การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศทำให้เครื่องบินเจอความปั่นป่วนมากขึ้น นักวิทยาศาสตร์เตือนเพิ่มขึ้น 155%

22 ส.ค. 2568 - 08:01

  • ข้อมูลระหว่าง 1980-2021 แสดงความปั่นป่วนในอากาศเพิ่มขึ้น 60-155% ในหลายภูมิภาค

  • ความปั่นป่วนเป็นสาเหตุหลักของอุบัติเหตุในอากาศจากสภาพอากาศ

  • อุณหภูมิโลกร้อนขึ้น 1°C ทำให้ความปั่นป่วนเพิ่มขึ้น 9-14% ในแอตแลนติกเหนือ

การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศทำให้เครื่องบินเจอความปั่นป่วนมากขึ้น นักวิทยาศาสตร์เตือนเพิ่มขึ้น 155%

การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศกำลังทำให้การเดินทางโดยเครื่องบินมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น เมื่อความแปรปรวนในอากาศ (Air Turbulence) รุนแรงมากขึ้นตามหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะ Clear-Air Turbulence ที่มองไม่เห็นแต่อันตรายที่สุดต่อผู้โดยสาร

การศึกษาของ Mohamed Foudad นักวิทยาศาสตร์ด้านบรรยากาศจากมหาวิทยาลัย Reading ในสหราชอาณาจักร วิเคราะห์ข้อมูลระหว่าง 1980-2021 พบว่า ความแปรปรวนเพิ่มขึ้นชัดเจนในหลายภูมิภาค รวมถึงแอตแลนติกเหนือ อเมริกาเหนือ เอเชียตะวันออก ตะวันออกกลาง และแอฟริกาเหนือ โดยมีอัตราการเพิ่มขึ้นตั้งแต่ 60-155%

สาเหตุจากการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ

ความแปรปรวนประเภท Clear-Air Turbulence (CAT) เป็นประเภทที่อันตรายที่สุด เพราะมองไม่เห็นด้วยตาเปล่าหรือเรดาร์ ความปแรปรวนชนิดนี้เกิดจาก Jet Stream กระแสลมความเร็วสูงในบรรยากาศชั้นบนที่ระดับความสูงเดียวกับเครื่องบินโดยสาร ประมาณ 10-12 กิโลเมตร ส่งผลให้ความเร็วของ Jet Stream และ Wind Shear เพิ่มขึ้น

ผลกระทบต่อความปลอดภัย

ข้อมูลอย่างเป็นทางการระบุว่า ความแปรปรวนเป็นสาเหตุหลักของอุบัติเหตุในเที่ยวบินจากสภาพอากาศ ระหว่าง 2009-2024 มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 207 คนในเที่ยวบินพาณิชย์สหรัฐอมริกา John Abraham ศาสตราจารย์ด้านวิศวกรรมเครื่องกลจากมหาวิทยาลัย St. Thomas อธิบายว่า การบาดเจ็บมักเกิดกับผู้โดยสารที่ไม่คาดเข็มขัดหรือลูกเรือ มากกว่าความเสียหายของตัวเครื่อง

แนวโน้มอนาคต

การศึกษาของ Isabel Smith จากมหาวิทยาลัย Reading ปี 2023 พบว่า อุณหภูมิใกล้พื้นผิวโลกเพิ่มขึ้นทุก 1°C จะทำให้ความแปรปรวน CAT ระดับปานกลางในแอตแลนติกเหนือเพิ่มขึ้น 9% ในฤดูหนาว และ 14% ในฤดูร้อน

มาตรการรับมือ

Foudad กำลังศึกษาสองแนวทาง คือ การปรับเส้นทางบินให้หลีกเลี่ยงจุดเสี่ยงและการปรับปรุงความแม่นยำของการพยากรณ์ สายการบินบางแห่งเริ่มใช้กลยุทธ์ให้ผู้โดยสารคาดเข็มขัดบ่อยขึ้น และยุติการบริการในห้องโดยสารเร็วขึ้น

เทคโนโลยี LIDAR ที่ติดตั้งบนเครื่องบินกำลังได้รับการทดสอบ ซึ่งสามารถยิงเลเซอร์เข้าสู่บรรยากาศเพื่อตรวจจับการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยของความหนาแน่นอากاศและความเร็วลม อย่างไรก็ตาม การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกยังคงเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการแก้ปัญหานี้

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์