จำนวนดวงดาวที่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า ลดน้อยลงอย่างมากในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา สาเหตุมากจาก ‘Skyglow’ หรือแสงสว่างบนท้องฟ้าที่เกิดจากการกระทำของมนุษย์ เพิ่มมากขึ้นทุกปีตั้งแต่ปี 2011
คริสโตเฟอร์ ไคบา นักวิทยาศาสตร์จากศูนย์วิจัยธรณีวิทยาแห่งเยอรมนีในเมืองพอทสดัม กล่าวกับ BBC ว่า มุมมองของเราเกี่ยวกับดวงดาวกำลังหายไป โดยทั้งเขาและเพื่อนร่วมงานตีพิมพ์การค้นพบนี้ในวารสาร Science
การเปลี่ยนแปลงการมองเห็นดวงดาวที่ผู้คนรายงาน โดยการส่งจำนวนดาวของพวกเขาไปยังโครงการออนไลน์ที่มีชื่อว่า Globe at Night พบว่าความสว่างของท้องฟ้าที่เพิ่มขึ้นเกือบ 10% ทุกปี
นักวิทยาศาสตร์กล่าวว่า เด็กที่เกิดในบริเวณที่มองเห็นดาวได้ 250 ดวง อาจจะมองเห็นดาวได้น้อยกว่า 100 ดวงในบริเวณเดียวกันในอีก 18 ปีต่อมา
“พวกเขาไม่มองว่านี่คือภาพของมลพิษ มันเหมือนกับการชื่นชมความงามของสีรุ้งที่น้ำมันเบนซินผลิตขึ้นในน้ำ และไม่รู้ว่านั่นคือมลพิษทางเคมี” นักวิจัยกล่าว
ไคบากล่าวว่า เขาหวังว่าจะเห็นสัญญาณของการปรับปรุงมลพิษทางแสงในช่วงไม่กี่ปีมานี้ เพราะเมื่อล่าสุด ใจกลางเมืองหลายแห่งได้เปลี่ยนแสงไฟให้ประหยัดพลังงานมากขึ้น เมืองต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศที่พัฒนาแล้ว กำลังเปลี่ยนไฟถนนแบบเก่าเป็นไฟ LED สมัยใหม ซึ่งมีประโยชน์มากขึ้น
“ความหวังคือหากแสงนำทางได้ดีขึ้น สถานการณ์ก็จะดีขึ้น” ไคบากล่าวและเสริมว่า แต่มีไฟหลายประเภท เช่น ไฟถนน ไฟประดับ ไฟโฆษณา ดังนั้นเมื่อรวมสิ่งเหล่านี้เข้าด้วยกัน และอาจให้แสงสว่างโดยรวมมากขึ้น ซึ่งตอนนี้เรากำลังทำให้ความสว่างของท้องฟ้าแย่ลง
จากการศึกษาในปี 2022 ของ European Space Agency ราคาที่ค่อนข้างต่ำของหลอดไฟ LED ก็มีส่วนทำให้เกิดปัญหานี้เช่นกัน
มลพิษทางแสงไม่เพียงแค่ลดการมองเห็นดวงดาวของเราเท่านั้น มีการแสดงแล้วว่าส่งผลต่อสุขภาพของมนุษย์และรบกวนรูปแบบการนอน นอกจากนี้ยังส่งผลต่อพฤติกรรมของสัตว์ที่ออกหากินเวลากลางคืน โดยการศึกษาล่าสุดชิ้นหนึ่งเชื่อมโยงกับการลดลงของแมลงในท้องถิ่น
คริสโตเฟอร์ ไคบา นักวิทยาศาสตร์จากศูนย์วิจัยธรณีวิทยาแห่งเยอรมนีในเมืองพอทสดัม กล่าวกับ BBC ว่า มุมมองของเราเกี่ยวกับดวงดาวกำลังหายไป โดยทั้งเขาและเพื่อนร่วมงานตีพิมพ์การค้นพบนี้ในวารสาร Science
การเปลี่ยนแปลงการมองเห็นดวงดาวที่ผู้คนรายงาน โดยการส่งจำนวนดาวของพวกเขาไปยังโครงการออนไลน์ที่มีชื่อว่า Globe at Night พบว่าความสว่างของท้องฟ้าที่เพิ่มขึ้นเกือบ 10% ทุกปี
นักวิทยาศาสตร์กล่าวว่า เด็กที่เกิดในบริเวณที่มองเห็นดาวได้ 250 ดวง อาจจะมองเห็นดาวได้น้อยกว่า 100 ดวงในบริเวณเดียวกันในอีก 18 ปีต่อมา
มลพิษที่เปล่งประกาย
ดังที่นักวิจัยด้านมลพิษทางแสง Fabio Falchi และ Salvador Bará ชี้ให้เห็นในความเห็นของผู้เชี่ยวชาญที่ตีพิมพ์ควบคู่ไปกับงานวิจัย เมื่อดูภาพและวิดีโอของโลกในสถานีอวกาศนานาชาติในตอนกลางคืน ผู้คนมักหลงไหลใน 'ความสวยงาม' ของแสงไฟในเมือง“พวกเขาไม่มองว่านี่คือภาพของมลพิษ มันเหมือนกับการชื่นชมความงามของสีรุ้งที่น้ำมันเบนซินผลิตขึ้นในน้ำ และไม่รู้ว่านั่นคือมลพิษทางเคมี” นักวิจัยกล่าว
ไคบากล่าวว่า เขาหวังว่าจะเห็นสัญญาณของการปรับปรุงมลพิษทางแสงในช่วงไม่กี่ปีมานี้ เพราะเมื่อล่าสุด ใจกลางเมืองหลายแห่งได้เปลี่ยนแสงไฟให้ประหยัดพลังงานมากขึ้น เมืองต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศที่พัฒนาแล้ว กำลังเปลี่ยนไฟถนนแบบเก่าเป็นไฟ LED สมัยใหม ซึ่งมีประโยชน์มากขึ้น
“ความหวังคือหากแสงนำทางได้ดีขึ้น สถานการณ์ก็จะดีขึ้น” ไคบากล่าวและเสริมว่า แต่มีไฟหลายประเภท เช่น ไฟถนน ไฟประดับ ไฟโฆษณา ดังนั้นเมื่อรวมสิ่งเหล่านี้เข้าด้วยกัน และอาจให้แสงสว่างโดยรวมมากขึ้น ซึ่งตอนนี้เรากำลังทำให้ความสว่างของท้องฟ้าแย่ลง
จากการศึกษาในปี 2022 ของ European Space Agency ราคาที่ค่อนข้างต่ำของหลอดไฟ LED ก็มีส่วนทำให้เกิดปัญหานี้เช่นกัน
มลพิษทางแสงไม่เพียงแค่ลดการมองเห็นดวงดาวของเราเท่านั้น มีการแสดงแล้วว่าส่งผลต่อสุขภาพของมนุษย์และรบกวนรูปแบบการนอน นอกจากนี้ยังส่งผลต่อพฤติกรรมของสัตว์ที่ออกหากินเวลากลางคืน โดยการศึกษาล่าสุดชิ้นหนึ่งเชื่อมโยงกับการลดลงของแมลงในท้องถิ่น
