‘อันวาร์’ ยืนยันเชิญ ‘ทรัมป์’ ร่วมประชุมอาเซียนแม้ ‘มหาเธร์’ คัดค้าน ชี้เป็นโอกาสของมาเลเซีย

28 ก.ย. 2568 - 09:16

  •   มาเลเซียกำลังจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยดอาเซียนระหว่างวันที่ 26-28 ตุลาคม

  • มหาเธร์เรียกร้องให้อันวาร์เพิกถอนคำเชิญทรัมป์เข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน เนื่องจากสหรัฐฯ สนับสนุนการกระทำของอิสราเอลต่อชาวปาเลสไตน์

  • สหรัฐฯ เป็นตลาดสำคัญของมาเลเซีย การส่งออกเซมิคอนดักเตอร์ของมาเลเซียไปยังสหรัฐฯ เพียงอย่างเดียวมีมูลค่าหลายพันล้านริงกิตฐฯ าก

‘อันวาร์’ ยืนยันเชิญ ‘ทรัมป์’ ร่วมประชุมอาเซียนแม้ ‘มหาเธร์’ คัดค้าน ชี้เป็นโอกาสของมาเลเซีย

นายกรัฐมนตรี อันวาร์ อิบราฮิม ของมาเลเซีย ออกมาปกป้องการตัดสินใจของตัวเองในการเชิญประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ เข้าร่วมการประชุมสุดยอดสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ASEAN) ในเดือนตุลาคมนี้ หลังจาก มหาเธร์ โมฮัมหมัด อดีตผู้นำมาเลเซีย เรียกร้องให้รัฐบาลถอนคำเชิญ เนื่องจากวอชิงตันสนับสนุนการกระทำของอิสราเอลต่อชาวปาเลสไตน์

ในข้อความวิดีโอที่โพสต์บนโซเชียลมีเดียเมื่อวันเสาร์ (27 ก.ย.) มหาเธร์กล่าวว่า สหรัฐฯ ยังคงจัดหาเงินทุน อาวุธ และความช่วยเหลือทางทหารให้กับอิสราเอล “เพื่อสานต่อการสังหารชาวปาเลสไตน์”

มหาเธร์เรียกร้องให้อันวาร์เพิกถอนคำเชิญทรัมป์เข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน โดยกล่าวว่า ประธานาธิบดีสหรัฐฯ “สนับสนุนและเปิดช่องให้เกิดอาชญากรรมต่อมนุษยชาติที่อิสราเอลกำลังก่อขึ้นต่อชาวปาเลสไตน์อย่างเปิดเผย”

อันวาร์กล่าวในการประชุมที่รัฐซาบาห์เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา โดยปกป้องการเชิญทรัมป์เข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียนว่า มาเลเซียจะใช้การประชุมระดับภูมิภาคนี้เพื่อแสดงความกังวลเกี่ยวกับชาวปาเลสไตน์ รวมถึงสถานการณ์ในฉนวนกาซาต่อไป

อันวาร์ ซึ่งเป็นตัวแทนของมาเลเซียในฐานะประธานอาเซียนคนปัจจุบัน ประกาศเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคมว่า ทรัมป์จะเข้าร่วมการประชุมระดับภูมิภาค ซึ่งกำหนดไว้ระหว่างวันที่ 26-28 ตุลาคม ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ และว่า ทรัมป์ยืนยันการเข้าร่วมผ่านทางโทรศัพท์แล้ว

อันวาร์กล่าวว่า “มาเลเซียแสดงออกอย่างเปิดเผยในการปกป้องปาเลสไตน์และกาซา แต่ในขณะเดียวกัน เราก็ใช้ช่องทางการทูต เรามีอิสระที่จะแสดงความคิดเห็น เพราะเราเป็นประเทศเอกราชและมีศักดิ์ศรี แต่เราต้องฉลาดในการสร้างมิตรภาพด้วย นั่นคือเหตุผลที่การเจรจามีความสำคัญ เราจะยึดมั่นในความจริงและความยุติธรรมเสมอ แต่ต้องเป็นไปอย่างชาญฉลาดและมีกลยุทธ์”

นายกรัฐมนตรีกล่าวเพิ่มเติมว่า การเรียกร้องให้ตัดความสัมพันธ์กับสหรัฐฯ นั้น เป็นการมองข้ามผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจของมาเลเซีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการส่งออกเทคโนโลยีขั้นสูง

“การส่งออกเซมิคอนดักเตอร์ของมาเลเซียไปยังสหรัฐฯ เพียงอย่างเดียวมีมูลค่าหลายพันล้านริงกิต มีชาวมาเลเซียหลายหมื่นคนทำงานในภาคส่วนนี้ หากเราปฏิเสธความสัมพันธ์โดยตรง ประชาชนจะเป็นผู้ได้รับผลกระทบ” อันวาร์กล่าว

อันวาร์ยังชี้ให้เห็นถึงความสามารถของมาเลเซียในการมีส่วนร่วมกับทั้งสหรัฐฯ และจีน ว่าเป็นเครื่องหมายแห่งการยอมรับในระดับนานาชาติ

อันวาร์เผยว่า “เมื่อไม่กี่เดือนก่อน ประธานาธิบดีสีจิ้นผิง (ของจีน) ได้มาเยือน และเดือนหน้า...ทรัมป์จะมาเยือน มีประเทศเล็กๆ เพียงไม่กี่ประเทศเท่านั้นที่จะได้รับการยอมรับเช่นนี้ นี่เป็นเครื่องพิสูจน์ว่าโลกให้ความเคารพมาเลเซีย

ทั้งนี้ เมื่อเดือนสิงหาคมอันวาร์กล่าวว่า สีจิ้นผิง และทรัมป์ เป็นหนึ่งในผู้นำโลกอย่างน้อย 4 คนที่คาดว่าจะเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน

อย่างไรก็ดี จีนยังไม่ได้ยืนยันว่าสีจิ้นผิงจะเข้าร่วมการประชุมครั้งนี้หรือไม่ แต่สำนักข่าว Reuters รายงานเมื่อปลายเดือนสิงหาคมโดยอ้างแหล่งข่าวว่า สีจิ้นผิงไม่น่าจะเข้าร่วม

Photo by BAY ISMOYO / AFP

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์