โม กอว์ดัต อดีตผู้บริหารของ Google เผยคำเตือนสุดสะพรึงเกี่ยวกับสังคมในอนาคตของโลกของเราผ่านรายการ The Diary Of A CEO โดยระบุว่า มีความเป็นไปได้สูงมากที่เราจะได้อยู่ในยุคของ ‘ดิสโทเปีย’ ในเวลาอันใกล้
กอว์ดัตเคยดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายธุรกิจของ Google X ซึ่งเป็นหน่วยงานวิจัยและพัฒนาที่ปัจจุบันรู้จักกันในชื่อ X Development LLC.
หลังจากร่วมงานกับกูเกิลในปี 2007 และทำงานอยู่ที่นั่นมาหลายปี จนกล่าวได้อย่างเต็มปากว่าผู้บริหารชาวอียิปต์รายนี้มีความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีและปัญญาประดิษฐ์ (AI) แต่ระหว่างการปรากฏตัวในรายการ The Diary of a CEO เขากลับไม่ได้พูดถึงอนาคตของโลกในแง่ดีมากนัก
ระหว่างให้สัมภาษณ์กับ สตีเวน บาร์ตเลตต์ กอว์ดัตเผยว่า “ในอีก 12 ถึง 15 ปีข้างหน้า เราจะเผชิญหน้ากับโลก ‘ดิสโทเปีย’ ระยะสั้น ไม่มีทางที่จะหนีพ้นจากสถานการณ์นั้นได้”
โลกดิสโทเปียในความหมายของกอว์ดัตหมายถึง สภาพแวดล้อมอันเลวร้ายที่อาจลุกลามไปไกลเกินกว่าที่เราจะควบคุมได้
ตามนิยมของสังคมดิสโทเปีย หรือ “สังคมไม่พึงประสงค์” คือ สังคมในจินตนาการที่ไม่พึงปรารถนาและเต็มไปด้วยความหวาดกลัว โลกจะมีผู้ควบคุมเบ็ดเสร็จ ประชาชนขาดอิสรภาพส่วนบุคคลและโดนเฝ้าระวังตลอดเวลา เช่นที่ปรากฏในวรรณกรรมเรื่อง 1984 และ The Hunger Games
กอว์ดัตยังอ้างว่า ลักษณะและรูปแบบของแนวคิดหลายอย่าง เช่น เสรีภาพ ความรับผิดชอบ ความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์ด้วยกัน ความเท่าเทียม เศรษฐกิจ ความจริง นวัตกรรม ธุรกิจ และอำนาจ อาจเปลี่ยนแปลงไปโดยสิ้นเชิงได้
แต่ที่น่าตกใจคือ อดีตผู้บริหารของกูเกิลกลับบอกว่า สภาพสังคมดิสโทเปียนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ AI ทั้งที่มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากสาธารณชนเกี่ยวกับศักยภาพที่น่าเป็นกังวลของปัญญาประดิษฐ์ กอว์ดัตชี้ว่า ยุคดิสโทเปียนั้น “ถูกกำหนดโดยศีลธรรมของมนุษยชาติในยุคที่เอไอกำลังรุ่งเรือง” มากกว่า
กอว์ดัตอธิบายว่า เราจะผ่านพ้นช่วงที่ยากลำบากจากการที่มี “คนที่ใช้เอไอในทางไม่ดี” โดยย้ำว่าเขาเชื่อมั่นอย่างเต็มที่ว่าในที่สุดแล้วเราจะเข้าสู่โลกในอุดมคติในระยะยาว แต่ก็แนะนำว่า เราจะต้องเตรียมพร้อมสำหรับโลกที่ไม่คุ้นเคยอย่างมาก
กอว์ดัตคาดการณ์ว่า โลกดิสโทเปียจะคงอยู่ไปอีก 12-15 ปีข้างหน้า โดยจะมีจุดเริ่มต้นราวปี 2027
“เราจะเห็นสัญญาณที่ทวีความรุนแรงขึ้นในปีหน้า และหลังจากนั้นก็จะค่อยๆ แย่ลงในปี 2027”
กอว์ดัตเผยอีกว่า “คุณต้องคิดให้ลึกลงไป ไม่ใช่คิดเรื่องสังคมที่เปลี่ยนแปลง แต่คิดเรื่องเหตุผลที่เราใช้ชีวิตอยู่ในโลกที่เราอาศัยอยู่ทุกวันนี้ด้วย นั่นคือเรื่องเงิน”
Photo by Wikipedia / Anything Goes With James English