สหภาพยุโรป (EU) เสนอมาตรการที่แข็งกร้าวและรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่สงครามกาซาเริ่มขึ้น โดยเรียกร้องให้ระงับข้อตกลงการค้ากับอิสราเอล และคว่ำบาตรรัฐมนตรีหัวรุนแรง แม้ว่าการต่อต้านจากประเทศสมาชิกบางส่วน อาจขัดขวางการนำไปปฏิบัติก็ตาม ขณะเดียวกัน คณะกรรมาธิการยุโรปประกาศหยุดเงินสนับสนุนอิสราเอลทันที 20 ล้านยูโร (837 ล้านบาท)
แรงกดดันจากสถานการณ์กาซา
แรงกดดันต่อกลุ่มประเทศ 27 ชาติให้ดำเนินการกับอิสราเอลเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังการโจมตีที่รุนแรงในกาซาเกือบ 2 ปี ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป เออร์ซูลา ฟอน เดอร์ ไลเยน กล่าวว่า เหตุการณ์น่าสยดสยองที่เกิดขึ้นทุกวันในกาซาต้องหยุดลง ต้องมีการหยุดยิงทันที การเข้าถึงความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมอย่างไม่มีข้อจำกัด และการปล่อยตัวประกันทั้งหมดที่ฮามาสจับไว้
มาตรการทางเศรษฐกิจและการคว่ำบาตร
ภายใต้ข้อเสนอใหม่ บรัสเซลส์กดดันให้ระงับส่วนของข้อตกลงความร่วมมือที่อนุญาตให้ลดอัตราภาษีสินค้าจากอิสราเอล เจ้าหน้าที่เปิดเผยว่ามาตรการนี้จะกระทบการส่งออกของอิสราเอลไปยัง EU มากกว่า 1 ใน 3 มูลค่าประมาณ 6 พันล้านยูโร รวมถึงผลิตภัณฑ์เกษตรอย่างอินทผลัมและถั่ว
คณะกรรมาธิการยังเรียกร้องให้อายัดทรัพย์สินและห้ามออกวีซ่าสำหรับรัฐมนตรีรัฐบาลอิสราเอลหัวรุนแรง อิตามาร์ เบน กวีร์ และ เบซาเลล สโมทริช เนื่องจากวาทกรรมหัวรุนแรงของพวกเขา
อุปสรรคจากประเทศสมาชิก
แม้ว่ารัฐมนตรีต่างประเทศไอร์แลนด์ ไซมอน แฮร์ริส จะกล่าวว่า วันนี้เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในการให้อิสราเอลรับผิดชอบ แต่การต่อต้านจากเยอรมนีและอิตาลีทำให้กลุ่มประเทศ EU จะต้องดิ้นรนเพื่อได้รับการสนับสนุนจากประเทศสมาชิกให้เพียงพอ
การตอบโต้จากอิสราเอล
อิสราเอลเรียกการเคลื่อนไหวนี้ว่า บิดเบือนทางศีลธรรมและการเมือง รัฐมนตรีต่างประศอิสราเอล กิเดโอน ซาร์ เขียนบนแพลตฟอร์ม X ว่า การดำเนินการใดๆ ต่ออิสราเอลจะได้รับการตอบโต้ที่เหมาะสม และเราหวังว่าจะไม่ต้องใช้มาตรการเหล่านั้น
หัวหน้านโยบายต่างประเทศ EU คายา คัลลาส ยืนยันว่าเป้าหมาย ไม่ใช่การลงโทษอิสราเอล แต่เป็นการพยายามปรับปรุงสถานการณ์ด้านมนุษยธรรมในกาซา