ศาลสูงสุดอินเดียสั่งกวาดล้างสุนัขจรจัดกว่า 60,000 ตัวในนิวเดลี หลังอัตราการกัดคนเพิ่มสูงขึ้น

11 ส.ค. 2568 - 11:03

  • อินเดียมีสุนัขจรจัดกว่า 60,000 ตัวในนิวเดลี สร้างปัญหาสาธารณสุข

  • ศาลสั่งจัดตั้งศูนย์พักพิงสุนัขภายใน 8 สัปดาห์ พร้อมห้ามปล่อยกลับ

  • อินเดียมีผู้เสียชีวิตจากโรคพิษสุนัขบ้ามากกว่า 1/3 ของโลก

ศาลสูงสุดอินเดียสั่งกวาดล้างสุนัขจรจัดกว่า 60,000 ตัวในนิวเดลี หลังอัตราการกัดคนเพิ่มสูงขึ้น

ศาลสูงสุดอินเดียออกคำสั่งให้เจ้าหน้าที่กวาดล้างสุนัขจรจัดในเมืองหลวงนิวเดลีและชานเมือง หลังสถิติสุนัขกัดคนเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ประชาชนในพื้นที่ที่มีประชากรกว่า 30 ล้านคนต้องเผชิญความเสี่ยงด้านความปลอดภัย

ปัญหาสุนัขจรจัดรุนแรงในอินเดีย

ข้อมูลจากการสำรวจปศุสัตว์อินเดียปี 2012 ระบุว่ามีสุนัขจรจัดอย่างน้อย 60,000 ตัวในนิวเดลี แต่นักวิเคราะห์เชื่อตัวเลขปัจจุบันอาจสูงกว่านั้น เนื่องจากมีฝูงสุนัขขนาดใหญ่เดินเร่ร่อนในสวนสาธารณะและย่านที่อยู่อาศัยต่างๆ

องค์การอนามัยโลกรายงานว่าอินเดียมีผู้เสียชีวิตจากโรคพิษสุนัขบ้ามากกว่า 1 ใน 3 ของโลก สาเหตุหลักมาจากการขาดโครงการทำหมันและข้อจำกัดทางกฎหมายในการควบคุมประชากรสุนัข

คำสั่งศาลเข้มงวด

ศาลสั่งให้หน่วยงานเมืองจัดตั้งศูนย์พักพิงสุนัขภายใน 8 สัปดาห์ และบันทึกข้อมูลสุนัขที่จับได้ทุกวัน โดยเน้นย้ำว่าสิ่งสำคัญคือห้ามปล่อยสุนัขจรจัดแม้แต่ตัวเดียวกลับสู่พื้นที่

ศาลยังสั่งให้จัดตั้งสายด่วน 24 ชั่วโมงรับแจ้งเหตุสุนัขกัด และเผยแพร่ข้อมูลสถานที่ฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า พร้อมเตือนจะดำเนินการกับนักกิจกรรมสิทธิสัตว์ที่ขัดขวางการกวาดล้าง

สถานการณ์น่าวิตก

ข้อมูลที่เสนอต่อรัฐสภาอินเดียแสดงว่าในปี 2024 มีผู้ถูกสุนัขกัดกว่า 3.7 ล้านราย และเสียชีวิตจากโรคพิษสุนัขบ้า 54 ราย ส่วนการประมาณการอื่นๆ ระบุตัวเลขอาจสูงเป็นสองเท่า โดยเฉพาะในนิวเดลีที่มีผู้ถูกสุนัขกัดประมาณ 2,000 รายต่อวัน

แม้สุนัขจรจัดหลายตัวจะได้รับความรักจากชาวบ้านชั้นกลาง บางคนยังใส่เสื้อกันหนาวให้ในช่วงฤดูหนาว แต่สื่อท้องถิ่นยังคงรายงานเหตุการณ์เด็กถูกฝูงสุนัขดุร้ายทำร้ายอย่างต่อเนื่อง

คำสั่งครั้งนี้จึงกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในการแก้ไขปัญหาที่สะสมมานาน แต่จะสามารถสร้างสมดุลระหว่างความปลอดภัยสาธารณะและสวัสดิภาพสัตว์ได้หรือไม่ ยังคงเป็นคำถามที่ต้องติดตามต่อไป

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์