ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษาให้จำคุกอดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร 1 ปี กรณีการบังคับโทษที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายในคดีชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ นับเป็นนายกรัฐมนตรีคนแรกของไทย ที่ถูกจำคุก แต่ไม่ใช่ผู้นำคนแรกของเอเชีย
ในเอเชียผู้นำประเทศถูกศาลตัดสินจำคุกหลายคน อาทิ
อดีตนายกรัฐมนตรี นาจิบ ราซัค ของมาเลเซีย ถูกพิพากษาจำคุก 12 ปีในคดีคอร์รัปชันที่เกี่ยวโยงกับกองทุนแห่งชาติ 1MDB โดยภายหลังทางการมาเลเซียลดโทษให้กึ่งหนึ่ง แต่ก็ยังต้องชดใช้ความผิดอยู่ในเรือนจำ
อดีตประธานาธิบดี ยุนซ็อกยอล ของเกาหลีใต้ ยุนซ็อกยอลถูกสภาถอดถอนจากตำแหน่ง และถูกตั้งข้อหาก่อกบฏในเดือนมกราคม 2025 จากความพยายามประกาศกฎอัยการศึกที่ล้มเหลว กลายเป็นประธานาธิบดีคนแรกในประวัติศาสตร์เกาหลีใต้ที่ถูกตั้งข้อหาอาญา
อดีตประธานาธิบดี พัคกึนฮเย ของเกาหลีใต้ ถูกพิพากษาจำคุก 24 ปีในข้อหาใช้อำนาจในทางมิชอบ รวมทั้งการให้เพื่อนสนิทแทรกแซงอำนาจการบริหารราชการในฐานะที่ปรึกษา พัคกึนฮเยถูกจับกุมเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2017 โดยถูกแจ้งข้อกล่าวหาว่าใช้อำนาจไปในทางมิชอบ รับสินบน ขู่เข็ญผู้อื่นและเปิดเผยความลับของทางรัฐ นับเป็นประธานาธิบดีคนที่ 2 ของเกาหลีใต้ที่รัฐสภามีมติถอดถอนหลังการโหวตถอดถอนประธานาธิบดี โนมูฮยอน เมื่อปี 2004
อดีตประธานาธิบดี อีเมียงบัค ของเกาหลีใต้ ถูกศาลฎีกาตัดสินให้รับโทษจำคุก 17 ปี ในข้อหายักยอกทรัพย์และติดสินบนเมื่อปี 2020 หลังถูกตั้งข้อหาในปี 2018 โดยมีข้อกล่าวหาทางอาญา 16 ข้อหา รวมถึงการรับสินบนจากบริษัทซัมซุงเพื่อแลกกับการให้อภัยโทษ อีก็อนฮีประธานซัมซุงซึ่งถูกจำคุกในข้อหาเลี่ยงภาษีและฉ้อโกงหุ้น ไปจนถึงข้อหายักยอกทรัพย์ อำพรางเงินค่าธรรมเนียมตามกฎหมายให้กับ DAS ซึ่งเป็นบริษัทผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ที่ อีซังดึก พี่ชายของอีเมียงบัคเป็นเจ้าของ
อดีตประธานธิบดี ช็อนดูฮวัน ของเกาหลีใต้ ถูกดำเนินคดีในข้อหารับสินบนและข้อหาสลายการชุมนุมของประชาชนในเหตุการณ์เรียกร้องประชาธิปไตยในเมืองควังจู โดยช็อนและประธานธิบดี โนแทอู อดีตนายพลของกองทัพบกเกาหลีใต้และผู้สนับสนุนในการรัฐประหารในปี 1979 ถูกพิพากษาว่ามีความผิดในข้อหากบฏ การก่อจลาจล และการฉ้อราษฎร์บังหลวงเมื่อปี 1996 ช็อนดูฮวัน ถูกตัดสินประหารชีวิต และต่อมาได้ลดโทษเป็นจำคุกตลอดชีวิต ส่วน โนแทอู ถูกพิพากษาจำคุก 22 ปี 6 เดือน ต่อมาศาลได้พิพากษาลดโทษให้เหลือ 17 ปี ก่อนได้รับการอภัยโทษในสมัยประธานาธิบดี คิมยองซัม และออกจากเรือนจำในปี 1997
ที่ผ่านมาเกาหลีใต้ถือเป็นประเทศที่มีนักการเมือง หรือผู้นำในระดับประธานาธิบดีกระทำความผิดฐานทุจริตคอร์รัปชันมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
อดีตประธานาธิบดี รานิล วิกรมสิงเห ของศรีลังกา ถูกจับในข้อหาคอร์รัปชัน นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของประเทศที่อดีตประมุขแห่งรัฐถูกควบคุมตัวในข้อหาทุจริต ก่อนจะประกันตัวออกมา
อดีตประธานาธิบดี เฉินสุยเปี่ยน ของไต้หวันซึ่งดำรงตำแหน่งสองสมัย ถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานติดสินบนและยักยอกทรัพย์เมื่อปี 2009 และได้รับโทษจำคุกตลอดชีวิต แต่ศาลอุทธรณ์ได้ลดโทษเหลือ 20 ปี เขาได้รับการปล่อยตัวเมื่อวันที่ 5 มกราคม 2015 หลังตรวจพบว่าป่วยเป็นโรคทางระบบประสาทจนต้องนั่งรถเข็น
อดีตประธานาธิบดี กลอเรีย มาคาปากัล อาร์โรโย ของฟิลิปปินส์ ถูกตั้งข้อหาฉ้อโกงการเลือกตั้งและถูกควบคุมตัวเมื่อปี 2011 ก่อนจะประกันตัวออกมาในปีต่อมา โดยข้อกล่าวหาเหล่านี้ถูกยกเลิกในภายหลังเนื่องจากขาดหลักฐาน กลอเรียถูกจับกุมอีกครั้งในเดือนตุลาคม 2012 ในข้อหาใช้เงินกองทุนสลากกินแบ่งรัฐบาลไปในทางที่ผิดจำนวน 8.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยให้รับโทษจำคุกในโรงพยาบาลเนื่องจากมีปัญหาสุขภาพร้ายแรง เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2016ศาลฎีกาได้ยกฟ้องข้อกล่าวหาทุจริตและสั่งให้ปล่อยตัวจากโรงพยาบาลที่เธอถูกควบคุมตัวตั้งแต่ปี 2011 ต่อมาเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2016 ศาลฎีกาตัดสินให้ยกฟ้องคดีฉ้อโกง เนื่องจากมีหลักฐานไม่เพียงพอ
โมฮัมเหม็ด นาชีด ผู้นำฝ่ายค้านมัลดีฟส์ ถูกจับกุมเมื่อปี 2015 ฐานสั่งจับกุมผู้พิพากษาระดับสูงสมัยที่เขายังดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี นาชีดถูกกล่าวหาว่าสั่งการให้กองทัพจับกุมผู้พิพากษาและเพิกเฉยต่อคำสั่งของศาลฎีกาที่ให้ปล่อยตัวเขา รัฐบาลยืนยันว่าการจับกุมนาชีดไม่ได้มีแรงจูงใจทางการเมือง และเขาถูกควบคุมตัวเพราะเกรงว่าจะหลบหนีออกจากประเทศ
Photo by Lillian SUWANRUMPHA, Mohd RASFAN, PIERRE VERDY / AFP