ภาพของเครื่องบินล่องหนที่ไม่เคยมีใครรู้จักมาก่อนเริ่มแพร่กระจายในโซเชียลมีเดียของจีน ทำให้เกิดการถกเถียงกันว่าเครื่องบินลำนี้เป็นเครื่องบินรบรุ่นใหม่หรือโดรนสมรรถนะสูง
มีภาพถ่ายเครื่องบินดังกล่าวอย่างน้อย 2 ภาพ ซึ่งถ่ายจากมุมต่างๆ บนพื้นดิน เผยแพร่ตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว แต่ยังไม่แน่ชัดว่าเครื่องบินมีห้องนักบินหรือห้องเก็บอาวุธภายในหรือไม่
ภาพดังกล่าวเผยให้เห็นลำตัวเครื่องบินที่เพรียวบางและมีขนาดเล็กกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับภาพเครื่องบินอีกลำที่คาดว่าเป็นเครื่องบินรบล่องหน J-36 ซึ่งบ่งชี้ว่าเครื่องบินรุ่นใหม่นี้อาจมีความเร็วสูงสุดมากกว่า
นักวิเคราะห์ทางการทหารบางคนเสนอว่า เครื่องบินรุ่นนี้อาจเป็นเครื่องบินรบล่องหนรุ่นที่ 6 ที่แตกต่างไปจากรุ่นก่อนๆ ของจีน ขณะที่มีความเชื่อกันว่าเครื่องบินรบ J-36 ใกล้จะพร้อมสำหรับการทดสอบก่อนการผลิตแล้ว
การวิเคราะห์บางส่วน รวมถึงเว็บไซต์ The War Zone ในสหรัฐฯ โต้แย้งว่าการออกแบบที่เพรียวบางและการขาดคุณสมบัติทั่วไปของเครื่องบินขับไล่ที่มีนักบิน ชี้ให้เห็นว่าอาจเป็นโดรนที่ได้รับการปรับแต่งมาโดยเฉพาะเพื่อการพรางตัวมากกว่าการควบคุมทิศทาง
อันเดรียส รุปเพรชต์ นักวิเคราะห์ด้านการบิน เขียนบนโซเชียลมีเดียว่า รูปร่างของเครื่องบินรุ่นนี้ ซึ่งเป็นรูปแบบปีกแบบแลมบ์ดาที่ชวนให้นึกถึง J-50 ซึ่งเป็นเครื่องบินรบล่องหนอีกรุ่นหนึ่งของจีนที่กำลังอยู่ระหว่างการพัฒนา แสดงให้เห็นว่าอาจเป็นการออกแบบเครื่องบินรบที่ทำงานร่วมกัน
โดรนไร้คนขับเหล่านี้ ซึ่งบางครั้งเรียกว่า “อากาศยานรบไร้คนขับอัตโนมัติสมรรถนะสูง” ได้รับการออกแบบมาให้ทำงานประสานกับเครื่องบินที่มีนักบิน แต่สามารถตัดสินใจทางยุทธวิธีด้วยตัวเองได้โดยใช้ปัญญาประดิษฐ์
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์บนโซเชียลมีเดียของจีนแย้งว่า เครื่องบินรุ่นนี้เป็นเครื่องบินขับไล่ที่มีนักบินประจำการ
ภาพของเครื่องบินลำใหม่ที่โพสต์ไว้ข้างๆ เครื่องบินขับไล่ที่ออกแบบมาใช้บนเรือบรรทุกเครื่องบินซึ่งได้รับการจดสิทธิบัตรโดยมหาวิทยาลัย Northwestern Polytechnical University บ่งชี้ว่าทั้งสองลำมีความเชื่อมโยงกัน
จีนเป็นหนึ่งในหลายประเทศ รวมถึงสหรัฐฯ ที่กำลังเร่งพัฒนาเครื่องบินรบล่องหนรุ่นที่ 6 แต่คงไม่ใช่เรื่องปกติที่จะพัฒนาเครื่องบินใหม่ๆ มากมายในรุ่นเดียวกัน
เมื่อเดือนพฤษภาคม กองทัพอากาศสหรัฐฯ มีแผนที่จะปฏิบัติการเที่ยวบินครั้งแรกให้กับสมรรถนะสูงก่อนสิ้นปีนี้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Next Generation Air Dominance แต่เมื่อสองสัปดาห์ก่อนมีรายงานว่า F-47 ของสหรัฐฯ น่าจะล่าช้าออกไป 2 ปี และยังคงมีการถกเถียงกันอย่างต่อเนื่องว่า สหรัฐฯ ควรให้ความสำคัญกับเครื่องบินรุ่นนี้ หรือเครื่องบินรุ่นที่ 6 สำหรับกองทัพเรือก่อน
การเปลี่ยนแปลงไปสู่เครื่องบินรุ่นที่ 6 แบบไม่มีหาง สะท้อนให้เห็นถึงลำดับความสำคัญที่เปลี่ยนไปในการทำสงครามทางอากาศ ซึ่งความสามารถในการพรางตัว การตรวจจับระยะไกล และความสามารถในการโจมตีถูกให้ความสำคัญมากขึ้นเหนือความคล่องตัวในระยะประชิดที่เครื่องบินรบรุ่นก่อนๆ นิยมใช้
ประเทศอื่นๆ ที่กำลังพัฒนาเครื่องบินรบรุ่นที่ 6 ได้แก่ ความร่วมมือระหว่างอังกฤษ อิตาลี และญี่ปุ่น และระบบรบทางอากาศแห่งอนาคต (Future Combat Air System) ที่กำลังพัฒนาโดยฝรั่งเศส เยอรมนี และสเปน
