
ภาพถ่ายทางอากาศแสดงให้เห็นบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหายจากพายุไต้ฝุ่นคัลแมกี ที่เมืองตาลิเซย์ จังหวัดเซบูที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด Photo by JAM STA ROSA / AFP

ชาวบ้านเดินไปตามบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหายหลังพายุไต้ฝุ่นคัลแมกีในจังหวัดเซบู Photo by Jam STA ROSA / AFP

ชาวบ้านในจังหวัดเซบูที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดจากไต้ฝุ่นคัลแมกีเริ่มกลับเข้าไปสำรวจความเสียหายและทำความสะอาดบ้านเรือนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมครั้งรุนแรงที่สุดในรอบหลายปีที่ผ่านมา Photo by JAM STA ROSA / AFP

ภาพถ่ายทางอากาศแสดงให้เห็นบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหายจากพายุไต้ฝุ่นคัลแมกี ที่เมืองตาลิเซย์ จังหวัดเซบู Photo by JAM STA ROSA / AFP

ชาวบ้านซักผ้าหลังพายุไต้ฝุ่นคัลแมกีพัดถล่มที่เมืองตาลิเซย์ จังหวัดเซบู Photo by Jam STA ROSA / AFP

ชาวบ้านทำความสะอาดบ้านเรือนที่เสียหายหลังพายุไต้ฝุ่นคัลแมกีถล่มในตาลิเซย์ จังหวัดเซบู Photo by Jam STA ROSA / AFP
จังหวัดเซบูของฟิลิปปินส์ซึ่งมีประชากรอาศัยอยู่หนาแน่นที่สุดของเกาะ ถูกพายุไต้ฝุ่นคัลแมกีพัดถล่มจนพังราบ พายุพัดน้ำโคลนลงมาตามเนินเขาและเข้าไปในเมืองต่างๆ จนบ้านเรือนพังเสียหาย ต้นไม้ถูกถอนรากถอนโคน อาคารเล็กๆ จำนวนมากถูกพัดหายไป เหลือไว้เพียงโคลนหนาๆ จากน้ำท่วมที่ลดลง ราวกับถูกคลื่นยักษ์สึนามิซัด
ยอดผู้เสียชีวิตจากน้ำท่วมที่เกิดจากพายุไต้ฝุ่นลูกหนึ่งที่รุนแรงที่สุดลูกหนึ่งในภาคกลางของฟิลิปปินส์ในปีนี้ เพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 140 ราย โดยผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เกิดจากการจมน้ำ
คัลแมกีออกจากฟิลิปปินส์เมื่อเช้านี้ และกำลังมุ่งหน้าสู่เวียดนามตอนกลาง ซึ่งประชาชนยังคงได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมที่คร่าชีวิตผู้คนไปแล้วหลายสิบคนก่อนหน้านี้








