แหล่งข่าวเปิดเผยกับสำนักข่าว AFP เมื่อวันพุธ (19 พ.ย.) ว่า ข้อเสนอสันติภาพฉบับใหม่ของสหรัฐฯ สำหรับยูเครนจะทำให้ ‘ยูเครนต้องเสียดินแดนให้รัสเซียและต้องลดกำลังทหารลงมากกว่าครึ่งหนึ่ง’ ขณะที่การโจมตีของรัสเซียทางตะวันตกของประเทศได้คร่าชีวิตผู้คนไป 26 ราย รวมถึงเด็ก 3 ราย
ข้อเสนอนี้ดูเหมือนจะเป็นการตอกย้ำเงื่อนไขสูงสุดของรัสเซียในการยุติสงคราม ซึ่งยูเครนปฏิเสธข้อเรียกร้องมาโดยตลอดว่าเท่ากับเป็น ‘การยอมจำนน’
ความคิดริเริ่มที่น่าประหลาดใจนี้เกิดขึ้นในช่วงที่รัสเซียยิงขีปนาวุธโจมตีเมืองเทอร์โนปิลทางตะวันตกของยูเครน ซึ่งอยู่ห่างไกลจากแนวหน้า นับเป็นการโจมตียูเครนตะวันตกที่นองเลือดที่สุดครั้งหนึ่งนับตั้งแต่การรุกรานเริ่มต้นขึ้นเมื่อปี 2022
“ร่างข้อเสนอสันติภาพของสหรัฐฯ กำหนดให้มีการรับรองไครเมียและภูมิภาคอื่นๆ ที่รัสเซียยึดครอง และลดจำนวนกองทัพลงเหลือ 400,000 นาย นอกจากนี้ ยูเครนยังจะต้องยอมสละอาวุธพิสัยไกลทั้งหมดด้วย...ประเด็นสำคัญคือ เราไม่เข้าใจว่านี่เป็นเรื่องของทรัมป์จริงๆ หรือของคณะผู้ติดตาม...ยังไม่ชัดเจนว่ารัสเซียควรจะทำอะไรเพื่อเป็นการตอบแทน”
— แหล่งข่าวใกล้ชิดไม่เปิดเผยชื่อบอกกับ AFP
CBS News รายงานโดยอ้างข้อมูลจากกองทัพสหรัฐฯ เมื่อวันพุธ (19 พ.ย.) ว่า แดเนียล ดริสคอลล์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เดินทางถึงกรุงเคียฟ พร้อมด้วยคณะผู้แทนระดับสูงจากเพนตากอน เข้าพบ เดนิส ชมีกัล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมยูเครน และเจ้าหน้าที่ยูเครน เพื่อหาทางยุติความขัดแย้ง
ก่อนหน้านี้ สำนักข่าว Axios ของอเมริการายงานว่า รัสเซียและสหรัฐฯ กำลังร่วมกันวางแผนลับเพื่อยุติสงครามที่ดำเนินมาเกือบ 4 ปี แต่รัสเซียปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับรายงานดังกล่าว โดยระบุว่า “ไม่มีความคืบหน้าใหม่ใดๆ ในกระบวนการสันติภาพ”
ขณะที่ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน กล่าวว่า เขาต้องการกลับมาแลกเปลี่ยนเชลยศึกกับรัสเซียอีกครั้งภายในสิ้นปีนี้ แต่ความหวังหลักของยูเครนก็คือ สหรัฐฯ จะสามารถผลักดันให้รัสเซียเข้าร่วมโต๊ะเจรจาจา ซึ่งรวมถึงการกำหนดมาตรการคว่ำบาตร “สงครามต้องยุติลง ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากสันติภาพ” เซเลนสกี กล่าว
ในขณะนี้ กองทัพรัสเซียกำลังรุกคืบอย่างช้าๆ และรัสเซียก็ยืนยันว่าจะยังคงสู้รบต่อไป หากยูเครนไม่ยอมทำตามข้อเรียกร้อง และจนถึงตอนนี้ รัสเซียได้ครอบครองพื้นที่ประมาณ 1 ใน 5 ของดินแดนยูเครน ซึ่งส่วนใหญ่ถูกทำลายจากการสู้รบ
(Photo by Andrew Harnik / GETTY IMAGES NORTH AMERICA / Getty Images via AFP)



