นายกฯ ซานาเอะ ทาคาอิจิ ของญี่ปุ่น ‘ปฏิเสธ’ ข้อเรียกร้องจากจีนที่ให้ถอนคำพูดประเด็นไต้หวันเมื่อไม่นานมานี้ โดยระบุว่า “ไม่มีการเปลี่ยนแปลงท่าทีของญี่ปุ่นเกี่ยวกับการรับมือกับวิกฤตความมั่นคงระดับภูมิภาคครั้งใหญ่”
ทาคาอิจิเป็นผู้นำญี่ปุ่นคนแรกในรอบหลายสิบปีที่พูดต่อสาธารณะเชื่อมโยงวิกฤตในช่องแคบไต้หวันกับความเป็นไปได้ในการส่งทหารญี่ปุ่นไปประจำการ คำกล่าวของทาคาอิจิทำให้จีนตอบโต้ทันที โดยทั้งเตือนประชาชนของตัวเองไม่ให้เดินทางไปญี่ปุ่น และ ‘ระงับ’ การนำเข้าอาหารทะเลจากญี่ปุ่นอีกครั้ง
เมื่อทาคาอิจิถูกถามว่า ‘จะถอนคำพูดที่ทำให้จีนโกรธหรือไม่’ เธอก็ตอบว่า “ในสถานการณ์ที่คุกคามการดำรงอยู่ของญี่ปุ่น รัฐบาลจะตัดสินใจอย่างรอบด้านจากข้อมูลทั้งหมดที่มีอยู่ รวมถึงพิจารณาตามสถานการณ์จริงที่เกิดขึ้นในแต่ละกรณี...ตัวฉันเองได้แสดงจุดยืนนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าในคำตอบของฉัน จุดยืนของรัฐบาลญี่ปุ่นยังคงเหมือนเดิม”
ข้อพิพาทกับจีนกลายเป็นความท้าทายทางการทูตครั้งใหญ่ครั้งแรกของทาคาอิจิ นับตั้งแต่เธอขึ้นเป็นผู้นำประเทศเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา แม้ว่าเจ้าหน้าที่จีน สื่อของรัฐ และนักการทูตจีนจะพยายามอย่างหนักเพื่อกดดันให้ทาคาอิจิถอนคำพูด แต่ทาคาอิจิและทีมเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเธอก็พยายามลดความตึงเครียดและก้าวข้ามประเด็นนี้ไป
ทาคาอิจิกล่าวในวันศุกร์ (21 พ.ย.) ว่า เธออยากจะพัฒนาความสัมพันธ์ให้ดีขึ้นต่อไป หลังจากที่ได้พบกับผู้นำสี จิ้นผิง ของจีนในการประชุมสุดยอด APEC ที่เกาหลีใต้เมื่อเดือนตุลาคม
“ประธานาธิบดีสีและฉันได้ยืนยันทิศทางกว้างๆ ในการพัฒนาความสัมพันธ์เชิงยุทธศาสตร์ และผลประโยชน์ร่วมกันอย่างรอบด้าน รวมถึงการสร้างความสัมพันธ์ที่สร้างสรรค์และมั่นคง ท่าทีนี้ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด” ทาคาอิจิ กล่าว
ขณะเดียวกันก็ไม่มีแผนการพบกันนอกรอบการประชุม G-20 ระหว่างนายกฯ หลี่ เฉียง ของจีน และนายกฯ ทาคาอิจิ
ด้าน เหมา หนิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนแถลงการณ์เมื่อวันพุธ (19 พ.ย.) ว่า “หากญี่ปุ่นปฏิเสธที่จะถอนคำพูดประเด็นไต้หวัน จีนก็จะใช้ ‘มาตรการตอบโต้ที่รุนแรง’” ซึ่งขณะนี้จีนได้ตอบโต้ด้วยมาตรการทางเศรษฐกิจและขู่ว่าจะมีการตอบโต้เพิ่มเติมในอนาคต
อีกทั้งยังได้เตือนพลเมืองจีนให้ ‘หลีกเลี่ยง’ การเดินทางไปญี่ปุ่น รวมถึง ‘ระงับ’ การนำเข้าอาหารทะเลญี่ปุ่นอีกครั้ง และ ‘ระงับ’ ฉายภาพยนตร์ญี่ปุ่นเรื่องใหม่ แต่ยังไม่มีสัญญาณว่าความตึงเครียดระหว่างญี่ปุ่นกับจีนจะส่งผลกระทบต่อการจัดหาแร่แรร์เอิร์ธที่ญี่ปุ่นนำเข้าจากจีน
(Photo by JUNG Yeon-je / AFP)



