รัฐบาลทรัมป์สั่งคุมเข้มวีซ่า! คนป่วยโรคอ้วน-เบาหวาน เสี่ยงถูกแบนไม่ให้เข้าสหรัฐฯ

14 พ.ย. 2568 - 09:55

  • คำสั่งใหม่ของรัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์ อาจทำให้ชาวต่างชาติเดินทางมาเยือน หรืออาศัยอยู่ในสหรัฐฯ ได้ยากขึ้น หากพวกเขามีภาวะทางการแพทย์บางประการ เช่น โรคเบาหวาน โรคอ้วน หรือขาดทรัพยากรทางเศรษฐกิจ และทรัพย์สินในการเลี้ยงดูตัวเอง

  • “บุคคลเหล่านี้อาจกลายเป็น ‘ภาระสาธารณะ’ ที่อาจทำให้ทรัพยากรของสหรัฐฯ หมดไป เนื่องจากปัญหาสุขภาพ หรืออายุของพวกเขา” แถลงการณ์ ระบุ

  • ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญเผยว่า “นโยบายนี้อาจ ‘จำกัด’ จำนวนผู้ที่ได้รับอนุญาตให้เข้าประเทศเพิ่มขึ้น ในช่วงเวลาที่รัฐบาลพรรครีพับลิกันกำลังเข้มงวดกฎระเบียบดังกล่าวมากขึ้นอยู่แล้ว”

รัฐบาลทรัมป์สั่งคุมเข้มวีซ่า! คนป่วยโรคอ้วน-เบาหวาน เสี่ยงถูกแบนไม่ให้เข้าสหรัฐฯ

คำสั่งใหม่ของรัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์ อาจทำให้ชาวต่างชาติเดินทางมาเยือน หรืออาศัยอยู่ในสหรัฐฯ ได้ ‘ยากขึ้น’ หากพวกเขามีภาวะทางการแพทย์บางประการ เช่น โรคเบาหวาน โรคอ้วน หรือขาดทรัพยากรทางเศรษฐกิจ และทรัพย์สินในการเลี้ยงดูตัวเอง 

อย่างไรก็ดี คำสั่งที่ออกเมื่อสัปดาห์ที่แล้วในหนังสือสั่งการจากกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ นั้น กำหนดให้เจ้าหน้าที่สถานทูตและกงสุลต้องตรวจสอบผู้สมัครขอวีซ่าอย่างละเอียดถี่ถ้วน เพื่อคัดกรองผู้ขอวีซ่าไม่ให้มาพึ่งพาสวัสดิการสาธารณะของรัฐบาลหลังจากที่พวกเขาได้รับอนุญาตให้เข้ามาในสหรัฐฯ แล้ว

“บุคคลเหล่านี้อาจกลายเป็น ‘ภาระสาธารณะ’ ที่อาจทำให้ทรัพยากรของสหรัฐฯ หมดไป เนื่องจากปัญหาสุขภาพ หรืออายุของพวกเขา”

แถลงการณ์ ระบุ  

ผู้เชี่ยวชาญเผยว่า “นโยบายนี้อาจ ‘จำกัด’ จำนวนผู้ที่ได้รับอนุญาตให้เข้าประเทศเพิ่มขึ้น ในช่วงเวลาที่รัฐบาลพรรครีพับลิกันกำลังเข้มงวดกฎระเบียบดังกล่าวมากขึ้นอยู่แล้ว” 

แม้ว่าการประเมินสุขภาพของผู้ขอวีซ่าจะเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการขอวีซ่ามาหลายปีแล้ว รวมถึงการคัดกรองโรคติดต่อ เช่น วัณโรค และประวัติการฉีดวัคซีน แต่ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า “นโยบายใหม่ได้ขยายรายการของโรคและภาวะทางการแพทย์ที่จะต้องพิจารณาอย่างมาก และให้อำนาจแก่เจ้าหน้าที่วีซ่าในการตัดสินใจเกี่ยวกับการเข้าเมืองโดยอิงจากสถานะสุขภาพของผู้ขอวีซ่ามากขึ้น” 

นโยบายใหม่นี้ครอบคลุมภาวะเรื้อรังต่างๆ ได้แก่ โรคอ้วน เบาหวาน โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคมะเร็ง โรคทางเดินหายใจ โรคทางระบบประสาท และปัญหาสุขภาพจิตรุนแรง เป็นต้น โดยเจ้าหน้าที่วีซ่าสามารถ ‘ปฏิเสธ’ การขอวีซ่าได้หากพบว่าผู้ขอวีซ่ามีแนวโน้มที่อาจก่อให้เกิดภาระค่ารักษาพยาบาลในระยะยาวต่อระบบสาธารณสุขของสหรัฐฯ 

“คำสั่งที่ออกมาใหม่นี้กำหนดให้ ‘สุขภาพ’ ของผู้ขอวีซ่าเป็นหัวใจสำคัญในกระบวนการยื่นขอวีซ่า แนวทางนี้จะใช้กับผู้สมัครวีซ่าเกือบทั้งหมด แต่มีแนวโน้มว่าจะใช้เฉพาะในกรณีที่ผู้ยื่นขอวีซ่าขอพำนักถาวรในสหรัฐฯ เท่านั้น”

ชาร์ลส์ วีลเลอร์ ทนายความอาวุโสของเครือข่ายกฎหมายตรวจคนเข้าเมืองคาทอลิก กล่าว 

ทั้งนี้พบว่าประชากรโลกประมาณ 10% ป่วยเป็นโรคเบาหวาน จากข้อมูลของสมาพันธ์โรคเบาหวานนานาชาติ (IDF) ในปี 2021 ระบุว่า มีผู้ป่วยโรคเบาหวานทั่วโลกประมาณ 537 ล้านคน และคาดว่าจำนวนนี้จะเพิ่มขึ้นเป็น 643 ล้านคนในปี 2030 และถึง 783 ล้านคนในปี 2045 นอกจากนี้ โรคหัวใจและหลอดเลือดก็เป็นโรคที่พบบ่อยและเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้นๆ ของโลก 

“รัฐบาลทรัมป์ให้ความสำคัญกับผลประโยชน์ของชาวอเมริกันเป็นอันดับแรก ซึ่งรวมถึงการบังคับใช้นโยบายเพื่อให้แน่ใจว่าระบบตรวจคนเข้าเมืองของเราไม่เป็นภาระแก่ผู้เสียภาษีชาวอเมริกัน”

ทอมมี พิกอตต์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศกล่าวเมื่อวันอังคาร (11 พ.ย.) 

ผู้ขอวีซ่าที่ต้องการเดินทางเข้าสหรัฐฯ จะต้องผ่านการตรวจสุขภาพจากแพทย์ที่ได้รับการรับรองจากสถานทูตสหรัฐฯ แล้ว บุคคลเหล่านี้จะได้รับการคัดกรองโรคติดต่อ เช่น วัณโรค และการซักประวัติการใช้ยาเสพติด สุขภาพจิต หรือประวัติความรุนแรง นอกจากนี้ยังต้องได้รับวัคซีนตามเกณฑ์ที่กำหนดด้วย 

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์