปุ่น ท่ามกลางข้อพิพาทที่ทวีความรุนแรงขึ้นระหว่างญี่ปุ่นกับจีนกรณีไต้หวัน
ความตึงเครียดระหว่างสองประเทศปะทุขึ้นหลังจากนายกรัฐมนตรี ซานาเอะ ทาคาอิจิ ของญี่ปุ่น แถลงในเดือนนี้ว่า การโจมตีไต้หวันของจีน ซึ่งเป็นภัยคุกคามต่อความอยู่รอดของญี่ปุ่น อาจนำไปสู่การตอบโต้ทางทหาร
ผู้นำไต้หวันโพสต์ภาพบนโซเชียลมีเดีย แสดงให้เห็นว่าเขากำลังทานซูชิมื้อกลางวันที่ทำจากปลาหางเหลืองจากคาโกชิมะของญี่ปุ่น และหอยเชลล์จากฮอกไกโด
“อาหารกลางวันวันนี้คือซูชิกับซุปมิโซะ” ไล่เขียนบนเฟซบุ๊กและอินสตาแกรม และใช้ถ้อยคำเดียวกันนี้เป็นภาษาญี่ปุ่นในบัญชี X ของเขา
รัฐบาลไต้หวันซึ่งปฏิเสธการอ้างสิทธิ์อธิปไตยของจีน ก็ถูกจีนระงับการนำเข้าอาหารในลักษณะเดียวกันนี้ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ซึ่งรวมถึงสับปะรดและปลาของไต้หวัน โดยไต้หวันระบุว่า เป็นส่วนหนึ่งของการกดดันจากจีน
หลินเจียหลง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศไต้หวัน กล่าวกับผู้สื่อข่าวที่รัฐสภาเมื่อเช้าวันพฤหัสบดีว่า การใช้การบีบบังคับทางเศรษฐกิจและการข่มขู่ทางทหารของจีนเพื่อ “กลั่นแกล้งประเทศอื่นๆ นั้นมีมากเกินกว่าจะกล่าวถึงเป็นรายบุคคล”
“ในช่วงเวลาสำคัญนี้ เราต้องสนับสนุนญี่ปุ่นในการรักษาเสถียรภาพของสถานการณ์และหยุดยั้งพฤติกรรมกลั่นแกล้งของคอมมิวนิสต์จีนอย่างมีประสิทธิภาพ” หลินกล่าว
ต่อมา หลินกล่าวกับสมาชิกรัฐสภาว่า ชาวไต้หวันควรเดินทางไปเยือนญี่ปุ่นให้มากขึ้นและซื้อสินค้าญี่ปุ่นให้มากขึ้น เพื่อแสดงความเป็นมิตรภาพกับญี่ปุ่น
ขณะที่ เหมาหนิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนกล่าวว่า ไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนจีนที่ไม่อาจแยกออกจากกันได้ และว่า “ไม่ว่ารัฐบาลไล่ชิงเต๋อจะจัดแสดงอะไร ก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริงที่แน่ชัดนี้ได้”
ทั้งนี้ ญี่ปุ่นและไต้หวันมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดแม้จะไม่เป็นทางการ และมีความสัมพันธ์ทางวัฒนธรรมและธุรกิจที่ลึกซึ้ง ญี่ปุ่นปกครองไต้หวัน ซึ่งอยู่ห่างจากดินแดนญี่ปุ่นเพียง 110 กิโลเมตร ณ จุดที่ใกล้ที่สุด ตั้งแต่ปี 1895 จนกระทั่งสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่สองในปี 1945
Photo by X / 賴清德Lai Ching-te



