หน่วยงานด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ของสหภาพยุโรป (EU) เผยว่า การหยุดชะงักของสนามบินที่ส่งผลกระทบต่อระบบเช็คอินอัตโนมัติในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา มีสาเหตุมาจากการถูกมัลแวร์โจมตี ซึ่งเป็นการเน้นย้ำถึงความเสี่ยงที่เพิ่มมากขึ้นจากการโจมตีประเภทดังกล่าวต่อโครงสร้างพื้นฐานและอุตสาหกรรมที่สำคัญ
สนามบินใหญ่ของยุโรปหลายแห่งยังโกลาหลในวันจันทร์ (22 ก.ย.) หลังแฮกเกอร์โจมตีระบบเช็คอินอัตโนมัติที่ให้บริการโดย Collins Aerospace จนส่งผลกระทบต่อเที่ยวบินและผู้โดยสารหลายพันคนตั้งแต่วันศุกร์
หน่วยงาน ENISA กล่าวในแถลงการณ์ว่า “เจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายกำลังสืบสวน” ซอฟต์แวร์ที่เป็นอันตรายที่ล็อกข้อมูลจนกว่าเหยื่อจะจ่ายเงินเพื่อให้เข้าถึงได้อีกครั้ง โดยไม่ได้ระบุว่าการโจมตีด้วยมัลแวร์มีต้นกำเนิดมาจากที่ใด
ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา บรรดารัฐบาลและบริษัทต่างๆ รวมทั้งผู้ผลิตรถยนต์หรูอย่าง Jaguar Land Rover ตกเป็นเป้าหมายของการโจมตีทางไซเบอร์ โดย Jaguar Land Rover กระทบหนักถึงขั้นต้องหยุดการผลิต
แรฟ พิลลิง จาก Sophos บริษัทรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์เผยกับ Reuters ว่า มีมัลแวร์หลายตัวพยายามโจมตีเหยื่อที่ มีชื่อเสียงโดดเด่น เพราะเหยื่อเหล่านี้เป็นที่สนใจของผู้คน แต่การโจมตีลักษณะนี้เกิดขึ้นไม่บ่อย
พิลลิงเผยอีกว่า “การโจมตีที่สร้างความปั่นป่วนเริ่มปรากฏให้เห็นชัดเจนมากขึ้นในยุโรป แต่การเกิดขึ้นครั้งนี้ก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะเกิดขึ้นถี่ การโจมตีที่สร้างความเสียหายในระดับใหญ่ที่ลุกลามไปสู่โลกกายภาพนั้นยังคงเป็นข้อยกเว้นมากกว่ากฎเกณฑ์”
การสำรวจบริษัท 1,000 แห่งโดยกลุ่มอุตสาหกรรม Bitkom ของเยอรมนีพบว่า มัลแวร์เป็นรูปแบบการโจมตีทางไซเบอร์ที่เกิดขึ้นบ่อยที่สุด โดย 1 ใน 7 บริษัทยอมจ่ายค่าไถ่
ระบบเช็คอินหลายสนามบินยังใช้ไม่ได้
Collins Aerospace ระบุเมื่อวันจันทร์ว่า บริษัทกำลังทำงานร่วมกับสนามบินที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งรวมถึงสนามบินบรัสเซลส์และสนามบินฮีทโธรว์ลอนดอน ซึ่งเป็นสนามบินที่มีผู้โดยสารพลุกพล่านที่สุดในยุโรป และอยู่ในขั้นตอนสุดท้ายของการปรับปรุงเพื่อให้กลับมาใช้งานได้ตามปกติ
“สายการบินต่างๆ ในสนามบินฮีทโธรว์ได้ดำเนินมาตรการฉุกเฉิน ขณะที่ Collins Aerospace ซึ่งเป็นซัพพลายเออร์ของสายการบิน กำลังดำเนินการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับระบบเช็คอินของสายการบินที่สนามบินทั่วโลก” โฆษกของสนามบินฮีทโธรว์เผยกับ Reuters
สนามบินเบอร์ลิน ซึ่งต้องรองรับนักเดินทางมากกว่าปกติในวันจันทร์เนื่องจากมีการแข่งขันเบอร์ลินมาราธอน ระบบเช็คอินยังไม่กลับมาและมีรายงานว่าเที่ยวบินขาออกต้องล่าช้าราว 1 ชั่วโมง
ผู้โดยสารรายหนึ่งเล่าถึงขั้นตอนการขึ้นเครื่องว่า เหมือนกับช่วงทศวรรษแรกๆ ของการบินพาณิชย์ ที่ต้องใช้มือเขียนบอร์ดดิงพาส
ส่วนสนามบินบรัสเซลส์ใช้ไอแพดและแล็ปท็อปในการเช็คผู้โดยสารออนไลน์ สนามบินแจ้งว่าจากเที่ยวบินบินขาเข้าและขาออก 550 ไฟลต์ มี 60 ไฟลต์ต้องยกเลิกเมื่อวันจันทร์
ข้อมูลจากบริษัทวิเคราะห์ข้อมูลการบิน Cirium แสดงให้เห็นว่า สนามบินบรัสเซลส์ยังมีอัตราการยกเลิกเที่ยวบินสูง โดยมีการยกเลิกเที่ยวบินรวมทั้งหมด 29 ไฟลต์ และ “มีเที่ยวบินขาออกเพียง 42% เท่านั้นที่ขึ้นบินภายใน 1 ชั่วโมงของเวลาเดินทางที่กำหนด
ท่าอากาศยานดับลินได้รับ “ผลกระทบน้อยที่สุด” และมีกระบวนการที่ต้องใช้มือทำอยู่บ้าง
Photo by JUSTIN TALLIS / AFP