ห้องแชท ‘Discord’ รัฐสภาจำลอง (?) ที่วัยรุ่นเนปาลใช้ถกอนาคตประเทศ-เลือกผู้นำชั่วคราว

12 ก.ย. 2568 - 09:10

  • ด้วยสถานการณ์ทางการเมืองที่คลุมเครือและยังไร้ผู้นำ วัยรุ่นเนปาลกว่า 100,000 คนจึงหันมาใช้ห้องแชทออนไลน์บนแพลตฟอร์ม ‘Discord’ ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมในหมู่นักเล่นเกมวิดีโอที่ใช้เวลาเพียง 4 วัน ห้องแชทก็เติบโตจนมีสมาชิกมากกว่า 145,000 คน

  • วัตถุประสงค์ของห้องแชทนี้ใช้เพื่อถกเถียงถึงอนาคตของประเทศ และจัดการประชุมระดับชาติในรูปแบบดิจิทัลกันเป็นประจำ

  • “รัฐสภาเนปาลในขณะนี้คือ ‘Discord’...แพลตฟอร์มนี้ได้กลายเป็นศูนย์กลางการตัดสินใจทางการเมืองของประเทศ” ซิด กิมิริ คอนเทนต์ครีเอเตอร์วัย 23 ปีจากกาฐมาณฑุ กล่าว

ห้องแชท ‘Discord’ รัฐสภาจำลอง (?) ที่วัยรุ่นเนปาลใช้ถกอนาคตประเทศ-เลือกผู้นำชั่วคราว

ความพยายามในการ ‘สั่งห้ามใช้โซเชียลมีเดีย’ ในเนปาลสิ้นสุดลงในสัปดาห์นี้ด้วยการประท้วงอย่างรุนแรง ทั้งตึกรัฐสภา บ้านนักการเมือง รวมถึงโรงแรมที่ข้องเกี่ยวกับชนชั้นอภิสิทธิ์ชนก็ถูกผู้ประท้วงเผาไม่เหลือชิ้นดี จนในที่สุดนายกรัฐมนตรี เคพี ชาร์มา โอลี ก็ตัดสินใจประกาศลาออกจากตำแหน่งเมื่อวันอังคาร (9 ก.ย.)  

หลังจากรัฐบาลล่มสลายเมื่อวันที่ 9 กันยายน กองทัพได้ประกาศเคอร์ฟิวทั่วกรุงกาฐมาณฑุ และจำกัดการชุมนุมขนาดใหญ่ 

ด้วยสถานการณ์ทางการเมืองที่คลุมเครือและยังไร้ผู้นำ วัยรุ่นเนปาลกว่า 100,000  คนจึงหันมาใช้ห้องแชทออนไลน์บนแพลตฟอร์ม ‘Discord’ ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมในหมู่นักเล่นเกมวิดีโอที่ใช้เวลาเพียง 4 วัน ห้องแชทก็เติบโตจนมีสมาชิกมากกว่า 145,000 คน โดยวัตถุประสงค์ของห้องแชทนี้ก็เพื่อใช้ถกเถียงถึงอนาคตของประเทศ และจัดการประชุมระดับชาติในรูปแบบดิจิทัลกันเป็นประจำ  

‘Discord’ คืออะไร? 

   Photo by : Shutterstock / Diego Thomazini
Photo by : Shutterstock / Diego Thomazini

Discord เปิดตัวในเดือนพฤษภาคม 2015 โดย เจสัน ซิตรอน และ สตานิสลาฟ วิชเนฟสกี เป็นแพลตฟอร์มโซเชียลที่ออกแบบมาสำหรับเกมเมอร์โดยเฉพาะ ทั้งคู่เคยสร้างแพลตฟอร์มที่เน้นเกมมาก่อน และต้องการมอบบริการแชทที่ไม่ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพการเล่นเกม  

ในช่วงแรก Discord ช่วยให้ผู้ใช้สื่อสารกับเพื่อนได้โดยไม่ต้องออกจากเกม จนกระทั่งสิ้นปี 2016 แพลตฟอร์มนี้ก็มีผู้ใช้มากกว่า 25 ล้านคน และความนิยมยังเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงการระบาดใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มเจน Z ซึ่งผู้ใช้เริ่มสร้างเซิร์ฟเวอร์ในหลากหลายหัวข้อ ที่ไม่ได้จำกัดแค่เรื่องเกมเท่านั้น 

ปัจจุบัน Discord เรียกตัวเองว่า เป็นแพลตฟอร์มการสื่อสารที่ผู้ใช้สามารถร่วมพูดคุยผ่านเซิร์ฟเวอร์และช่องทางต่างๆ ฟีเจอร์ต่างๆ ได้แก่ ช่องทางข้อความ เสียง และวิดีโอ รวมถึงเครื่องมือแชร์หน้าจอ และสตรีมมิ่ง  

อธิบายง่ายๆ ก็คือ เซิร์ฟเวอร์ Discord เป็นพื้นที่ชุมชนขนาดใหญ่ที่สามารถรองรับผู้ใช้ได้มากถึง 500,000 คน แม้จะมีผู้ใช้งานพร้อมกันได้แค่ 250,000 คนในแต่ละครั้ง 

แล้วผู้ประท้วงเจน Z ใช้ ‘Discord’ อย่างไร... 

ผู้ประท้วงเจน Z ต่างใช้ Discord เพื่อจัดการการชุมนุมของพวกเขา หลังจากนายกฯ โอลี ลาออก ซึ่งพวกเขาใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อตัดสินใจเลือกผู้นำเนปาลคนต่อไป โดยเมื่อวันพุธ (10 ก.ย.) ชาวเจน Z ได้ใช้ช่องทางนี้ในการโหวตเลือกผู้นำประเทศชั่วคราว

ในบรรดาชื่อที่ถูกพูดถึงในช่องนี้ ได้แก่ ซาการ์ ดากัล อดีตผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งเพื่อดำรงตำแหน่งทางการเมือง และ กุล มัน กีซิง อดีตผู้อำนวยการการไฟฟ้าเนปาล ทั้งสองคนได้เข้าร่วมการประชุมในห้องแชทเป็นเวลาหลายชั่วโมงเมื่อวันที่ 10 กันยายน แต่หลังจากการหารืออย่างยาวนานและการสำรวจความคิดเห็นหลายครั้ง กลุ่ม Discord ก็ได้เสนอชื่อ ‘สุชิลา คาร์กี’ อดีตประธานศาลฎีกาของเนปาล และเสนอชื่อเธอให้เข้าร่วมการประชุมแบบตัวต่อตัวกับทางกองทัพ  

South China Morning Post รายงานว่า “มีผู้ลงคะแนนเสียง 7,713 คน ก่อนที่คาร์กีจะได้คะแนนเสียงเกิน 50% และในวันต่อมา (11 ก.ย.) คาร์กีก็ได้เข้าพบกับประธานาธิบดีราม จันทรา ปอเดล และพลเอกอโศก ราช ซิกเดล ผู้บัญชาการทหารบก  

...ทำไม ‘Discord’ ถึงเป็นที่นิยมในหมู่ผู้ประท้วงเจน Z 

Discord ได้รับความนิยมเป็นพิเศษในหมู่เจน Z เพราะเป็นแพลตฟอร์มที่สะดวกสบาย แต่ไม่มีฟีดคอนเทนต์มากมายเหมือน Instagram และ X นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ให้เลือกใช้มากกว่าแอปฯ ส่งข้อความอย่าง WhatsApp  

เซิร์ฟเวอร์ของแพลตฟอร์มนี้ช่วยให้กลุ่มคนจำนวนมากสามารถปรึกษาหารือ และอภิปรายประเด็นสำคัญได้ ผู้ประท้วงในเนปาลได้สร้างเซิร์ฟเวอร์และช่องทางสำหรับวัตถุประสงค์ที่หลากหลาย เช่น การประกาศ การตรวจสอบข้อเท็จจริง การอัปเดตข้อมูลภาคสนาม การส่งข่าวสาร การสอบถาม สายด่วนฉุกเฉิน และการสนทนาทั่วไป ซึ่งโครงสร้างนี้ช่วยให้การไหลเวียนของข้อมูลที่สำคัญต่อการเคลื่อนไหวของมวลชนเป็นไปอย่างราบรื่น 

“รัฐสภาเนปาลในขณะนี้คือ ‘Discord’...แพลตฟอร์มนี้ได้กลายเป็นศูนย์กลางการตัดสินใจทางการเมืองของประเทศ”

ซิด กิมิริ คอนเทนต์ครีเอเตอร์วัย 23 ปีจากกาฐมาณฑุ กล่าว 

ผู้ดูแลช่องแชทบนแพลตฟอร์ม Discord เป็นสมาชิกของ ‘Hami Nepal’ องค์กรภาคประชาสังคม และผู้เข้าห้องแชทส่วนใหญ่เป็นชาวเจน Z ซึ่งเป็นแกนนำการประท้วงในสัปดาห์นี้ 

“ประเด็นก็คือ การจำลองการเลือกตั้งย่อย...กลุ่ม Discord ไม่ได้เป็นตัวแทนของทั้งประเทศ และมีเป้าหมายเพียงเพื่อเสนอผู้นำชั่วคราวที่จะสามารถกำกับดูแลการเลือกตั้งได้”

ชาสวอต ลามิชฮาเน ผู้ดูแลช่องแชท Discord และเป็นตัวแทนของกลุ่มในการประชุมกับกองทัพ กล่าว 

“มันเกิดขึ้นเร็วมาก เราไม่มีผู้นำที่ชัดเจนที่จะเป็นตัวแทนของเรา การสนทนาในห้องแชท ‘ไม่ได้เป็นระเบียบมาก’” ซัมดิป ยาดาฟ วัย 23 ปี บัณฑิตจบใหม่จากกรุงกาฐมาณฑุ ซึ่งเข้าร่วมห้องแชทเมื่อวันพุธ (10 ก.ย.) กล่าว โดยประวัติห้องแชทของ Discord นั้นก็สะท้อนให้เห็นถึงความวุ่นวายและการถกเถียงภายในกลุ่มด้วย 

เนื่องจากใครๆ ก็สามารถเข้าร่วมช่องแชทได้ จึงทำให้ช่องถูกแทรกซึมโดยพวกโทรลล์ หรือคนนอกเนปาลได้ง่าย ทำให้ผู้ดูแลช่องแชทต้อง ‘ระงับ’ การเรียกร้องให้ใช้ความรุนแรง และเนื่องจากใครๆ ก็สามารถแสดงความคิดเห็นได้ บทสนทนาจึงดูไร้ขอบเขต 

“การใช้ Discord ในระดับนี้ฟังดู ‘ค่อนข้างไม่เคยมีมาก่อน’ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากนำมาใช้เพื่อวางแผนอนาคตทางการเมืองของเนปาล...แม้ว่าโซเชียลมีเดียจะมีประสิทธิภาพสูงใน ‘ระยะแรก’ ของการเคลื่อนไหว ซึ่งก็คือการชักชวนให้ผู้คนออกมาประท้วง แต่กลับไม่ประสบความสำเร็จในการสร้าง ‘โครงสร้างทางการเมืองที่มั่นคงในระยะยาว’”

สตีเวน เฟลด์สไตน์ ผู้เชี่ยวชาญจากองค์กรวิจัยคาร์เนกีเพื่อสันติภาพระหว่างประเทศ ด้านบทบาทของเทคโนโลยีในขบวนการทางสังคม กล่าว 

ลามิชฮาเน เผยว่า เขาไม่ได้คาดคิดว่าเซิร์ฟเวอร์ช่องแชท Discord ที่ทีมของเขาเริ่มใช้จะกลายเป็นศูนย์กลางของการสนทนาระดับชาติของประเทศได้มากขนาดนี้ “คุณอาจกล่าวได้ว่าเซิร์ฟเวอร์ช่องแชท Discord กำลังเจรจากับกองทัพ เพราะทุกสิ่งที่ถูกพูดออกมาล้วนส่งถึงกองบัญชาการกองทัพในที่สุด” 

(Photo by PRABIN RANABHAT / AFP) 

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์