ศาลสูงสุดอินเดียออกคำสั่งให้เจ้าหน้าที่กวาดล้างสุนัขจรจัดในเมืองหลวงนิวเดลีและชานเมือง หลังสถิติสุนัขกัดคนเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ประชาชนในพื้นที่ที่มีประชากรกว่า 30 ล้านคนต้องเผชิญความเสี่ยงด้านความปลอดภัย
ปัญหาสุนัขจรจัดรุนแรงในอินเดีย
ข้อมูลจากการสำรวจปศุสัตว์อินเดียปี 2012 ระบุว่ามีสุนัขจรจัดอย่างน้อย 60,000 ตัวในนิวเดลี แต่นักวิเคราะห์เชื่อตัวเลขปัจจุบันอาจสูงกว่านั้น เนื่องจากมีฝูงสุนัขขนาดใหญ่เดินเร่ร่อนในสวนสาธารณะและย่านที่อยู่อาศัยต่างๆ
องค์การอนามัยโลกรายงานว่าอินเดียมีผู้เสียชีวิตจากโรคพิษสุนัขบ้ามากกว่า 1 ใน 3 ของโลก สาเหตุหลักมาจากการขาดโครงการทำหมันและข้อจำกัดทางกฎหมายในการควบคุมประชากรสุนัข
คำสั่งศาลเข้มงวด
ศาลสั่งให้หน่วยงานเมืองจัดตั้งศูนย์พักพิงสุนัขภายใน 8 สัปดาห์ และบันทึกข้อมูลสุนัขที่จับได้ทุกวัน โดยเน้นย้ำว่าสิ่งสำคัญคือห้ามปล่อยสุนัขจรจัดแม้แต่ตัวเดียวกลับสู่พื้นที่
ศาลยังสั่งให้จัดตั้งสายด่วน 24 ชั่วโมงรับแจ้งเหตุสุนัขกัด และเผยแพร่ข้อมูลสถานที่ฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า พร้อมเตือนจะดำเนินการกับนักกิจกรรมสิทธิสัตว์ที่ขัดขวางการกวาดล้าง
สถานการณ์น่าวิตก
ข้อมูลที่เสนอต่อรัฐสภาอินเดียแสดงว่าในปี 2024 มีผู้ถูกสุนัขกัดกว่า 3.7 ล้านราย และเสียชีวิตจากโรคพิษสุนัขบ้า 54 ราย ส่วนการประมาณการอื่นๆ ระบุตัวเลขอาจสูงเป็นสองเท่า โดยเฉพาะในนิวเดลีที่มีผู้ถูกสุนัขกัดประมาณ 2,000 รายต่อวัน
แม้สุนัขจรจัดหลายตัวจะได้รับความรักจากชาวบ้านชั้นกลาง บางคนยังใส่เสื้อกันหนาวให้ในช่วงฤดูหนาว แต่สื่อท้องถิ่นยังคงรายงานเหตุการณ์เด็กถูกฝูงสุนัขดุร้ายทำร้ายอย่างต่อเนื่อง
คำสั่งครั้งนี้จึงกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในการแก้ไขปัญหาที่สะสมมานาน แต่จะสามารถสร้างสมดุลระหว่างความปลอดภัยสาธารณะและสวัสดิภาพสัตว์ได้หรือไม่ ยังคงเป็นคำถามที่ต้องติดตามต่อไป