ประธานาธิบดีอี แจ-มยอง ของเกาหลีใต้กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดี (25 ก.ย.) ว่า เกาหลีเหนือกำลังอยู่ในขั้นตอนสุดท้ายของการพัฒนาขีปนาวุธข้ามทวีป (ICBM) ที่สามารถโจมตีสหรัฐฯ ด้วยอาวุธนิวเคลียร์ได้ แม้ว่าเกาหลีเหนือจะยังไม่เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีการกลับเข้าสู่ชั้นบรรยากาศก็ตาม
ประธานาธิบดีอี ซึ่งเดินทางเยือนนิวยอร์กเพื่อเข้าร่วมการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (UNGA) และเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมนักลงทุนสัมพันธ์เมื่อวันที่ 25 กันยายน ณ ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก
“...พวกเขากำลังพัฒนาขีปนาวุธข้ามทวีปที่สามารถโจมตีสหรัฐฯ พร้อมกับอาวุธนิวเคลียร์และทำลายสหรัฐฯ ดูเหมือนว่าพวกเขายังไม่ประสบความสำเร็จ แต่พวกเขากำลังอยู่ในขั้นตอนสุดท้าย เหลือเพียงเทคโนโลยีการกลับเข้าสู่ชั้นบรรยากาศ ซึ่งน่าจะได้รับการแก้ไขในเร็วๆ นี้เช่นกัน”
— ประธานาธิบดีอี กล่าว
ในปี 2024 เกาหลีเหนือได้ยิงขีปนาวุธข้ามทวีปลูกใหญ่ที่สุด นั่นคือ ‘ฮวาซอง-19’ ซึ่งพุ่งลึกเข้าไปในอวกาศ “ขีปนาวุธดังกล่าวสามารถโจมตีเป้าหมายใดๆ ในสหรัฐฯ ได้ แม้ว่าความสามารถของเกาหลีเหนือในการนำวิถีขีปนาวุธและป้องกันหัวรบนิวเคลียร์ขณะกลับเข้าสู่ชั้นบรรยากาศยังคงเป็นที่สงสัย” ผู้เชี่ยวชาญ กล่าว
ประธานาธิบดีอีย้ำว่า “ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ จะเป็น ‘บุคคลเดียว’ ที่สามารถเป็นคู่เจรจากับเกาหลีเหนือได้” ขณะที่ทรัมป์เองก็กล่าวในเดือนสิงหาคมว่า เขาต้องการพบกับ คิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ซึ่งอาจเป็นไปได้เร็วที่สุดในปีนี้
อี แจ-มยอง ผู้นำเกาหลีใต้ที่เพิ่งเข้ารับตำแหน่งเมื่อเดือนมิถุนายน พยายามปรับปรุงความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดกับเกาหลีเหนือ และได้เสนอให้มีการเจรจาระหว่างสองเกาหลี แต่เกาหลีเหนือปฏิเสธข้อเรียกร้องดังกล่าว
“ดูเหมือนว่าเกาหลีเหนือจะมีอาวุธนิวเคลียร์เพียงพอที่จะรักษาผู้นำของตัวเองไว้” ประธานาธิบดีอี กล่าว และเรียกร้องให้มีการเจรจาเพื่อหยุดยั้งการผลิตอาวุธนิวเคลียร์เพิ่มเติม ซึ่งอาจถูกขายให้ต่างชาติได้
ขณะที่ทางด้านผู้นำคิม จองอึน ของเกาหลีเหนือเผยว่า “ไม่มีเหตุผลที่จะหลีกเลี่ยงการเจรจากับสหรัฐฯ หากสหรัฐฯ หยุดยืนกรานให้เกาหลีเหนือเลิกใช้อาวุธนิวเคลียร์”
(Photo by KCNA VIA KNS / AFP)