‘ลา กาเตดรัล’ คุกส่วนตัวสุดหรูของ ‘ราชาโคเคนแห่งโคลอมเบีย’ ที่มีทั้งสนามฟุตบอล น้ำตก และผู้หญิง

23 พ.ย. 2568 - 09:03

  • ปาโบล เอสโคบาร์ ราชาโคเคนของโคลอมเบียยื่นข้อเสนอขอสร้างคุกสำหรับตัวเอง

  • La Catedral (ลา กาเตดรัล) อัดแน่นไปด้วยความหรูหรา ทั้งสนามฟุตบอล บาร์ อ่างจากุซซี ห้องครัวที่ทันสมัย หรือแม้กระทั่งน้ำตก

  • สำหรับเอสโคบาร์ ชีวิตใน La Catedral แทบจะเหมือนวันหยุดพักผ่อน

‘ลา กาเตดรัล’ คุกส่วนตัวสุดหรูของ ‘ราชาโคเคนแห่งโคลอมเบีย’ ที่มีทั้งสนามฟุตบอล น้ำตก และผู้หญิง

กรณีผู้ต้องขังจีนเทาในเรือนจำพิเศษกรุงเทพว่าตะลึงแล้ว กรณีของราชาโคเคนแห่งโคลอมเบียตะลึงกว่า เพราะเขาถึงขั้นต่อรองกับทางการขอสร้างคุก (ที่ต้องขังตัวเอง) เอง คุกที่น่าจะเรียกว่า “สถานที่ตากอากาศ” ซะมากกว่า

เส้นทางของ ปาโบล เอสโคบาร์ เริ่มจากโจรขโมยรถยนต์ทั่วไปจนจับพลัดจับผลูไต่เต้าขึ้นมาเป็นหัวหน้าแก๊งค้ายาเสพติดรายใหญ่ของโลกรายหนึ่งจากยุคทองของโคเคนเมื่อช่วงทศวรรษ 1970 จนเกือบจะเป็น “ผู้ผูกขาด” โคเคนในสหรัฐฯ และติดอันดับมหาเศรษฐีระดับพันล้านของนิตยสารฟอร์บส์ถึง 7 ปีซ้อน

แน่นอนว่าทางการโคลอมเบียหมายหัวเจ้าพ่อโคเคนรายนี้ แต่ก็ยังทำอะไรไม่ได้ จนกระทั่ง โรดริโก โบนิลลา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมโคลอมเบีย ถูกลอบสังหารตามคำสั่งของเอสโคบาร์ในปี 1984 ซึ่งถือเป็นเหตุการณ์ที่น่าตกตะลึงที่ทำให้รัฐบาลโคลอมเบียลุกขึ้นมาปราบปรามผู้ค้ายาเสพติดอย่างจริงจังและทำข้อตกลงส่งผู้ร้ายข้ามแดนกับสหรัฐฯ

ฟางเส้นสุดท้ายของทางการโคลอมเบียคือ การวางระเบิดเครื่องบินโดยสารในปี 1989 ซึ่งเป็นการลอบสังหารทางการเมืองที่ล้มเหลว ทำให้มีผู้เสียชีวิต 107 คน นับเป็นการกระทำที่ร้ายแรงที่สุดของเอสโคบาร์ รัฐบาลตามล่าเอสโคบาร์หนักขึ้น บวกกับคู่แข่งก็จ้องเด็ดหัว ในที่สุด เอสโคบาร์ซึ่งพยายามอย่างยิ่งที่จะหลีกเลี่ยงการถูกส่งตัวข้ามแดนไปยังสหรัฐฯ จึงเจรจายอมจำนนต่อทางการโคลอมเบียในปี 1991

ภาพถ่ายผู้ต้องหาที่ถ่ายโดยหน่วยงานควบคุมระดับภูมิภาคของโคลอมเบียในเมืองเมเดยินเมื่อปี 1976 Photo by Wikipedia Public Domain
ภาพถ่ายผู้ต้องหาที่ถ่ายโดยหน่วยงานควบคุมระดับภูมิภาคของโคลอมเบียในเมืองเมเดยินเมื่อปี 1976 Photo by Wikipedia Public Domain

เอสโคบาร์ยื่นเงื่อนไขที่สร้างความตะลึงไปทั่วโลก เขาขอสร้างคุกเอง ขอเลือกสถานที่เอง ขอใช้คนของตัวเองเป็นการ์ด รวมถึงกำหนดว่าตำรวจแห่งชาติโคลอมเบียไม่สามารถเข้าพื้นที่รัศมี 19 กิโลเมตรรอบคุกได้ และต้องลดโทษจำคุกเจ้าตัวเหลือ 5 ปีเท่านั้น โดยที่ตำรวจโคลอมเบียก็ไม่มีอำนาจพอจะคัดค้าน

เอสโคบาร์เลือกสร้างคุกส่วนตัวบนเขาใกล้เมืองเมเดยิน เพื่อให้มองเห็นตัวเมืองและป้องกันไม่ให้ฝ่ายตรงข้ามโจมตีทางอากาศ แต่สถานที่แห่งนี้ไม่ใช่คุกธรรมดา La Catedral (ลา กาเตดรัล) หรือ Hotel Escobar อัดแน่นไปด้วยความหรูหรา ทั้งสนามฟุตบอล บาร์ อ่างจากุซซี ห้องครัวที่ทันสมัย บ้านตุ๊กตาหลังใหญ่สำหรับลูกสาว หรือแม้กระทั่งน้ำตก ซึ่งเอสโคบาร์ควักกระเป๋าไปกว่า 25 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

สำหรับเอสโคบาร์ ชีวิตใน La Catedral แทบจะเหมือนวันหยุดพักผ่อน เขาได้รับอนุญาตให้ต้อนรับแขก รวมถึงครอบครัวและสมาชิกองค์กรอาชญากรรมของเขา และยังคงดำเนินธุรกิจค้ายาของตัวเองในคุก โดยใช้โทรศัพท์มือถือและช่องทางอื่นๆ เพื่อสื่อสารกับสมาชิกในแก๊ง และครั้งหนึ่งเอสคาร์ยังเชิญนักฟุตบอลทีมชาติโคลอมเบียทั้งทีมไปทานอาหารกลางวันที่นั่น

วันเกิดเอสโคบาร์ยังมีการจัดปาร์ตี้สังสรรค์ โดยมีการนำคาเวียร์ ปลาแซลมอน และอาหารราคาแพงอื่นๆ เข้ามาภายในคุกแห่งนี้ พร้อมด้วยกลุ่มโสเภณีและสาวงามจากเวทีประกวดที่มาสร้างความบันเทิงให้กับผู้ร่วมงานชายเป็นประจำ

ลานจอดเฮลิคอปเตอร์ที่ La Catedral อดีตเรือนจำของ ปาโบล เอสโคบาร์ ที่มองเห็นเมืองเมเดยิน Photo by Wikipedia / Stefanomione
ลานจอดเฮลิคอปเตอร์ที่ La Catedral อดีตเรือนจำของ ปาโบล เอสโคบาร์ ที่มองเห็นเมืองเมเดยิน Photo by Wikipedia / Stefanomione

ชีวิตติดคุกแบบมีสิทธิพิเศษอยู่กับเอสโคบาร์ไม่นาน วันหนึ่งเอสโคบาร์สั่งฆ่าผู้ใต้บังคับบัญชา 2 คนใน La Catedral ทำให้รัฐบาลโคลอมเบียไม่พอใจมาก จึงตัดสินใจย้ายเอสโคบาร์ไปอยู่ในคุกจริงๆ และส่งกองกำลังไปล้อม La Catedral ในวันที่ 22 กรกฎาคม 1992 จนเกิดการยิงปะทะ แต่ตัวเอสโคบาร์แอบหนีออกจากที่นั่นก่อนแล้ว เพราะมีคนนำข้อมูลมาบอกโดยเขาเพิ่งรับโทษเพียง 13 เดือนจากโทษจำคุก 5 ปี

วันที่ 1 ธันวาคม 1993 ระหว่างหลบหนี เอสโคบาร์โทรหาญาติจากเซฟเฮ้าส์ จนเจ้าหน้าที่สามารถติดตามตัวได้และส่งกองกำลังตำรวจติดอาวุธขนาดเล็กไปยังสถานที่เกิดเหตุในวันต่อมา และเกิดการยิงปะทะกัน เอสโคบาร์ถูกวิสามัญฆาตกรรมในวันนั้นเป็นการปิดตำนานเจ้าพ่อโคเคนแห่งโคลอมเบีย

La Catedral ถูกทิ้งร้างมานานหลายปีจนกระทั่งรัฐบาลโคลอมเบียให้กลุ่มพระเบเนดิกตินยืมสถานที่นี้ ซึ่งเปลี่ยนเป็นศูนย์ “ท่องเที่ยวทางศาสนาและวัฒนธรรม” และกลายเป็นสัญลักษณ์ของการคอร์รัปชันและความอ่อนแอของรัฐบาลโคลอมเบียในการควบคุมการค้ายาเสพติด

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์