รัฐมนตรีต่างประเทศกลุ่ม G7 เริ่มการประชุมที่แคนาดาเมื่อวันอังคาร เพื่อหารือเกี่ยวกับวิกฤตยูเครนและหาทางออกสำหรับความขัดแย้งที่ยืดเยื้อมา 4 ปี พร้อมทั้งรับมือการผูกขาดแร่ธาตุสำคัญของจีนที่กระทบความมั่นคงทางเศรษฐกิจโลก
การประชุมครั้งนี้จัดขึ้นที่ภูมิภาคไนแอการ่า ประเทศแคนาดา ชายแดนสหรัฐฯ โดยคาดว่าจะมุ่งเน้นหาแนวทางระดมทุนสนับสนุนยูเครนในสงครามต่อต้านรัสเซีย หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศมาตรการคว่ำบาตรบริษัทน้ำมันรัสเซีย 2 แห่งที่ใหญ่ที่สุดเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา
ยูเครนเผชิญการโจมตีโครงสร้างพลังงาน
อนิตา อานันด์ รัฐมนตรีต่างประเทศแคนาดา กล่าวว่ายูเครนกำลังเผชิญการโจมตีที่รุนแรงต่อโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานจากรัสเซีย อย่างไรก็ตาม เธอหลีกเลี่ยงการสัญญาผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมสำหรับการช่วยเหลือเคียฟในการประชุมครั้งนี้
อานันด์ระบุว่าลำดับความสำคัญของการประชุมคือการขยายการสนทนาให้กว้างขึ้นนอกเหนือจากกลุ่ม G7 ที่ประกอบด้วยอังกฤษ แคนาดา ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี ญี่ปุ่น และสหรัฐฯ โดยมีตัวแทนจากซาอุดีอะระเบีย อินเดีย บราซิล ออสเตรเลีย แอฟริกาใต้ เม็กซิโก และเกาหลีใต้เข้าร่วมด้วย
วิกฤตการผูกขาดแร่ธาตุสำคัญ
การประชุมครั้งนี้จัดขึ้นหลังจากรัฐมนตรีพลังงาน G7 ตกลงมาตรการเพิ่มเติมเพื่อตอบโต้การผูกขาดห่วงโซ่อุปทานแร่ธาตุสำคัญของจีนเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน ปักกิ่งสร้างการควบคุมตลาดในการกลั่นและแปรรูปแร่ธาตุต่างๆ โดยเฉพาะแร่ดินหายากที่จำเป็นสำหรับแม่เหล็กในเทคโนโลยีที่ทันสมัย
G7 ประกาศโครงการร่วมเบื้องต้นเมื่อเดือนที่แล้วเพื่อเพิ่มกำลังการกลั่นที่ไม่รวมจีน แม้สหรัฐฯ จะไม่เป็นภาคีในข้อตกลงเบื้องต้นเหล่านั้น แต่รัฐบาลทรัมป์ส่งสัญญาณสอดคล้องกับพันธมิตร G7
การเจรจาทวิภาคีสหรัฐฯ-แคนาดา
มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ กำหนดจะจัดการเจรจาทวิภาคีกับอานันด์ในวันพุธ ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการประชุม G7 อานันด์กล่าวว่าไม่คาดหวังจะเรียกร้องปัญหาสงครามการค้าของทรัมป์ที่ส่งผลกระทบต่อการจ้างงานและการเติบโตทางเศรษฐกิจของแคนาดา
เจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เปิดเผยก่อนการประชุมว่า ห่วงโซ่อุปทานแร่ธาตุสำคัญจะเป็นจุดสนใจหลัก โดยระบุว่า มีฉันทามติระดับโลกที่เพิ่มขึ้นในหมู่พันธมิตรว่าความมั่นคงทางเศรษฐกิจคือความมั่นคงของชาติ


