ฌอง-โนเอล บาร์โรต์ รัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศส เริ่มการเยือนกรีนแลนด์เป็นเวลา 2 วันตั้งแต่วันเสาร์ เพื่อแสดงความสามัคคีกับดินแดนปกครองตนเองของเดนมาร์ก หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐอมริการะบุซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าต้องการให้สหรัฐฯ เข้าครอบครองเกาะแห่งนี้
การเยือนครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากสถานีโทรทัศน์สาธารณะเดนมาร์กรายงานว่า เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ อย่างน้อย 3 คน ที่ใกล้ชิดกับทรัมป์ เดินทางไปกรีนแลนด์เพื่อหาบุคคลที่สามารถใช้ในแคมเปญต่อต้านเดนมาร์ก เดนมาร์กจึงเรียกตัวผู้รักษาการแทนทูตสหรัฐฯ เมื่อวันพุธ หลังรายงานการปฏิบัติการแทรกแซงที่มีเป้าหมายเพื่อรวบรวมข้อมูลในประเด็นที่สร้างความตึงเครียดระหว่างกรีนแลนด์และเดนมาร์ก
การแสดงสามัคคีของฝรั่งเศส
กระทรวงการต่างประเทศฝรั่งเศสระบุว่า การเดินทางของบาร์โรต์จะ แสดงให้เห็นถึงความสามัคคีของฝรั่งเศสต่อเดนมาร์ก กรีนแลนด์ และประชาชนชาวกรีนแลนด์ในการเผชิญกับความท้าทายในปัจจุบัน
รัฐมนตรีต่างประเทศได้เยี่ยมชมเรือกองทัพเรือฝรั่งเศส บีเอสเอเอ็ม การอนน์ ที่ท่าเรือนุก เมืองหลวงของกรีนแลนด์ เมื่อวันเสาร์ บาร์โรต์กล่าวว่า ภูมิภาคเหล่านี้ห่างไกล แต่ปัจจุบันได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งรูปแบบหนึ่ง การรุกรานรูปแบบใหม่ ซึ่งเป็นเหตุผลที่ฝรั่งเศส ในฐานะมหาอำนาจทางทะเล มาอยู่ที่นี่ในวันนี้
การประชุมกับผู้นำกรีนแลนด์
ในวันอาทิตย์ บาร์โรต์จะพบกับวิเวียน มอตซ์เฟลด์ท รัฐมนตรีต่างประเทศกรีนแลนด์ และเยนส์-เฟรเดริก นีลเซน นายกรัฐมนตรีกรีนแลนด์ ก่อนจะจัดแถลงข่าว
ก่อนหน้านี้ เอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส เคยเยือนกรีนแลนด์เมื่อเดือนมิถุนายน โดยแสดงความสามัคคีของยุโรปต่อประชาชนชาวกรีนแลนด์ และวิพากษ์วิจารณ์การคุกคามของทรัมป์ที่จะผนวกเกาะอาร์กติกแห่งนี้
ความต้องการอิสรภาพของกรีนแลนด์
ทรัมป์ระบุซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่า สหรัฐฯ ต้องการกรีนแลนด์ ซึ่งมีทำเลยุทธศาสตร์และอุดมไปด้วยทรัพยากร เพื่อเหตุผลด้านความมั่นคง และปฏิเสธที่จะยกเลิกการใช้กำลังในการยึดครอง ทั้งเดนมาร์กและกรีนแลนด์ยืนยันว่าเกาะแห่งนี้ไม่ได้ขาย และจะตัดสินอนาคตของตนเอง
แบบสำรวจความคิดเห็นเมื่อเดือนมกราคมพบว่า ประชาชนกรีนแลนด์ส่วนใหญ่จากทั้งหมด 57,000 คน ต้องการเป็นอิสระจากเดนมาร์ก แต่ไม่ต้องการเป็นส่วนหนึ่งของสหรัฐอมริกา