อิทธิพลอาจหลุดมือสหรัฐฯ เมื่อตะวันออกกลางเสนอตั้ง ‘นาโตอาหรับ’ กำราบอิสราเอล

16 ก.ย. 2568 - 09:53

  • ข้อเสนอนาโตอาหรับถือเป็นการผลักดันที่จริงจังที่สุดต่อความร่วมมือทางทหารในตะวันออกกลางในรอบหลายทศวรรษ

  • ความตึงเครียดครั้งล่าสุดนี้ สะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในลำดับความสำคัญด้านความมั่นคงของตะวันออกกลาง

  • การโจมตีกาตาร์ครั้งนี้ยังก่อให้เกิดความกังขาเกี่ยวกับความน่าเชื่อถือของสหรัฐฯ ในฐานะที่เป็นคนรับประกันความปลอดภัย

อิทธิพลอาจหลุดมือสหรัฐฯ เมื่อตะวันออกกลางเสนอตั้ง ‘นาโตอาหรับ’ กำราบอิสราเอล

การโจมตีทางอากาศของอิสราเอลใส่กรุงโดฮาของกาตาร์โดยอ้างว่ามีเป้าหมายเพื่อสังหารผู้นำฮามาสที่กำลังเจรจาหาทางยุติสงครามในกาซาเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเหมือนจะกลายเป็นฟางเส้นสุดท้ายสำหรับประเทศในกลุ่มอาหรับและประเทศมุสลิม

ในที่ประชุมสุดยอดอาหรับ-อิสลามฉุกเฉินที่กรุงโดฮาเพื่อรับมือกับการโจมตีครั้งล่าสุดของอิสราเอลมีการเสนอให้จัดตั้งกองกำลังผสมทางทหารร่วมกัน ซึ่งสื่อบางสำนักขนานนามว่า “นาโตอาหรับ” ที่คล้ายกับกลุ่มนาโตของยุโรป

ข้อเสนอนี้ถือเป็นการผลักดันที่จริงจังที่สุดต่อความร่วมมือทางทหารในภูมิภาคในรอบหลายทศวรรษ

อียิปต์ซึ่งมีกองทัพที่ใหญ่ที่สุดในแถบอาหรับเป็นแกนนำในการเสนอจัดตั้งนาโตอาหรับ โดยจะให้ใช้กรุงไคโรเป็นฐานที่ตั้ง ขณะที่ปากีสถาน ประเทศมุสลิมเพียงประเทศเดียวในโลกที่มีอาวุธนิวเคลียร์ เรียกร้องให้จัดตั้งกองกำลังเฉพาะกิจร่วมเพื่อ “ตรวจสอบแผนการของอิสราเอลในภูมิภาค และนำมาตรการยับยั้งและมาตรการเชิงรุกที่มีประสิทธิผลมาใช้ในลักษณะที่สอดประสานกันเพื่อป้องกันแผนการขยายอำนาจของอิสราเอล”

ทหารหน่วยรบพิเศษของกองทัพอียิปต์ประจำการหน้าแนวกั้นคอนกรีตที่กั้นพรมแดนระหว่างอียิปต์และฉนวนกาซาในเมืองราฟาห์ เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2023 Photo by Kerolos SALAH / AFP
ทหารหน่วยรบพิเศษของกองทัพอียิปต์ประจำการหน้าแนวกั้นคอนกรีตที่กั้นพรมแดนระหว่างอียิปต์และฉนวนกาซาในเมืองราฟาห์ เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2023 Photo by Kerolos SALAH / AFP

ความตึงเครียดครั้งล่าสุดนี้ สะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในลำดับความสำคัญด้านความมั่นคงของตะวันออกกลาง

หลังจากอิสราเอลปูพรมถล่มโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่าน 12 วันก่อนหน้านี้ และการโจมตีอย่างต่อเนื่องในฉนวนกาซา และการโจมตีกรุงโดฮาครั้งล่าสุด บรรดาผู้นำประเทศมุสลิมก็ยิ่งมองว่าอิสราเอลเป็นตัวบ่อนทำลายความสงบในภูมิภาค

การโจมตีกาตาร์ครั้งนี้ยังก่อให้เกิดความกังขาเกี่ยวกับความน่าเชื่อถือของสหรัฐฯ ในฐานะที่เป็นคนรับประกันความปลอดภัย

หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ เพียงแต่บอกว่า รัฐบาลทรัมป์ “ไม่แฮปปี้” กับการกระทำของอิสราเอลในโดฮา แต่กลับไม่มีการประณาม ทั้งยังตอกย้ำด้วยคำพูดของ มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีว่การกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ที่เพิ่งเดินทางเยือนอิสราเอลซึ่งเหมือนเป็นการให้ท้ายกลายๆ ว่า สหรัฐฯ สนับสนุนอิสราเอลเต็มที่ในการกำจัดฮามาส (อ่านเรื่อง รูบิโอลั่นสหรัฐฯ พร้อมสนับสนุนแผนอิสราเอล ‘ทำลายล้างฮามาส’ เต็มที่ ที่นี่)

(จากซ้ายไปขวา) นายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล รัฐมนตรีต่างประเทศ มาร์โก รูบิโอ และไมค์ ฮัคคาบี เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำอิสราเอล เยี่ยมชมกำแพงตะวันตก สถานที่สวดมนต์ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดของศาสนายิว ในเมืองเก่าเยรูซาเล็ม เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2025  Photo by Nathan Howard / POOL / AFP
(จากซ้ายไปขวา) นายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล รัฐมนตรีต่างประเทศ มาร์โก รูบิโอ และไมค์ ฮัคคาบี เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำอิสราเอล เยี่ยมชมกำแพงตะวันตก สถานที่สวดมนต์ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดของศาสนายิว ในเมืองเก่าเยรูซาเล็ม เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2025 Photo by Nathan Howard / POOL / AFP

กาตาร์กับอิสราเอลต่างก็เป็นพันธมิตรของสหรัฐฯ ในตะวันออกกลาง กาตาร์เป็นที่ตั้งฐานทัพสหรัฐฯ ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาค ส่วนอิสราเอลคงไม่ต้องพูดถึง เพราะเห็นๆ กันอยู่ แต่ท่าทีทั้งหมดของสหรัฐฯ ยิ่งทำให้ช่องว่างระหว่างประเทศอาหรับและอิสราเอลห่างกันมากขึ้น

และเรื่องนี้มีราคาที่สหรัฐฯ ต้องจ่าย

ฮุสเซน อิบิช นักวิชาการระดับอาวุโสของ Arab Gulf States Institute ในสหรัฐฯ บอกว่า ข้อเสนอของบรรดาประเทศอาหรับและมุสลิม “เป็นอีกหนึ่งการสะท้อนที่ชัดเจนถึงความกังวลเกี่ยวกับความไม่เต็มใจและ/หรือความไม่สามารถของสหรัฐฯ ในการทำหน้าที่เป็นผู้รับประกันความมั่นคงในตะวันออกกลาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับพันธมิตรทางทหารอาหรับดั้งเดิม”

อิบิชเผยอีกว่า โลกอาหรับกำลังมุ่งไปสู่ความร่วมมือแบบที่สหรัฐฯ สนับสนุนมาอย่างยาวนาน แต่ความแตกต่างที่สำคัญคือ สหรัฐฯ คาดการณ์ไว้ว่าจะมีพันธมิตรอาหรับ-อิสราเอลไว้ต่อต้านอิหร่าน แต่กลับกลายเป็นว่าอิสราเอลกลับกลายเป็นภัยคุกคามเสียเอง

นักวิชาการรายนี้มองว่า “รัฐบาลสหรัฐฯ จะต้องแลกมาด้วยอิทธิพลอันมหาศาลของสหรัฐฯ” และเตือนว่า “สหรัฐฯ อาจไม่ชอบสิ่งที่เกิดขึ้นในท้ายที่สุด แต่หากพวกเขาไม่ดำเนินการเพื่อหยุดยั้งมันตอนนี้ พวกเขาก็จะไม่สามารถหยุดยั้งมันได้อีกในภายหลัง”

แม้ว่าการพูดคุยกันเกี่ยวกับนาโตอาหรับยังอยู่ในขั้นเริ่มต้น แต่ความร่วมมือดังกล่าวอาจเปลี่ยนระบบนิเวศการป้องกันประเทศในภูมิภาค จากซัพพลายเออร์ตะวันตกไปสู่ระบบที่ออกแบบโดยจีนซึ่งมีอยู่ในกองทัพอาหรับหลายแห่งอยู่แล้ว

นาโตอาหรับจะต้องการทั้งระบบอาวุธ โครงสร้างพื้นฐานด้านการสื่อสาร และการฝึกอบรมอย่างมหาศาล ซึ่งอาจเปิดประตูให้จีน ซึ่งเป็นซัพพลายเออร์ด้านการป้องกันประเทศที่แข็งแกร่งให้ตะวันออกกลางอยู่แล้ว เข้ามาให้การสนับสนุนทางเทคนิคได้

ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ผู้ผลิตอาวุธจากจีนได้จำหน่ายระบบต่างๆ ไปทั่วโลกอาหรับ อาทิ ในซาอุดีอาระเบียที่ใช้ขีปนาวุธ DF-3 และ DF-21 ไปจนถึงโดรน Wing Loong II ที่ใช้ในเยเมน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซื้อโดรน CH-4 ที่คล้ายกับโดรน MQ-9 Reaper ของสหรัฐฯ และปืนใหญ่และระบบขีปนาวุธของบริษัท Norinco ส่นอียิปต์นำเข้าโดรน Wing Loong อุปกรณ์เรดาร์ และเรือคอร์เวตต์ติดตั้งขีปนาวุธ

ข้อมูลของสถาบันวิจัยสันติภาพระหว่างประเทศสตอกโฮล์ม (SIPRI) ระบุว่า การส่งออกอาวุธยุทโธปกรณ์ของจีนไปตะวันออกกลางเพิ่มขึ้นตั้งแต่ปี 2015 โดยเฉพาะโดรนและระบบขีปนาวุธ

บริษัทอาวุธของจีนมียุทโธปกรณ์แบบครบวงจรครอบคลุมความต้องการต่างๆ ตั้งแต่เครือข่ายเรดาร์ไปจนถึงโดรนและขีปนาวุธที่โจมตีแม่นยำ หากประเทศอาหรับต้องการ ซัพพลายเออร์จีนก็มีศักยภาพเพียงพอ

นอกจากนี้ ปากีสถานที่เป็นพันธมิตรกับประเทศในอ่าวเปอร์เซียมายาวนานยังอาจเป็นตัวเชื่อมจีนกับอาหรับ กองทัพปากีสถานใช้ระบบอาวุธที่จีนผลิตหลายอย่าง รวมทั้งเครื่องบินรบ JF-17 Thunder ระบบป้องกันภัยทางอากาศ HQ-9 และโดรน

หากกลุ่มพันธมิตรอาหรับทำงานร่วมกับปากีสถาน ก็สามารถอาศัยเทคโนโลยีการป้องกันประเทศของจีนในการร่วมมือกันได้

อันที่จริงแนวคิดเรื่องนาโตอาหรับไม่ใช่เรื่องใหม่ ช่วงทศวรรษ 1950 สันนิบาตอาหรับก่อตั้งตณะมนตรีป้องกันร่วมขึ้นมา แต่ความเห็นไม่ตรงกันระหว่างประเทศสมาชิกทำให้คณะมนตรีนี้ล้มเหลว ต่อมาปี 2015 อียิปต์เสนอให้จัดตั้งกองกำลังทหารร่วมอาหรับเพื่อจัดการกับปัญหาในเยเมนและลิเบีย หลายประเทศรับปากจะสนับสนุน แต่การโต้เถียงว่าใครจะเป็นผู้นำและจะจัดหาเงินทุนอย่างไร ก็ทำให้แผนดังกล่าวต้องหยุดลง

แต่ในครั้งนี้เงื่อนไขต่างๆ เอื้ออำนวยกว่าในอดีต หากประเทศสมาชิกยอมรับข้อเสนอ ข้อตกลงการป้องกันประเทศร่วมกันของประเทศอาหรับอาจเปลี่ยนสมดุลอำนาจในตะวันออกกลางได้ ขณะเดียวกันก็ทดสอบบทบาทของสหรัฐฯ ในฐานะผู้รับประกันความมั่นคงของภูมิภาคด้วย

Photo by Brendan SMIALOWSKI / AFP

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์